นับเป็นครั้งแรกที่ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ และเป็นการเปิดใจหลายเรื่องราวทั้งชีวิตความเป็นอยู่หลังอุบัติเหตุทางการเมือง ทัศนะ มุมมอง และความระลึกถึงเมืองไทย ซึ่ง “ประชาทรรศน์รายวัน” ได้คัดเอาบางช่วงบางตอนมานำเสนอ...
ชีวิตในยามที่อยู่ไกลบ้านเป็นอย่างไรบ้าง
บางครั้งก็ทุกข์ บางครั้งสุข บางครั้งเบื่อ บางครั้งก็สบายดี เป็นชีวิตที่ต้องยอมรับว่าสิ่งที่เราทุ่มเทกับบ้านเมือง แต่สิ่งที่ได้รับมาวันนี้ บางครั้งก็เสียใจ น้อยใจ ต้องปล่อยวาง เกิดขึ้นดับไปก็เป็นธรรมดา บางครั้งคิดถึงครอบครัว ลูก เมีย บ้านเมือง
บางครั้งระหกระเหินไปอยู่ที่นู่นบางที่นี้บ้าง แต่อยู่นานๆแล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่บ้าน กลับกันเมื่อบอกว่าไม่ต้องทำงานแล้วก็สบาย มีความสุขและทำเรื่องท้าทายใหม่ๆ เช่นการทำสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตตี้ ก็เป็นเรื่องท้าทายที่มีความสุขไปอีกแบบ
แต่พอเจออุปสรรคที่ทางรัฐบาล เขากดดันทุกรูปแบบ ความรู้สึกมันปนๆกันรู้สึกว่าต้องปล่อยว่าง พระพุทธเจ้าท่านบอกว่าเกิดมาต้องใช้กรรม ก็ไม่เป็นไร เป็นเรื่องที่เราต้องทำใจและทำให้ดีมากที่สุด เป็นเรื่องที่เราต้องปล่อยวางมาก ยิ้มให้มาก
หากย้อนเวลาได้ อยากแก้ไขอะไรตรงจุดไหนบ้าง
มีหลายอย่างที่ผมมีเวลาได้ทบทวนตัวเอง ว่าสิ่งที่ผมได้ทำลงไปในการบริหารบ้านเมืองนั้น ไม่มีอะไรต้องเปลี่ยนแปลง เพราะมันเป็นสิ่งที่ต้องทำ คนเป็นผู้นำต้องมอง ยุทธศาสตร์ชาติ และต้องบริหารไม่ให้ยุทธศาสตร์เหล่านั้นขัดแย้งกัน เพราะหน่วยงานมีมาก เราจึงต้องทำอย่างไร ให้หน่วยกระทรวงเหล่านั้นเดินทางไปอย่างมีพลัง
แต่มันก็มีสิ่งที่เสีย เนื่องจาก เราลงรายละเอียดในด้านการบริหารตรงจุดนั้นมาก จนไม่มีเวลาบริหารจัดการสิ่งที่เป็นแบบไทยๆ คือ ต้องมีเวลาอยู่กับกลุ่มต่างๆในประเทศ ต้องไปนั่งกินข้าวกัน ดื่มไวน์กลับกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ เพื่อให้เกิดความเข้าใจ
พอเราไม่ได้บริหารตรงจุดนั้น ความเข้าใจจึงไม่เกิด การพูดกันไม่มี จนมีจิตปรุงแต่ง มองไปต่างๆนานาว่าต้องเป็นเช่นนั้นเช่นนี้ ในแง่ร้าย จนกลายเป็นกระแส พอมีคนมาเติมเชื้อจึงกลายเป็นกระแสลบไป ทั้งๆที่เราทำหลายอย่างที่เป็นบวกมากมาย
ถามตรงๆว่า ประชาชนควรเลือกใคร ท่านถึงจะกลับเมืองไทย
ผมคิดว่าคนที่ไม่ทิ้งผม ในยามสุข และยามทุกข์ ก็ไม่ทิ้งกัน ก็ถือว่าเป็นเพื่อนแท้ ถ้าประชาชนจะเลือก ก็ขอให้เลือกเพื่อนแท้ เพื่อผมจะได้มีโอกาสได้รับความเป็นธรรมบ้าง หลังจากที่ถูกกลั่นแกล้งมา
ได้ฝากคำแนะนำอะไรกับหัวหน้าพรรคพลังประชาชนบ้างหรือไม่
ท่านเป็นนักการเมืองอาวุธโส กว่าผม คงไม่มีอะไรต้องแนะนำ และตอนนี้ผมใช้เวลาหมดไปกับสโมสรฟุตบอล เลยไม่ได้มีการติดต่อกันอีกเลย ภายหลังจากที่แนะนำครั้งนั้น ก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย คงไม่ต้องแนะนำเพราะท่านเป็นผู้ที่มีประสบการณ์เยอะอยู่แล้ว
อีกคนคือนาย
คุณ
อย่างนั้นที่พรรคชาติไทยอ้างว่าจะพาท่านกลับบ้านก็ไม่จริง
ไม่จริงครับ เพราะไม่ได้ติดต่ออะไรกับท่านเลย
จะแนะนำประชาชนอย่างไร ในการใช้ชีวิตในปีต่อไป
ปีหน้าเศรษฐกิจของโลกและภายในประเทศจะแย่กว่าปีนี้ แนวโน้มน้ำมันจะราคาแพงขึ้น ท่านต้องใช้เงินให้เป็น ยึดตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่าใช้เกินตัว ใช้จ่ายตามรายได้ อย่าสร้างนี้โดยไม่เกิดรายได้ ต้องสร้างหนี้เพื่อเป็นการลงทุนให้เกิดรายได้ เพราะรายจ่ายในชีวิตประจำวันต้องสูงขึ้นแน่นอน
มีบางคนนอนไม่หลับเพราะกลัวว่าท่านจะกลับมาแก้แค้น
ก่อนอื่นต้องร้องเพลงบอกเลยว่า หลับเถิดหลับให้สบาย ไม่ต้องกลัว ผมคือประชาชนธรรมดาคนหนึ่งที่อยากกลับไปสู่ใต้ร่มโพธิสมภารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อยากไปเป็นเป็นพสกนิกรคนหนึ่ง อยากไปอยู่กับครอบครัว ที่ผมเอาเปรียบมานานไม่มีเวลาให้ ที่ผ่านมาผมเจ็บเยอะแล้ว ผมไม่ต้องการสร้างศัตรูเพิ่ม ผมให้อภัยทุกฝ่าย ไม่ต้องการแก้แค้นใคร ประเทศชาติสำคัญกว่า เลิกทะเลาะกัน ไปทำมาหากินซะเถอะ
ผมเวลาทำงาน5-6 ปี แทบไม่มีเวลาอยู่กับครอบครัว จนเมียชินเมื่อผมมานอนด้วยแล้วนอนไม่หลับ ตอนนี้ผมอยากกลับไปอยู่กับครอบครัว เพราะผมเหนื่อยมาเยอะ อยากอยู่อย่างสันติ ไม่อยากมีเรื่องกับใคร ไม่อยากมีศัตรู อยากอยู่อย่างปลอดภัย อยากทำตัวเป็นประโยชน์ของสังคมในภาพรวม เพราะเป็นนายกเหนื่อยที่สุดของชีวิตแล้ว ตอนนี้คงต้องกลับคืนสู่ธรรมชาติ คืออยู่กับครอบครัว จึงอยากขอร้องทุกฝ่ายว่าไม่ต้องระแวงผมคุยกับผมได้ ผมยินดีคุยกับทุกฝ่าย
แต่ถามว่าเจ็บมั้ย หัวใจผมทำด้วยเนื้อก็เจ็บ ไม่ใช่พระอิฐพระปูน แต่เจ็บอย่างไร ผมก็พร้อมที่จะให้อภัยทุกฝ่าย เพราะอยากให้ชาติสงบสุข อีกทั้งปีนี้เป็นปีมหามงคล เลิกทำตัวใหญ่หยุดเถอะ หันหน้าเข้าหากัน ตอนนี้เราถอยหลังมาเยอะเราควรเดินหน้าพัฒนาดีกว่าจะทำให้ทุกคนล้าหลัง
ตอนนี้มีการสร้างวัฒนธรรมใหม่ว่า อย่าทำเด่นมากนักเดี๋ยวจะอันตราย ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดเราต้องให้การสนับสนุน ขอให้ผมเป็นเหยื่อรายสุดท้ายรับกรรมคนเดียวพอ อย่าให้มีอีกเลย อย่าให้ประเทศทั้งประเทศต้องเสียหายอย่างนี้อีกเลย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านจะได้สบายพระทัย อย่างไรก็ขอขอบคุณเพื่อนร่วมชาติที่ห่วงใย รวมถึงประชาชนด้วย
กรณีที่ คมช. หวาดผวาว่าจะมีการเช็คบิล
ต้องบอกกับพวกเขาเหล่านั้นว่า ผมเป็นนักเรียนทหาร ผมเป็นนักเรียนนาย
อยากฝากอะไรถึงพี่น้องประชาชนชาวไทยบ้าง
อยากให้พี่น้องประชาชน อดทน เพราะสิ่งที่เคยเป็นความสุข สิ่งที่ดีงาม ที่พี่น้องได้รับต้องกลับมาแน่นอน มันอาจหายไปชั่วคราว พี่น้องทุกข์ ผมก็ทุกข์ ต้องระหกระเหินไกลบ้าน ไกลลุกเมีย ผมต้องอยู่ภายใต้ความกดดัน นอกจากนั้นยังมีการกลั่นแกล้งกันด้วย ซึ่งถือว่าไม่เคยมีมาก่อนว่าอดีตผู้นำประเทศถูกกลั่นแกล้ง ไม่เคยเชื่อเลยว่าจะเกิดขึ้น แต่เชื่อว่ามีมืดย่อมมีสว่าง ตราบใดที่เรายังยึดมั่นในสิ่งที่ทำ เราก็ทำต่อไป พี่น้องก็จะได้รับแสงสว่างแน่นอน ความสุขที่เคยมีในรัฐบาลผม จะกลับมาแน่ ถ้าประชาธิปไตยกลับคืนสู่สภาพ ถ้าไม่เลือกคนเพราะอามิสสินจ้าง
หากขอพรได้ 3 ข้อ จะขออะไรบ้าง
ขอที่ 1 ขอให้พระเจ้าอยู่หัวทรงพระเจริญ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน เป็นร่มโพธิร่มไทรของคนไทย ขอที่2 ให้ความปรองดอง และความเชื่อมั่นกลับสู่ประเทศไทย และข้อที่3 คนไทยมีประสบแต่ความสุขความเจริญ มีความหวังและมีโอกาสตลอดไป
ประชาชนต้องรออีกนานไหมกว่าจะกลับเมืองไทย
ไม่นานเกินรอ ซึ่งต้องดูผลการเลือกตั้งก่อนว่าเป็นอย่างไร ถ้าผมจะได้รับความเป็นธรรมก็กลับ อยู่ที่พี่น้องประชาชน อยากให้ผมกลับหรือไม่
ตอนนี้คิดถึงบ้านมั้ย
คิดถึงมาก คิดถึงมาก คิดถึงมากจริง ผมเป็นคนรักบ้านรักเมีย รักลูก อยากกลับไปอยู่เหมือนครอบครัวทั่วไป ไม่ว่าจะรวยจะจน มนุษย์ก็คือมนุษย์ ต้องการคนที่รักมาอยู่ใกล้ชิด ตอนนี้ครอบครัวอยู่คนละทิศคนละทาง ทั้งที่ผลกรรมเกิดจากการทำดี ความทุ่มเท ความตั้งใจ ซึ่งผมเชื่อว่าสิ่งศักดิสิทธิ์มีจริง สักวันหนึ่งคงจะได้กลับไปอยู่กับครอบครัว และรับใช้ประเทศในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ไม่ใช่ฐานะนายกรัฐมนตรี
สิ่งแรกที่จะทำหลังจากกลับสู่แผ่นดินไทย
ก็คงแน่นอนว่า ต้องอยู่พร้อมหน้าลูกเมีย จากนั้นถ้ามีโอกาสจะเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ก็ถือว่าเป็นบุญ และจากนั้นคงเดินทางไปทำบุญทั่วประเทศ