เอกสารลับหลุดโผ อ้าง รัฐธรรมนูญบังหน้า ย้ำ ยังไม่มีการกระทำให้เกิดความเสียหาย ด้าน ‘สดศรี’ เสียงแตก ลั่น ไม่มีอำนาจในการวินิจฉัย
เวลา 12.30 น. สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง อาคารศรีจุลทรัพย์ นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้แถลงภายหลังการประชุมพิจารณาเรื่องเอกสารลับของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ว่า ที่ประชุม กกต.มีมติ 4 ต่อ 1 เสียงให้ยกคำร้อง โดย1 เสียง คือนางสดศรี สัตยธรรม กกต. ด้านกิจการพรรคการเมือง เห็นว่า กกต.ไม่มีอำนาจเข้าไปวินิจฉัยหรือตรวจสอบ การทำงานของ คมช. และควรจะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญทำหน้าที่วินิจฉัย
ส่วนอีก 4 เสียงที่ให้ยกคำร้องก็มีเหตุผลที่แตกต่างกัน โดย 2 เสียงเห็นว่า การกระทำของ คมช.ได้รับการคุ้มครองจากรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2549 และมาตรา 309 ของรัฐธรรมนูญปี 2550 ซึ่งเหมือนกับความเห็นของคณะกรรมการสอบสวนเสียงข้างน้อย 3 เสียง ที่มีนายสุพล ยุติธาดา เป็นประธาน ส่วนอีก 2 เสียงเห็นว่ายังไม่มีการกระทำที่จะทำให้เกิดความเสียหายกับพรรคการเมืองหรือผู้ใด
ผู้สื่อข่าวถามว่า การพิจารณาของกกต. ให้น้ำหนักอยู่ที่การไม่กระทำใช่หรือไม่มีอำนาจวินิจฉัย นายอภิชาต กล่าวว่าไม่ได้มีการกระทำ เพราะแผนปฏิบัติการที่กำหนดออกมายังไม่มีการอนุมัติงบประมาณให้กระทำ จึงไม่มีการสั่งห้ามอะไรทั้งนั้น เพราะจากพยานฝ่ายผู้ถูกร้องเรียนที่มาชี้แจง ก็ยืนยันว่าไม่มีการกระทำใดๆ
เมื่อถามว่ามีการพิสูจน์เรื่องเอกสารจริงหรือเท็จหรือไม่ นายอภิชาต กล่าวว่าไม่มี การตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ดูแค่ตามเอกสารของคมช.ที่เอามาให้กกต.ดู และคงไม่ต้องมีการเตือน และจะไม่มีการสั่งระงับอะไรกับ คมช. ทั้งสิ้น เพราะถือว่าไม่มีการกระทำใดๆ เกิดขึ้น ซึ่งการบันทึกถ้อยคำพยานในสำนวนเมื่อวาน ตัวแทน คมช.ก็ยืนยันว่าไม่มีการกระทำใดๆ ที่เป็นการทำลายพรรคการเมือง
“เรามองว่าไม่มีการกระทำใด ที่ทำให้เสียหายแก่พรรค เรื่องนี้ไม่มีเสียงข้างน้อยนะ มีแต่เสียงที่บอกว่า กกต.ไม่มีอำนาจที่จะไปวินิจฉัย กกต.และ คมช. เราไม่มีอำนาจก้าวล่วง และการมาชี้แจงของ คมช.ก็ไม่เป็นการกดดัน กกต. 2 ท่านที่มายืนยัน และเราก็ได้ซักถามในจุดที่เราต้องการจะรู้”นายอภิชาตกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าพรรคพลังประชาชนมีการกล่าวหาว่า มีการระบุชื่อพรรคในการดำเนินการกกต.ได้พิจารณาหรือไม่ เพราะเหมือนกับเป็นการกลั่นแกล้ง นายอภิชาตกล่าวว่า เมื่อมีชื่อพรรคก็ไปกระทบเขา แต่เรามองว่ายังไม่มีการกระทำใดๆ ที่มีการกระทำไปตามแผนงานนี้ ส่วนพรรคพลังประชาชนจะมีความผิดอะไรหรือไม่ที่นำเอกสารมาเปิดเผย นายอภิชาตกล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกัน จุดที่เราวินิจฉัยมีอยู่แค่นี้ ตอนนี้ยกคำร้องก็จบกัน.
เวลา 12.30 น. สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง อาคารศรีจุลทรัพย์ นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้แถลงภายหลังการประชุมพิจารณาเรื่องเอกสารลับของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ว่า ที่ประชุม กกต.มีมติ 4 ต่อ 1 เสียงให้ยกคำร้อง โดย1 เสียง คือนางสดศรี สัตยธรรม กกต. ด้านกิจการพรรคการเมือง เห็นว่า กกต.ไม่มีอำนาจเข้าไปวินิจฉัยหรือตรวจสอบ การทำงานของ คมช. และควรจะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญทำหน้าที่วินิจฉัย
ส่วนอีก 4 เสียงที่ให้ยกคำร้องก็มีเหตุผลที่แตกต่างกัน โดย 2 เสียงเห็นว่า การกระทำของ คมช.ได้รับการคุ้มครองจากรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2549 และมาตรา 309 ของรัฐธรรมนูญปี 2550 ซึ่งเหมือนกับความเห็นของคณะกรรมการสอบสวนเสียงข้างน้อย 3 เสียง ที่มีนายสุพล ยุติธาดา เป็นประธาน ส่วนอีก 2 เสียงเห็นว่ายังไม่มีการกระทำที่จะทำให้เกิดความเสียหายกับพรรคการเมืองหรือผู้ใด
ผู้สื่อข่าวถามว่า การพิจารณาของกกต. ให้น้ำหนักอยู่ที่การไม่กระทำใช่หรือไม่มีอำนาจวินิจฉัย นายอภิชาต กล่าวว่าไม่ได้มีการกระทำ เพราะแผนปฏิบัติการที่กำหนดออกมายังไม่มีการอนุมัติงบประมาณให้กระทำ จึงไม่มีการสั่งห้ามอะไรทั้งนั้น เพราะจากพยานฝ่ายผู้ถูกร้องเรียนที่มาชี้แจง ก็ยืนยันว่าไม่มีการกระทำใดๆ
เมื่อถามว่ามีการพิสูจน์เรื่องเอกสารจริงหรือเท็จหรือไม่ นายอภิชาต กล่าวว่าไม่มี การตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ดูแค่ตามเอกสารของคมช.ที่เอามาให้กกต.ดู และคงไม่ต้องมีการเตือน และจะไม่มีการสั่งระงับอะไรกับ คมช. ทั้งสิ้น เพราะถือว่าไม่มีการกระทำใดๆ เกิดขึ้น ซึ่งการบันทึกถ้อยคำพยานในสำนวนเมื่อวาน ตัวแทน คมช.ก็ยืนยันว่าไม่มีการกระทำใดๆ ที่เป็นการทำลายพรรคการเมือง
“เรามองว่าไม่มีการกระทำใด ที่ทำให้เสียหายแก่พรรค เรื่องนี้ไม่มีเสียงข้างน้อยนะ มีแต่เสียงที่บอกว่า กกต.ไม่มีอำนาจที่จะไปวินิจฉัย กกต.และ คมช. เราไม่มีอำนาจก้าวล่วง และการมาชี้แจงของ คมช.ก็ไม่เป็นการกดดัน กกต. 2 ท่านที่มายืนยัน และเราก็ได้ซักถามในจุดที่เราต้องการจะรู้”นายอภิชาตกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าพรรคพลังประชาชนมีการกล่าวหาว่า มีการระบุชื่อพรรคในการดำเนินการกกต.ได้พิจารณาหรือไม่ เพราะเหมือนกับเป็นการกลั่นแกล้ง นายอภิชาตกล่าวว่า เมื่อมีชื่อพรรคก็ไปกระทบเขา แต่เรามองว่ายังไม่มีการกระทำใดๆ ที่มีการกระทำไปตามแผนงานนี้ ส่วนพรรคพลังประชาชนจะมีความผิดอะไรหรือไม่ที่นำเอกสารมาเปิดเผย นายอภิชาตกล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกัน จุดที่เราวินิจฉัยมีอยู่แค่นี้ ตอนนี้ยกคำร้องก็จบกัน.
พีทีวี นิวส์
12 ธันวาคม 2550 เวลา 14:11 น.