WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Tuesday, December 11, 2007

พปช.ชูนโยบายมหภาคขับเคลื่อนเศรษฐกิจ





พปช. ชู นโยบายเศรษฐกิจมหภาคเน้น การกระจายรายได้และโอกาสที่เป็นธรรม พร้อมปรับโครงสร้างลดภาษี ดันเพิ่มทุน 3 แบ๊งค์หลัก รับลูก “หม่อมอุ๋ย” ปีหน้าเผาจริง

เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ทำการพรรคพลังประชาชน อาคารไอเอฟซีที นายพัฒนเดช ธรรมจรีย์ คณะทำงานด้านเศรษฐกิจ พรรคพลังประชาชน แถลงถึงกรอบนโยบายเศรษฐกิจมหภาคของพรรคพลังประชาชนว่า พรรคจะส่งเสริมให้เศรษฐกิจไทยเติบโตแบบยั่งยืน เน้นการกระจายรายได้และโอกาสที่เป็นธรรม โดยมีนโยบายดังนี้ 1.ศึกษาการปฎิรูปโครงสร้างภาษีเพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เช่นปรับลดภาษีทางตรงนิติบุคคลร้อยละ 25 หรือ ภาษีมูลค่าเพิ่ม จากร้อยละ 7 เหลือเพียงร้อยละ 5 2.รายจ่ายรัฐบาลต้องมีความชัดเจน ทั้งรายได้ประจำ รายจ่ายเพื่อการลงทุน ซึ่งมีผลต่อการเจริญเติบโตที่ยั่งยืน มีผลในทางที่ดีขึ้น เช่น การเคหะ รถไฟฟ้า9สาย(300 กิโลเมตร) รถไฟระบบราง 5 ระบบ คือ รถไฟแบบเดิม รถไฟก้างปลา รถไฟความเร็วสูง รถไฟรอบเมือง รถไฟฟ้าใต้ดิน-บีทีเอส

“รัฐบาลในอนาคตต้องมีการปฎิรูปวิสาหกิจที่สำคัญ เช่น การรถไฟ บริษัทที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทั้งระบบ การลงทุนของไทยในต่างประเทศและนโยบายของรัฐบาลในการช่วยเหลือประเทศที่ด้อยกว่า ส่วนด้านพลังงานนั้นประเทศไทยต้องขยายฐานผลักดันให้กลุ่มอาเซียนพึ่งพาตัวเองในด้านพลังงานได้ นอกจากนี้จะต้องปฎิรูประบบการเงินภาครัฐทั้งระบบ เช่น ปรับโครงสร้าง ธนาคารแห่งประเทศไทย และตั้ง วายุภักษ์อินเตอร์เนชั่นแนล”นายพัฒนเดช กล่าว

3. พรรคจะเสนอให้มีการจัดตั้งองค์กรเพื่อพัฒนา Energy Pool 4.จุลภาคพื้นฐาน คือ การพัฒนาระบบสหกรณ์ให้มีประสิทธิภาพโดยใช้ชุมชนเป็นกลไกสำคัญเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้สมดุลระหว่างชนบท และในเมือง และ 5. การคลังของรัฐบาลมีเจตนารักษาสมดุลของดุลการชำระเงินระหว่างประเทศ โดยรัฐบาลต้องปรับให้การคลังประเทศมีงบประมาณที่สมดุลโดยนำทรัพย์สินกระทรวงการคลังมาทำประโยชน์ เช่น ที่ราชพัสดุ การเพิ่มทุนธนาคารอาคารสงเคราะห์ เพิ่มทุนธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอี)และการเพิ่มทุนธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์

นายพัฒนเดช กล่าวถึงกรณีที่ มรว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังระบุว่าภาวะเศรษฐกิจไทยในปีหน้าจะเผาจริงนั้น ตนเห็นว่าถ้าไม่มีการปรับปรุงนโยบายการเงินอย่างจริงจัง เศรษฐกิจไทยจะเป็นตามที่ มรว.ปรีดิยาธร ระบุอย่างแน่นอน สามารถฟันธงได้เลย หากมีการปรับนโยบายการเงินที่ถูกต้องโดยกำหนดให้รัฐบาลปรับระบบโครงสร้างงบประมาณ นำไปสู่การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่ขาดแคลนจะทำให้เศรษฐกิจเติบโตและยั่งยืนได้ หมายความว่าการใช้นโยบายการคลังเพื่อที่จะเป็นตัวนำกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยับเติบโต จะต้องมีนโยบายการเงินที่มีเสถียรภาพเป็นพื้นฐาน

ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลชุดที่ผ่านมาใช้นโยบาย ดูโอ แทรกค์ ครั้งนี้พรรคพลังประชาชนจะเรียกนโยบายของพรรคว่าอะไร นายพัฒนเดช กล่าวว่า ตนไม่อยากจะเรียกว่าดูโอ แทรกด์ เพราะจะกลับไปคุยเรื่องเดิม ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจประเทศไทยมีลักษณะเชิงโครงสร้าง ที่ในชนบทกับในเมืองไม่เหมือนกัน เพราะโครงสร้างเศรษฐกิจในเมืองมีลักษณะพึ่งพาการค้าของโลก ส่วนเศรษฐกิจชนบทเป็นพื้นฐานแต่ต้นโดยนำส่วนเกินในชนบทมาลงทุนในกทม. เพื่อรองรับการค้าระหว่างประเทศ ฉะนั้นแผนพัฒนาเศรษฐกิจทั้งหมดที่ผ่านมา คือการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยให้เป็นกึ่งเมืองขึ้น ดังนั้นทฤษฎีใหม่เป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะประเทศไทยควรปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยให้พึ่งกับเศรษฐกิจโลกน้อยลง

“ขณะนี้ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับโลกกระทบกับเศรษฐกิจไทยทันที มันจะเกิดปัญหาที่เราไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจประเทศได้ทัน เช่น การที่เงินต่างชาติไหลเข้ามาในประเทศไทยค่อนข้างมากในช่วงปีที่แล้วที่ผ่านมา ไม่มีอะไรสัมพันธ์กับพื้นฐานเศรษฐกิจไทยแม้แต่น้อย เพราะเป็นเรื่องที่คนทิ้งดอลล่าร์ แล้วไม่มีที่ไปก็ไหลซัดเข้ามาในเมืองไทย ทำให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทมีความแข็งเกินกว่าความเป็นจริง เมื่อเป็นอย่างนี้เศรษฐกิจก็ยุ่งไปหมด ถ้าไม่มีการแก้ไขที่เหมาะสม จะเป็นการเสี่ยงมากต่อการพบวิกฤติเศรษฐกิจในเชิงมหภาค” นายพัฒนเดช กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่านโยบายพรรคพลังประชาชนมีการอิงกระแสเศรษฐกิจพอเพียงหรือไม่ นายพัฒนเดช กล่าวว่า การอิงเศรษฐกิจพอเพียงไม่ใช่สิ่งที่ผิด เพราะประเทศไทยควรจะยืนบนขาตัวเองได้ทางเศรษฐกิจ แต่ว่าจะทำไปถึงตรงนั้นได้อย่างไร นั่นคือความเป็นจริง อย่างง่ายๆเลย โครงสร้างอุตสาหกรรมของประเทศไทยมีโครงสร้างเป็นจำนวนมากที่ไม่สามารถผลิตในประเทศได้เลย ทำให้ต้องพึ่งพาการนำเข้าอย่างถาวร เช่น เรื่องพลังงาน ซึ่งประเทศไทยต้องปรับหาทรัพยากรอื่นมาทดแทน หรือ ผลิตในสิ่งที่ประเทศอื่นไม่มี

เมื่อถามว่าพรรคพลังประชาชนตั้งเป้าจีดีพีไว้เท่าใด นายพัฒนเดช กล่าวว่า พรรคพลังประชาชนมีตัวเลขอยู่ แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ได้สรุปว่าการเติบโตของจีดีพีร้อยละ 4 น้อยเกินไป เพราะต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยที่รัฐบาลรับภาระ มีสาเหตุจากรัฐบาลไม่มีนโยบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายในการลงทุนปรับโครงสร้าง.


พีทีวี นิวส์
11 ธันวาคม 2550 เวลา 15:11 น.