‘จาตุรนต์’ คาด พปช. ได้เสียงข้างมาก เชื่อ ปชช.สงสาร ลั่น วีซีดี ‘ทักษิณ’ ไม่ผิดกม. จวก กกต. พยายามแก้ต่างให้ คมช. พยายามตีกรอบกม. 111 คน เละเทะ โต้ หนุน พปช.ได้ เพราะไม่ต้องวางตัวเป็นกลาง เปรย “แย่” องค์กรอิสระไม่รู้จัก ระบอบประชาธิปไตย
นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตกรรมการบริหารไทยรักไทย กล่าววิเคราะห์สถานการณ์การเมืองล่วงหน้าว่า การที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)วางตัวไม่เป็นกลาง โดยพยายามที่จะแก้ต่างให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เกี่ยวกับกรณีเอกสารลับ หรือไม่ก็ดำเนินการช้า อีกทั้งยังพยายามกลั่นแกล้ง พปช. ซึ่งทั้งหมดจะส่งผลให้พลังเงียบที่ยังไม่มีการตัดสินใจเลือกพรรคการเมืองใด หันกลับมาเทคะแนนให้พรรคพลังประชาชนเพิ่มขึ้นอีก 30-40 เสียง ในโค้งสุดท้าย ซึ่งจะเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ระบุในโพลว่าพปช.จะได้คะแนนเสียง 190 เสียง เพราะเชื่อว่า คนไทยจะรู้สึกเห็นใจผู้ที่โดนกลั่นแกล้ง
ทั้งนี้ที่ผ่านมาได้มีการลงพื้นที่และพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่รัก พปช. และพร้อมที่จะให้โอกาส ผู้สมัคร ทั้งทีม เพราะอยากจะเห็นนโยบายของอดีตพรรคไทยรักไทยที่พปช.นำกลับมาใช้ อีกทั้งขณะนี้ประชาชนสับสนกับพรรคการเมือง เพราะพรรคการเมืองอื่น อาทิ พรรคเพื่อแผ่นดิน พรรคชาติไทย ลงพื้นที่และบอกว่าเป็นพวกเดียวกับพรรค พปช. ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่ และเมื่อประชาชนทราบความจริงว่าไม่มีใครเป็นฝ่ายเดียวกับพปช. ประชาชนก็จะหันมาให้คะแนนกับ พปช. มากขึ้น
ส่วนการแสดงความคิดเห็นว่าพรรคใดจะได้เป็นรัฐบาลหรือไม่ได้เป็น หรือพรรคใดจะโดนยุบและโยงไปถึงเรื่องนองเลือด ตนถือว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นที่ไม่ใช่สิ่งดีเพราะจะทำให้ประชาชนหวาดกลัว ทุกฝ่ายต้องช่วยกันเพื่อให้บ้านเมืองสงบ การที่จะยุบหรือไม่ยุบพปช.ก็ต้องว่ากันไปตามกฏหมาย ตามหลักยุติธรรม ไม่ใช่ต้องการจะยุบแต่ไม่ยุบเพราะกลัวนองเลือดก็เลยไม่ยุบ ทั้งนี้อยากเสนอให้องค์กรที่เกี่ยวข้องทั้งหลายใช้เหตุผลทางกฏหมาย ให้สติกับสังคม
นอกจากนี้ นายจาตุรนต์ยังกล่าวถึงกรอบกฏหมายที่จำกัดบทบาทของอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยว่า เป็นการตีความเละเทะ จงใจจะกลั่นแกล้งและก็เหมือนไม่ได้กลั่นแกล้ง111 คนทั้งหมด แต่ส่วนที่เกี่ยวกับ พปช. จะเอาหมดทุกเรื่อง
“กรอบกฏหมายของ111 คนคือการห้ามเป็นกรรมการบริหารพรรค ห้ามเกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง แต่การปราศรัย การหาเสียงพบประชาชน โดยส่วนตัว ตนสามารถทำได้ถ้าไม่เกี่ยวข้องกับพรรค ตนจะสนับสนุนพรรคพลังประชาชนก็ได้ เพราะวันนี้ตนไม่ได้มีหน้าที่ที่จะต้องวางตัวเป็นกลาง แต่ถ้าจะมาห้ามไม่ให้ทำเหมือนกรรมการบริหารพรรคอย่างนี้ ตนถือว่าเละเทะ ถ้าอย่างนั้นหากกรรมการบริหารพรรคทานข้าว 3 มื้อ ตนก็ต้องห้ามทานข้าว 3 มื้อด้วยหรือไม่” นายจาตุรนต์ กล่าว
ส่วนกรณีที่มี วีซีดี ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เผยแพร่นั้น นายจาตุรนต์ กล่าวว่าเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ตามรธน. ถ้าจะมีการแจกจ่ายก็ไม่ผิดกฎหมาย เพราะถือเป็นการสื่อสาร หากตีค่าเป็นราคาก็เพียงไม่กี่บาท แต่เท่าที่ทราบไม่มีผู้สมัครคนใดนำวีซีดีดังกล่าวออกมาใช้หาเสียง
“การกระทำของกกต.เหมือนกับพยายามที่จะทำเรื่องเอกสารลับ และเรื่องวีซีดีให้เจ๊ากันไป ซึ่งเป็นเรื่องที่แย่มากที่องค์กรอิสระไม่เข้าใจในระบอบประชาธิปไตย ไม่เข้าในระบบการทำงานและความเป็นกลาง” นายจาตุรนต์ กล่าว
นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตกรรมการบริหารไทยรักไทย กล่าววิเคราะห์สถานการณ์การเมืองล่วงหน้าว่า การที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)วางตัวไม่เป็นกลาง โดยพยายามที่จะแก้ต่างให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เกี่ยวกับกรณีเอกสารลับ หรือไม่ก็ดำเนินการช้า อีกทั้งยังพยายามกลั่นแกล้ง พปช. ซึ่งทั้งหมดจะส่งผลให้พลังเงียบที่ยังไม่มีการตัดสินใจเลือกพรรคการเมืองใด หันกลับมาเทคะแนนให้พรรคพลังประชาชนเพิ่มขึ้นอีก 30-40 เสียง ในโค้งสุดท้าย ซึ่งจะเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ระบุในโพลว่าพปช.จะได้คะแนนเสียง 190 เสียง เพราะเชื่อว่า คนไทยจะรู้สึกเห็นใจผู้ที่โดนกลั่นแกล้ง
ทั้งนี้ที่ผ่านมาได้มีการลงพื้นที่และพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่รัก พปช. และพร้อมที่จะให้โอกาส ผู้สมัคร ทั้งทีม เพราะอยากจะเห็นนโยบายของอดีตพรรคไทยรักไทยที่พปช.นำกลับมาใช้ อีกทั้งขณะนี้ประชาชนสับสนกับพรรคการเมือง เพราะพรรคการเมืองอื่น อาทิ พรรคเพื่อแผ่นดิน พรรคชาติไทย ลงพื้นที่และบอกว่าเป็นพวกเดียวกับพรรค พปช. ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่ และเมื่อประชาชนทราบความจริงว่าไม่มีใครเป็นฝ่ายเดียวกับพปช. ประชาชนก็จะหันมาให้คะแนนกับ พปช. มากขึ้น
ส่วนการแสดงความคิดเห็นว่าพรรคใดจะได้เป็นรัฐบาลหรือไม่ได้เป็น หรือพรรคใดจะโดนยุบและโยงไปถึงเรื่องนองเลือด ตนถือว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นที่ไม่ใช่สิ่งดีเพราะจะทำให้ประชาชนหวาดกลัว ทุกฝ่ายต้องช่วยกันเพื่อให้บ้านเมืองสงบ การที่จะยุบหรือไม่ยุบพปช.ก็ต้องว่ากันไปตามกฏหมาย ตามหลักยุติธรรม ไม่ใช่ต้องการจะยุบแต่ไม่ยุบเพราะกลัวนองเลือดก็เลยไม่ยุบ ทั้งนี้อยากเสนอให้องค์กรที่เกี่ยวข้องทั้งหลายใช้เหตุผลทางกฏหมาย ให้สติกับสังคม
นอกจากนี้ นายจาตุรนต์ยังกล่าวถึงกรอบกฏหมายที่จำกัดบทบาทของอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยว่า เป็นการตีความเละเทะ จงใจจะกลั่นแกล้งและก็เหมือนไม่ได้กลั่นแกล้ง111 คนทั้งหมด แต่ส่วนที่เกี่ยวกับ พปช. จะเอาหมดทุกเรื่อง
“กรอบกฏหมายของ111 คนคือการห้ามเป็นกรรมการบริหารพรรค ห้ามเกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง แต่การปราศรัย การหาเสียงพบประชาชน โดยส่วนตัว ตนสามารถทำได้ถ้าไม่เกี่ยวข้องกับพรรค ตนจะสนับสนุนพรรคพลังประชาชนก็ได้ เพราะวันนี้ตนไม่ได้มีหน้าที่ที่จะต้องวางตัวเป็นกลาง แต่ถ้าจะมาห้ามไม่ให้ทำเหมือนกรรมการบริหารพรรคอย่างนี้ ตนถือว่าเละเทะ ถ้าอย่างนั้นหากกรรมการบริหารพรรคทานข้าว 3 มื้อ ตนก็ต้องห้ามทานข้าว 3 มื้อด้วยหรือไม่” นายจาตุรนต์ กล่าว
ส่วนกรณีที่มี วีซีดี ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เผยแพร่นั้น นายจาตุรนต์ กล่าวว่าเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ตามรธน. ถ้าจะมีการแจกจ่ายก็ไม่ผิดกฎหมาย เพราะถือเป็นการสื่อสาร หากตีค่าเป็นราคาก็เพียงไม่กี่บาท แต่เท่าที่ทราบไม่มีผู้สมัครคนใดนำวีซีดีดังกล่าวออกมาใช้หาเสียง
“การกระทำของกกต.เหมือนกับพยายามที่จะทำเรื่องเอกสารลับ และเรื่องวีซีดีให้เจ๊ากันไป ซึ่งเป็นเรื่องที่แย่มากที่องค์กรอิสระไม่เข้าใจในระบอบประชาธิปไตย ไม่เข้าในระบบการทำงานและความเป็นกลาง” นายจาตุรนต์ กล่าว
พีทีวี นิวส์
11 ธันวาคม 2550 เวลา 15:34 น.