ส่วนที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ระบุว่า ม็อบที่บุกรุกที่อาคารรัฐสภาเป็นม็อบจัดตั้งโดยทหารที่ทำปฏิวัติ เพื่อล้มการเลือกตั้ง พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ไม่ทราบ ให้ทุกคนช่วยกันหาข่าว จะทำไปทำไม การพูดนั้นพูดกันได้ แต่ต้องดูว่าใครเข้าไป เป็นกลุ่มไหน และใครสามารถบังคับใครได้หรือไม่ บางทีคนที่พูดก็พูดไปเรื่อย บางทีต้องฟังหูไว้หู และคนฟังต้องคิดว่าไม่ใช่คำพูดที่ถูกต้องของจริง ต้องเก็บข้อมูลไว้ว่าเป็นอย่างไร ส่วนจะเป็นการโจมตี คมช.เพื่อต้องการไม่ให้ประชาชนไว้วางใจหรือไม่ ส่วนตัวคงไม่ทราบ เพราะจิตใจคนเดาใจยาก
กรณีนายสมัคร ระบุว่า ผู้ที่ปฏิวัติยังไม่หยุดยิ่ง ยังเดินหน้าสกัดกั้นพรรคพลังประชาชนไม่ให้เป็นรัฐบาล พล.อ.อ.ชลิต กล่าวพร้อมกับหัวเราะว่า คงามจริงอยากหยุด คงจำได้สิ่งที่คณะปฏิรูปดำเนินการตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 เรามุ่งหวังอยากจะแก้ไขรัฐะรรมนูญไม่ให้เอื้ออำนวยกับกลุ่มใดกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ในที่สุดเราก็ได้มาจากการลงประชามติ ซึ่งตนเองคิดว่าเป็นความสำเร็จของคนไทย เรามีรัฐบาลและบริหารประเทศมา บางคนบอกว่าเศรษฐกิจไม่ค่อยดี แต่ต้องหันไปดูประเทศอื่น น้ำมันขึ้นขนาดนี้ เรื่องต่างๆ ต้องดูสิ่งแวดล้อมโลกด้วย สิ่งสุดท้ายที่ คมช.มองภาพคือต้องมีการเลือกตั้ง และมีรัฐบาลใหม่ คมช.จะได้หมดภาระ ประชาชนต้องคนที่ดี รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แล้ว คมช.จะเลื่อนไปเพื่ออะไร เพราะทุกคนต้องการเลือกตั้งทั้งนั้น
เนชั่นทันข่าว จาก http://breakingnews.nationchannel.com/