สำนักข่าวเอพีรายงานเมื่อไม่นานมานี้ว่า พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีได้เปิดเผยถึงการดำเนินการของรัฐบาลในการเพิ่มมาตการรักษาความปลอดภัยบริเวณสถานที่สำคัญ ๆ เพื่อรับมือกับภัยคุกคามด้านการก่อการร้ายก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในช่วงปลายเดือนนี้ และช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เพื่อป้องกันเหตุการณ์ลอบวางระเบิดหลายจุดทั่วกรุงเทพซ้ำรอยกับปีที่แล้ว
‘เราจำเป็นต้องเตรียมการรับมือเพื่อความปลอดภัยของประชาชนที่จะเดินทางมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง และเดินทางมาเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่' พล.อ.สุรยุทธ์กล่าว และยังเรียกร้องให้ภาคเอกชนกระจายการสนับสนุนการจัดงานเฉลิมฉลองแทนที่จะจัดอย่างยิ่งใหญ่เพียงแห่งเดียวเพื่อลดอันตรายจากการโจมตีใด ๆ ก็ตามที่อาจจะเกิดขึ้นได้
เอพีระบุด้วยว่า ในช่วงปลายปีที่แล้ว เกิดเหตุการณ์ลอบวางระเบิดขนาดย่อมถึง 8 จุดในกรุงเทพในช่วงเฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายคน และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 40 คน โดยในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 9 คน และจนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมตัวผู้ที่ก่อเหตุได้
เอพียังย้อนถึงเหตุการณ์ในช่วงนั้นด้วยว่า รัฐบาลชั่วคราวของไทยภายใต้การนำของพล.อ.สุรยุทธ์ชี้ให้เห็นว่า บรรดาผู้สนับสนุนดูเหมือนจะมีความเกี่ยวข้องมากที่สุด ขณะที่คนอื่น ๆ เชื่อว่า เหตุการณ์ลอบวางระเบิดอาจจะเกี่ยวโยงกับสถานการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม
ด้านนายไชยา ยิ้มวิไล โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า ทางการจะเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในกรุงเทพ และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ๆ ที่นักท่องเที่ยวนิยมในจังหวัดต่าง ๆ เช่น ภูเก็ต พัทยา และเชียงใหม่ พร้อมกับเสริมว่า รัฐบาลจะประกาศใช้พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินถ้าหากสถานการณ์เข้าขั้นวิกฤต อีกทั้งจะมีการติดตั้งกล้องวงจรปิด 320 ตัวในกรุงเทพ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ใกล้กับเขตพระราชฐาน และจะมีการติดเพิ่มอีก 1,000 ตัวทั่วกรุงเทพ
เอพีระบุด้วยว่า เหตุการณ์ลอบวางระเบิดตู้โทรศัพท์ใกล้กับพระตำหนักจิตรลารโหฐาน อันเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลเดชเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้วทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน แต่จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมตัวผู้ที่ก่อเหตุได้
เอพีรายงานด้วยว่า การจัดการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในวันที่ 23 ธันวาคม ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เหตุการณ์รัฐประหารเมื่อปีที่แล้วทำให้เกิดความวิตกกังวลกันว่า บรรดานักการเมืองที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอดีตนายกฯทักษิณอาจจะได้รับชัยชนะ และจะช่วยปูทางให้อดีตนายกฯทักษิณเดินทางกลับประเทศจะทำให้เกิดบรรยากาศไร้เสถียรภาพในประเทศไทย
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานในลักษณะเดียวกันเกี่ยวกับความวิตกกังวลของไทยเรื่องความปลอดภัยในช่วงที่มีการเลือกตั้ง และช่วงเทศกาลหลายอย่างในช่วงปลายปีนี้จนต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเช่นเดียวกับปีที่แล้ว
อย่างไรก็ดี ขณะที่รอยเตอร์อ้างถ้อยแถลงของนายไชยาที่ไม่ได้เปิดเผยว่า จะมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือทหารมากน้อยแค่ไหน แต่ก็ระบุว่า รัฐบาลจะไม่มีการประกาศกฏอัยการศึกในกรุงเทพถ้าหากเกิดเหตุการณ์รุนแรง
รอยเตอร์ยังอ้างความเห็นของนักวิเคราะห์หลายคนที่กล่าวว่า การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 23 ธ.ค.นี้ดูเหมือนจะนำไปสู่ความขัดแย้งต่อไประหว่างบรรดาผู้สนับสนุนพ.ต.ท.ทักษิณ กับกองทัพ และชนชั้นกลางในกรุงเทพที่ขับไล่เขาออกจากตำแหน่งนายกฯในการรัฐประหารที่ปราศจากการนองเลือด ทั้งนี้ ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด ทั้ง 2 กลุ่มที่กล่าวมาอาจจะออกมาชุมนมตามท้องถนนจนเกิดการปะทะกัน และทำให้กองทัพต้องออกมาแทรกแซงในที่สุด
โดย ประดาบ http://www.hi-thaksin.org/home.php