WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Saturday, December 15, 2007

อธิการบดี มศว ทำนายรัฐบาลใหม่อายุไม่เกิน 1 ปี


กรุงเทพฯ 15 ธ.ค. - อธิการบดี มศว ติงนโยบายพรรคการเมืองไม่สนใจการศึกษา เน้นนโยบายให้รางวัลตอบแทนอย่างเดียว เป็นการดูถูกประชาชน ทำนายรัฐบาลใหม่มีอายุไม่เกิน 1 ปี

นายวิรุณ ตั้งเจริญ อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ในฐานะสมาชิกนิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวว่า ถึงวันนี้ตนยังไม่เห็นการหาเสียงของพรรณการเมือง ไม่ว่าจะพรรคเล็กหรือพรรคใหญ่ที่มีนโยบายที่ชัดเจนทางด้านการศึกษา สังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม หากแต่การหาเสียงของทุกพรรคเน้นการให้รางวัล ตอบแทน แบบระบบทุนนิยม เน้นการให้ฟรีในหลายๆ เรื่อง เกือบทุกพรรคใช้วิธีการนี้ คิดว่านโยบายในลักษณะนี้เป็นการดูถูกประชาชน มองว่าประชาชนไม่มีสติปัญญา และขอเรียกการหาเสียงในลักษณะนี้ว่า เป็นการซื้อเสียงด้วยนโยบายให้รางวัลตอบแทนประชาชนมากเกินไป และบางพรรคใช้นโยบายตามใจประชาชน โดยประกาศจะเลิกระบบนั้นระบบนี้ โดยเฉพาะจะยกเลิกระบบโอเน็ต ซึ่งแสดงให้เห็นว่า พรรคนั้นไม่มีความรู้ทางด้านการศึกษาเลย หากได้ ส.ส.ที่มีจุดอ่อนทางสติปัญญาเช่นนี้มาบริหารประเทศ คิดว่าระบบการศึกษาของชาติจะยิ่งแย่ลงๆ


"ถึงวันนี้ยูเนสโกได้วิพากษ์วิจารณ์การศึกษาไทยว่ามีปัญหา อ่อนด้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย ถ้านักการเมืองที่เป็นอยู่อย่างทุกวันนี้ยังไม่มีสติปัญญาในการช่วยกันผลักดันการศึกษาชาติ ผมคิดว่ารัฐบาลใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นคงมีอายุไม่เกิน 1 ปีแน่นอน" นายวิรุณ กล่าว


นายวิรุณ กล่าวอีกว่า เท่าที่ติดตามผู้สมัครของทุกพรรคยังเห็นคนเดิมๆ ที่ไม่เปลี่ยนวิธีคิด ส่วนคนใหม่หรือคนรุ่นใหม่ที่ประกาศตัวเองเข้ามาสู่การเมืองก็เป็นคนหน้าใหม่ที่หาเสียงด้วยวิธีการตลก เสมือนตัวตลก โดยเฉพาะป้ายโฆษณาในกรุงเทพฯ แม้จะมีสีสัน หากแต่บางพรรคซึ่งได้เสนอคนรุ่นใหม่เข้ามาไม่ได้บ่งบอกว่าตัวเองมีความสามารถ หากแต่ป้ายโฆษณากลับกลายเป็นเรื่องตลกมากกว่าจะเป็นเรื่องที่มีสาระ .- สำนักข่าวไทย

ที่มา : สำนักข่าวไทย