WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, December 12, 2007

พรรคเพื่อแผ่นดิน จะผิดไหม?


เมื่อวันที่คณะกรรมการเลือกตั้งมีมติเป็นเอกฉันท์ ห้ามอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน ปราศรัยหาเสียง และห้ามดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองทุกตำแหน่ง รวมตลอดไปจนถึงห้ามทำกิจกรรมทางการเมือง ห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมืองแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แม้แต่พูด คิด อ่าน เขียน ก็ไม่ได้ หากว่ามีผู้นำพฤติกรรมดังกล่าวมาร้องเรียน ก็อาจจะเข้าข่ายกระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้งได้


คนที่ออกอาการมากที่สุดไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย ผู้ก่อตั้งพรรคเพื่อแผ่นดิน ที่โกรธจนตัวสั่น และเปิดแถลงข่าวอย่างมีอารมณ์ ทั้งผิดหวัง เศร้า เสียใจ ระคนปะปนกัน


คำพูดของ นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2550 มีขึ้นหลังจากที่ กกต. มีมติห้ามอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยหาเสียง หรือเชียร์ผู้สมัครรับเลือกตั้งคนใดคนหนึ่ง หรือ พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง และแน่นอนว่าย่อมจะเป็นการพูดหลังจากที่มีการประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2550 แล้ว


นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย พูดเอาไว้อย่างไรบ้าง มีการบันทึกไว้ทั้งหมด และผมขอนำมาถ่ายทอดอีกครั้ง ดังนี้

การที่ กรรมการบริหารที่ถูกตัดสิทธิ 111 คนอยู่ในพรรคเพื่อแผ่นดิน จะทำให้พรรคเติบโตได้อย่างมั่นคง และมีขนาดที่มีความหมายใหญ่พอจะร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์และพรรคชาติไทยแล้วตั้งรัฐบาลได้ แต่เมื่อ 111 คนทำอะไรไม่ได้เลย ทำให้พรรคไม่เติบโตและใหญ่พอที่จะตั้งรัฐบาลที่มีประชาธิปไตยที่มั่นคงได้ ขณะที่พรรคพลังประชาชนยังมีคนที่พูดและแสดงความเห็นได้อย่างมีน้ำหนัก

ผมยินดีถ้าคุณอภิสิทธิ์ (อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์) จะเป็นนายกฯ หากพรรคประชาธิปัตย์ได้จำนวนที่นั่ง ส.ส. มากกว่าพรรคชาติไทย และพรรคเพื่อแผ่นดิน ซึ่ง ผมทราบมาว่าพรรคเพื่อแผ่นดินยินดีให้การสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ร่วมกับพรรคชาติไทย ซึ่งคิดว่าพรรคประชาธิปัตย์ก็น่าจะได้รับเสียงมากกว่าพรรคเพื่อแผ่นดินอยู่แล้ว ตามโพลสำนักต่างๆ ที่ออกมา ทั้งนี้โดยส่วนตัวเห็นว่าพรรคเพื่อแผ่นดินมีศักยภาพจะไปร่วมตรงนั้น และแกนนำ 111 คนที่อยู่ในพรรค มีส่วนทำให้พรรคไปสู่ตรงนั้น


เมื่อได้อ่านถ้อยคำของ นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย ที่พรั่งพรูออกมาด้วยอารมณ์ผิดหวัง จนยากจะสกัดกั้นความจริงไว้ได้อีกต่อไป จึงทำให้ได้เห็นและได้รับรู้ว่า พรรคเพื่อแผ่นดิน เป็นพรรคการเมืองที่ก่อกำเนิดขึ้นมาจากการก่อตั้งของนายสุรเกียรติ์ และอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยจำนวนหนึ่ง ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง


คำพูดของนายสุรเกียรติ์ยังฟ้องด้วยว่า การเติบโตอย่างรวดเร็วของพรรคเพื่อแผ่นดิน ที่ทุกคนแปลกใจและสงสัยว่าว่าทำไมจึงโตเร็วนัก โตทัดเทียมกับพรรคชาติไทย และโตไล่หลังพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคพลังประชาชนในบางพื้นที่ได้อย่างน่าอัศจรรย์ จนมีการเปรียบเทียบเป็นพรรคการเมืองจีเอ็มโอ หรือพรรคการเมืองตัดต่อพันธุกรรม ก็เนื่องจากการที่อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยจำนวนหนึ่งเข้าไปสนับสนุน และจัดการภายในพรรคให้จนมีความเข้มแข็ง


ชื่อของ นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย นายพินิจ จารุสมบัติ นายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เปิดเผยอย่างมาก ต่อการรับรู้ของประชาชนคนทั่วไป ว่าเป็นผู้มีส่วนร่วมก่อตั้งพรรคเพื่อแผ่นดิน และบริหารจัดการ ต่อเชื่อมความสัมพันธ์กับแหล่งทุนและกลุ่มการเมืองต่างๆ เพื่อดึงและดูดเข้ามาอยู่กับพรรคเพื่อแผ่นดิน


การก่อตั้งพรรคเพื่อแผ่นดิน มีขึ้นหลังจากที่ตุลาการรัฐธรรมนูญตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน

การบริหารจัดการภายในพรรคเพื่อแผ่นดิน การสนับสนุนทั้งแนวคิดและแนวทางการดำเนินงานทางการเมืองของพรรคเพื่อแผ่นดิน มีขึ้นหลังจากที่มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งแล้ว


การก่อตั้งพรรคเพื่อแผ่นดิน โดยความร่วมมือของกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ทั้ง 4 คน ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง แม้จะเกิดขึ้นก่อนมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง แต่ผลของการกระทำนั้นก็ยังคงมีอยู่มาจนถึงปัจจุบัน คือ พรรคเพื่อแผ่นดินกำลังดำเนินการทางการเมือง และผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคเพื่อแผ่นดิน ที่ถูกดึงและดูดมาด้วยเทคนิคการจัดการทางการเมืองของนายพินิจและนายปรีชา ก็ยังคงหาเสียงเลือกตั้งอยู่ในขณะนี้


หากกรรมการการเลือกตั้ง มีความเห็นว่า กรณีวีซีดีทักษิณ แม้จะทำก่อนการประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง แต่ก็ไม่พ้นผิด เพราะผลของการกระทำยังมีมาถึงปัจจุบัน แล้วกรณีของพรรคเพื่อแผ่นดิน ที่ก่อตั้งขึ้นโดยผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองล่ะ กกต. จะวินิจฉัยอย่างไร ในเมื่อผลของการกระทำของนายสุรเกียรติ์ นายพินิจ นายปรีชา และนายสุรนันทน์ ก็ยังคงมีผลมาจนถึงทุกวันนี้


หากวีซีดีทักษิณส่งผลให้ยุบพรรคพลังประชาชน ด้วยเหตุที่ว่ามีผลมาถึงปัจจุบันแล้ว พรรคเพื่อแผ่นดินก็อยู่รอดได้อย่างไร ในเมื่อผู้ร่วมก่อตั้ง (โดยพฤตินัย) เป็นผู้ไม่มีคุณสมบัติก่อตั้งพรรคการเมือง


นอกจากนี้ การที่ นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย บอกว่ายินดีด้วยถ้า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกรัฐมนตรี และพูดชัดว่าพรรคเพื่อแผ่นดินสนับสนุนนายอภิสิทธิ์จัดตั้งรัฐบาล ในวันเวลาที่ กกต. มีมติห้ามผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 111 คน หาเสียงหรือเชียร์ผู้สมัครรับเลือกตั้งคนหนึ่งคนใด พรรคการเมืองหนึ่งพรรคการเมืองใดแล้ว กกต. จะวินิจฉัยอย่างไร กับคำแถลงของนายสุรเกียรติ์ ที่บอกว่าสนับสนุนนายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี


นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย กระทำการขัดต่อกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ มีความผิดหรือไม่


พรรคเพื่อแผ่นดิน เป็นผลผลิตของการกระทำขัดกฎหมายของผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมือง หรือไม่


หากนายสุรเกียรติ์ไม่ผิด พรรคเพื่อแผ่นดินไม่มีการนำเข้าพิจารณาในที่ประชุม กกต. และไม่ถูกส่งฟ้องให้ยุบพรรค แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ผิด และพรรคพลังประชาชน ถูก กกต. ลงความเห็นว่าสมควรถูกยุบ


ก็จะเป็นการฟ้องถึงมาตรฐานปฏิบัติของ กกต. ว่าเป็นอย่างไร

อีกไม่กี่วันเราก็จะได้รู้กันว่า กกต. ชุดนี้ พอจะเป็นความหวังของประชาชนได้หรือไม่

หรือจะเป็นอีกหนึ่งฝันร้ายที่ไม่สิ้นสุดของประชาชนอีกครั้งหนึ่ง

จาก http://www.prachatouch.com/