ตอนนี้ผมคาดการณ์ได้แล้วว่า ตำรวจจะไม่สลายม็อบ แต่ก็ยื้อกันไปอย่างนี้ เพราะตำรวจก็คงเข็ดเขี้ยวกับการเมืองเหมือนกัน เพราะตำรวจเคยโดนปลดจาการสลายม็อบ ทำให้ตำรวจไม่ค่อยกล้าที่จะทำอะไรรุนแรง
ตอนนี้เราก็ต้องทำใจว่า "ปล่อยให้พันธมิตรยึดทำเนียบไปสักสามเดือน" แล้วจะเกิดอะไรร้ายแรงจนพวกเราอยู่กันไม่ได้ นอกจาก "ความคับข้องใจ" เท่านั้น
ผมตอบตนเองว่า ไม่มีอะไรผมทำใจได้ ผมวางอุเบกขา ผมรู้่สึกสบายใจ ผมยังรู้สึกว่า รัฐบาลก็บริหารงานต่อไปได้ ไม่มีปัญหาอะไรมากมายนัก จนบริหารราชการแผ่นดินไม่ได้
จาก thaifreenews
วันนี้ผมไปประชุมที่โรงแรมหนึ่ง และเห็นคนกลุ่มอื่นๆ มาสัมมนาด้วย แสดงว่ากิจกรรมในประเทศทั้งหลายยังดำเนินต่ิอไปได้ ทุกคนก็มีงานของตัวเองทำ แต่มีเรื่องสนุกน่าตื่นเต้นให้คอยเช็คข่าวเท่านั้น
และมีมหรสพโรงใหญ่ที่ทำเนียบรัฐบาลให้ดูผ่านทีวีเท่านั้นเอง
ผมว่าคนที่เดือดร้อนใจว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจนเสียหายอย่างร้ายแรงนั้น ผมว่าในที่สุดแล้วนักลงทุนทั้งหลายจะปรับตัวและทำใจได้ เพราะสิ่งที่นักลงทุนต่างชาติกลัวคือ "การทำรัฐประหารของทหาร"
แต่หากไม่มีรัฐประหาร แล้ว ผมว่าที่เหลือเรื่องการก่อม็อบ เป็นเรื่องที่ไม่ได้มีอะไรกระทบต่อธุรกิจนัก ประเทศเกาหลีใต้เคยมีการประท้วงกันแบบนี้ทั้งปีทั้งชาติ พอคนเริ่มชิน ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไร เพราะมนุษย์ย่อมปรับตัวเข้ารับกับสถานการณ์ใหม่ได้เสมอ
เมื่อพันธมิตรอยู่ในทำเนียบครบ 1 สัปดาห์ คนก็ทำใจได้เองว่า "ไม่เห็นมีอะไรเลย" ก็แค่เปลี่ยนที่นั่งจากสะพานมัฆวานมาทำเนียบรัฐบาลเท่านั้นเอง ไม่เห็นต้องไปวิตกกังวล หรือตื่นเต้นอะไรมากนัก
ก็ถามคำถามเดิมที่ผมเคยถามว่า "ยึดทำเนียบรัฐบาบแล้วจะเกิดอะไรขึ้น So what?
ตอนนี้ผมทำใจได้แล้ว รู้สึกสนุกสนานตื่นเต้นกับ "ละคอนโรงใหญ่" ผ่านทีวีด้วย
ได้ลุ้นทุกวันว่า พันธมิตรจะแก้เกมอย่างไร ตำรวจจะเล่นเกมอย่างไร
ผมว่าคนที่ชอบพนันบอล ถือวิกฤตเป็นโอกาส พนันเสียเลยว่า ตำรวจจะสลายม็อบเมื่อไหร่ หรือวันนี้ จำลองจะออกมาแก้เกมอะไรอีก
นี่มันละคอนแบบมินิซีรีย์ หรือ Long series ด้วยซ้ำไป
ตอนนี้ก็ดาวน์โหลดคลิปวิดีโอ ดูกันสนุกสนานไป ไม่เห็นมีอะไรเดือดร้อนมากนัก
ผมว่าข้าราชการในทำเนียบ ดูเหมือนจะดีใจที่ไม่ต้องไปทำงานเครียด ได้หยุดยาวสบายใจเฉิบ กระทรวงอื่นๆ ยังอิจฉาว่า ทำไมมันไม่มายึด กระทรวงเราบ้างว่ะ จะได้ไปเที่ยวสักสัปดาห์ ไม่ต้องทำงาน
ผมซื้อ DVD ไว้หลายเรื่อง ว่าจะดูอาทิตย์นี้ก็ไม่ได้ดูเสียที เพราะ "หนังยาวผ่านโทรทัศน์ NBT" สนุกกว่า ใช้ผู้แสดงนับหมื่นคน วิ่งไปโน้นมานี่ ใช้ตำรวจแสดงนับพันคน
สรุป สมัครก็ไม่ลาออก พันธมิตรก็ไม่เลิกชุมนุม ตำรวจก็ต้องคอยดูแล ผู้สื่อข่าวมีงานทำ
สนุกสนานดีเหมือนกัน หนังยาวครับ ก็ต้องทำใจว่ามันไม่จบง่ายๆ
หากพันธมิตรออกมาป่วนเมืองไปโน้นไปนี่อีก ออกมาป่วนเดี๋ยวเราก็ชินไปเองแหละครับ
แต่ 9 แกนนำ ออกมาเมื่อไหร่ ก็จับเมื่อนั้น (ยกเว้นตำรวจจะไม่จับเพราะกลัวใคร ก็ตามใจ บ้านเมืองจะได้วุ่นวายต่อ)
อาณาจักรแห่งนี้ไม่ใช่ของผมอยู่แล้ว ผมได้แค่อาศัยเท่านั้น มันวุ่นวาย เจ้าของเขาไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจ แล้วผมจะไปเดือดร้อนใจทำไม
ผมยังมีสิทธิ์อยู่บ้าง ตรงที่ยังมีการเลือกตั้ง ผมก็จะเลือกพรรคที่ผมชอบ ใครจะจูงใจอย่างไร ผมก็ไม่สนใจ
สรุป ก็อยู่ๆ กันไปครับ เราไม่ได้เสื่อมลง แต่ฝ่ายตรงข้ามเสื่อมลง
ที่จริงผู้สนับสนุนรายใหญ่ของพันธมิตรคือ คนชั้นกลางใน กทม. "บางส่วน" กับคนใต้
เศรษฐกิจ ยิ่งมีปัญหาพวกเขาก็จะยิ่งเดือดร้อนเอง เพราะมีรายได้จากเงินเดือน ส่วนข้าราชการก็ไม่่ค่อยเดือดร้อนเท่าไหร่ เพราะเงินเดือนคงที่
คนรากหญ้า ชาวอีสาน คนเหนือ ปีนี้ราคาข้าวค่อนข้างดี ก็ไม่ค่อยเดือดร้อนเท่าไหร่
ก็อยู่กันได้ดีพอสมควร
สรุปอยากวุ่นวายไม่รู้จบ ก็ตามใจ
ส่วนคนที่เกรงว่า หากปล่อยไป พวกพันธมิตร จะโจมตีว่ารัฐบาลอ่อนแอควบคุมอะไรไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้ผมเห็นว่าทุกวันนี้ พธม. มันก็หาเรื่องโจมตีได้ทุกวันอยู่แล้ว ผมไม่เห็นแคร์อะไรที่่จะโจมตีอีกเรื่อง เพราะผมไม่ฟังพันธมิิตรอยู่แล้ว อยากโจมตี อยากพูดเรื่องอะไรก็ตามใจ
ตอนยึดทำเนียบได้ ก็เห็นส่งพวกมาโพสต์ในประชาไทกันว่า "แค่ทำเนียบยังป้องกันไม่ได้ สมัครลาออกไปเถอะ"
คือ เหมือนเล่นเกมว่า "ข้าทำนี่ได้ เห็นไหม เอ็งก็ลาออกไป"
เราไม่ได้เล่นเกมด้วย ไม่เห็นจะแปลกอะไรครับ ผมก็เห็นคนในประชาไท ไม่ได้รู้สึกคล้อยตามการสร้างกระแสของ พธม. ว่า "เรายึดทำเนียบได้เห็นไหม สมัครอ่อนแอ ลาออกไป"
คือ พธม. โจมตี จนคนชินแล้ว ไม่แคร์แล้ว อยากพูดอะไรก็ตามสบายใจของท่าน
เราก็ไม่ฟังเหมือนกัน
นักวิชาการสาย พธม. จะเสนออะไรก็เสนอ เราก็ไม่ฟังพวกท่านเหมือนกัน พวกท่านชักจูงเราไม่ได้ นักวิชาการก็หมดราคาไปเอง
ก็เหมือนหมอประเวศ วะสี ที่คิดว่าตัวเองเป็น "ผู้อาวุโสของสังคม" เสนอโน้นเสนอนี่สังคมควรฟังราษฎรอาวุโสอย่างข้าพเจ้า เมื่อเข้าข้างข้าง พธม.มากๆ สุดท้ายประชาชน ก็ไม่แคร์ ไม่ฟัง ประเวศพูดอะไรก็เรื่องของประเวศ ไม่มีผลต่้อการชี้นำคนอีกแล้ว
ผมฝึก "พรหมวิหารธรรม" มาพอสมควร หากผมทำอะไรไม่ได้ ผมก็จะวางอุเบกขาเสีย มันก็ไม่ได้รู้สึกทุกข์ใจแต่อย่างใด
สรุปตอนนี้ ผมไม่ค่อยแคร์กับ พธม. หรอกครับว่าจะทำอย่างไร อยากทำอะไรก็ทำไป
ผมไม่ได้รู้สึกเบื่อด้วย มันเหมือนละคอน นึกว่ามันจบแล้วก็ยังมี ตอนต่อไปอีก
ก็ชวนให้ติดตามแหละครับ
ต้องมาคอยทา่ย จินตนาการกันว่า ตอนจบจะเป็นอย่างไร