WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, August 27, 2008

อย่าไปยอมมัน

เห็นพฤติกรรมของม็อบพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ผ่านมาแล้ว ผมคงให้คำจำกัดความเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากจะเห็นว่าเป็นพฤติกรรมของโจร
ทั้งการโพกผ้า คาดหน้าปิดบังอำพราง เข้าทำลายข้าวของ ข่มขู่ผู้คนในสถานที่ราชการ และที่สำคัญมีอาวุธทั้งมีด ทั้งปืนและมีการพกพายาเสพติด เรียกว่าครบเครื่องความชั่วกันเลยทีเดียว
ทั้งที่ประดาแกนนำม็อบเองอ้างว่าจะเป็นการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ ตามเงื่อนไขรัฐธรรมนูญมาตรา 63 แต่ก็ไม่ได้เป็นไปตามนั้น
แน่นอนว่าไม่ใช่แกนนำทั้ง 5 คน จะโง่จนไม่สามารถประเมินสถานการณ์ได้ ว่าสิ่งที่ตัวเองและพวกพ้องพยายามยั่วยุผู้คนให้เกิดอารมณ์ร่วมส่วนหนึ่ง การไปจ้างพวกนักเลงหัวไม้มาส่วนหนึ่ง หรือมีคนจัดกลุ่มกุ๊ยจากที่ต่างๆ มาสมทบอีกส่วนหนึ่ง จะเกิดผลเช่นไรตามมา
แต่เชื่อได้ว่าบรรดาแกนนำจงใจที่จะให้บ้านเมืองเกิดสถานการณ์วุ่นวาย เพราะหลงคิดว่าทหารยุคนี้จะบ้าจี้ เหมือนสมัย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็น ผบ.ทบ. คิดว่าเพียงแค่ส่งสัญญาณทหารก็จะเอากำลังออกมาปฏิวัติเหมือนเมื่อคราว 19 กันยายน 2549
อย่างไรก็ตามท่ามกลางสถานการณ์ความวุ่นวายที่เกิดจากน้ำมือคนเพียงไม่กี่คน ก็ยังถือว่ามีความโชคดีซ่อนอยู่ในเหตุการณ์นั้น
เริ่มตั้งแต่ท่าทีของทหารที่มีความชัดเจนตั้งแต่ต้น และไม่หลงกลตกเป็นเครื่องมือของคนที่จ้องทำลายบ้านเมือง ด้วยการออกมาประกาศชัดๆ ว่าทหารจะไม่มีการปฏิวัติอย่างแน่นอน
แถมบรรดาบิ๊กทหารก็ยังมีการประชุมเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือเรียก ง่ายๆ ว่าเป็นการเตรียมพร้อมปราบม็อบหากรัฐบาลมีการสั่งการนั่นเอง
ขณะเดียวกันท่าทีของตำรวจที่ออกจะดูอดกลั้นมายาวนานกับพฤติกรรมชั่ว ปิดถนนสร้างความวุ่นวายกว่า 90 วันที่ผ่านมา ก็พิสูจน์ให้ได้เห็นว่าไม่ได้เกรงกลัวกับอำนาจ อิทธิพลของกลุ่มนักเลงซะจนทำอะไรไม่ได้
แม้ว่าจะต้องล่าถอยปล่อยให้กลุ่มม็อบที่กำลังบ้าคลั่ง บุกเข้าไปในสถานที่ราชการ สร้างความเสียหายไปได้หลายต่อหลายแห่ง แต่ในที่สุดก็ตามเข้าไปจับกุมผู้ก่อความไม่สงบได้ โดยเฉพาะกรณีที่สถานีโทรทัศน์ NBT สามารถจับกุมผู้ก่อการได้กว่า 80 คน
และมีการแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว 4 ข้อกล่าวหาฉกรรจ์ เป็นความผิดซึ่งหน้าที่เกิดขึ้น ต่อหน้าต่อตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ คงจะเป็นเรื่องที่บิดพลิ้วกันลำบาก
และจากนี้ไปเจ้าหน้าที่ตำรวจก็คงจะต้องเตรียมตัวจับกุมผู้กระทำความผิดกันอีก เพราะหากเอาภาพที่บันทึกไว้ในแต่ละจุดแต่ละที่ที่มีการชุมนุม รับรองได้ว่ายังมีผู้ต้องหาที่รอตบเท้าเดินเข้าคุกกันอีกหลายคน
รวมถึง 5 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ขอจารึกชื่อไว้เป็นอนุสรณ์ ทั้ง สนธิ ลิ้มทองกุล จำลอง ศรีเมือง สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ พิภพ ธงไชย และ สมศักดิ์ โกศัยสุข ที่ตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานออกหมายจับในข้อหาสำคัญ
เพราะการยั่วยุ หรือสั่งการให้มีการบุกรุกสถานที่ราชการ การคุกคามสื่อ รวมทั้งความพยายามในการล้มล้างรัฐบาล ล้วนเป็นองค์ประกอบความผิดในเรื่องของความมั่นคงทั้งสิ้น
และหากพิจารณาความตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 มาตรา 113 และมาตรา 114 ว่าด้วยเรื่องของการเป็นกบฏในราชอาณาจักร ถ้ามีความผิดจริงตามนั้นก็จะมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต
ส่วนอีกหนึ่งเรื่องที่น่าดีใจคือท่าทีของรัฐบาล ที่หลายคนมองว่าที่ผ่านมาอ่อนข้อให้พวกป่วนบ้าน กวนเมือง จนน่าหงุดหงิดใจ
แต่ท่าทีจากการเปิดแถลงข่าวเมื่อบ่าย 2 โมง วันที่ผ่านมา ของ นายสมัคร สุนทรเวช ก็ทำให้ประชาชนสบายใจมากขึ้น ว่าเรามีผู้นำที่เข้มแข็งใช้ได้
ทั้งยังมั่นใจว่า จากนี้ไปจะไม่มีการปล่อยให้แก๊งข้างถนนออกมาสร้างความเสื่อมและก่อความเสียหายได้ตามอำเภอใจ
แม้ว่าอาจจะยังไม่ถึงอกถึงใจ เพราะหวังว่าจะมีการปราบปรามขั้นเด็ดขาดซะให้สิ้นเรื่องสิ้นราว แต่เมื่อท่านนายกฯ บอกว่าไม่อยากให้เสียบรรยากาศ ก็เป็นเหตุผลที่น่าฟัง
รวมทั้งสิ่งที่นายกฯ ฝากถึงพันธมิตรฯ ให้คิดถึงชาติบ้านเมือง คิดถึงพระมหากษัตริย์ ก็เป็นเหตุผลที่บรรดาแกนนำควรหยุดคิด เพราะยิ่งขืนดึงดันต่อไปมากเท่าไร ก็จะยิ่งหาทางลงลำบากมากขึ้นเท่านั้น และยังจะเป็นทางลงที่ไม่สวยเสียด้วยซ้ำไป
ในสถานการณ์เช่นนี้ผมคงต้องขอเป็นกำลังใจให้ทั้งรัฐบาล ตำรวจ ทหาร ให้อยู่เคียงข้างประชาชน และเลือกข้างความถูกต้อง
และเห็นด้วยกับท่านนายกฯ ครับ...อย่าไปยอมมัน...!!