** หนังสือพิมพ์ประชาทรรศน์รายวัน ฉบับประจำวันพุธที่ 27 สิงหาคม 2551 “ณ พล” รายงานตัวทำหน้าที่ ขุดคุ้ย คุยข่าว แทน “เอกฉัตร” ที่ติดภารกิจสำคัญยิ่ง พร้อมกับปิดต้นฉบับในวันคล้ายวันเกิดคนสำคัญ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ และ เป็นวันที่กลุ่มพันธมิตรฯ ถือเอาฤกษ์ยามทำการก่อการร้ายในประเทศ หวังล้มล้างการปกครองของรัฐบาลที่มาตามวิถีทางประชาธิปไตย
** กลายเป็นข่าวลือกระฉ่อน! ม็อบพันธมิตรฯ เคลื่อนทัพหวังเป็นของขวัญในวันคล้ายวันเกิด “ป๋า” ครบรอบอายุ 88 ปี แต่...ใครจะเชื่อว่า พล.อ.เปรม ที่สู้อุตส่าห์สั่งสมคุณงามความดีมาจนถึงช่วงบั้นปลาย จะคิดลดตัวลงไปเกลือกกลั้ว เกี่ยวพันกับพวกแก๊งข้างถนน ให้เสียศักดิ์ศรี ชายแท้ ชาติทหาร
** นอกเสียจากจะถูกพวก พันธมาร แอบอ้าง เอาชื่อมาหากิน เหมือนเมื่อหลังการยึดอำนาจใหม่ๆ ที่ สุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานม็อบ ให้สัมภาษณ์แมกกาซีนฉบับหนึ่ง ชัดถ้อยชัดคำว่า พล.อ.เปรม อยู่เบื้องหลังการปฏิวัติรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 และเป็นผู้นั่งบัญชาการด้วยตัวเองอยู่ที่บ้านสี่เสาฯ
** ดูพฤติกรรมของ พันธมิตรฯ เมื่อวันที่ผ่านมา ไม่มีคำนิยามไหนชัดเจนเท่า “กบฏ” เป็นการกระทำที่เห็นชัดว่าพยายามจะยึดอำนาจ ล้มล้างระบอบประชาธิปไตย การบุกเข้าทำลายทรัพย์สิน ข้าวของ ของทางราชการ บุกยึดสถานีวิทยุ โทรทัศน์ พฤติการณ์เยี่ยงนี้ ไม่ใช่วิสัยของคนรักชาติบ้านเมืองแน่ เพราะไม่ได้คำนึงแม้แต่น้อยถึงความเสียหายที่จะตามมา ไม่ได้คิดเลยว่าจะต้องขายขี้หน้าชาวโลกไปมากน้อยแค่ไหน
** พันธมิตรฯ ที่อ้างสิทธิการชุมนุมโดยสงบ ตามมาตรา 63 คงจะต้องหุบปากไปได้ เพราะกลุ่มโจรชุดดำ มีผ้าปิดปาก ที่กรูเข้าไปในสถานีโทรทัศน์ NBT ทำลายทรัพย์สิน และเข้าข่มขู่คุกคาม ผู้ประกาศข่าวที่กำลังดำเนินรายการทั้ง จิรายุ ห่วงทรัพย์ สร้อยฟ้า โอสุคนทิพย์ ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ทั้งยังใช้อาวุธมีดจี้คอ สุคนธ์ ชัยอารีย์ ผู้จัดรายการวิทยุทาง 97.0 MHz ไม่ใช่เรื่องของสิทธิในการชุมนุม ที่สำคัญเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวชายฉกรรจ์กลุ่มนี้ไปได้ ยังพบทั้งมีด ปืน และใบกระท่อม ยาเสพติดที่แพร่หลายอยู่ในแถบจังหวัดภาคใต้อย่าง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช
** พอเป็นเรื่องชั่ว ก็รีบโยนขี้ให้คนอื่น แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาปฏิเสธทันควัน กลุ่มคนที่ก่อการ สร้างความเสียหาย และมีการจับกุมไปคุมขังไว้ที่สำนักงานตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 จ.ปทุมธานี ทั้ง 46 คน ไม่ใช่คนของพันธมิตรฯ แต่เป็นมือที่สาม แล้วถ้าเป็นอย่างนั้นจริง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง จะเป็นเดือดเป็นร้อนทำส้น...อะไร
** คนทำผิดก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย พล.ต.จำลอง เป็นใคร ถึงได้หาญกล้าออกมาต่อรองกับผู้รักษากฎหมาย หากไม่ปล่อยตัว “โจร” ที่เข้าไปทำลายข้าวของใน NBT จะพิจารณาเอากำลังไปบุก สตช. ฟังแล้วขนลุกแทนตำรวจไทย ไม่รู้ทนฟังวาจาสามหาวของมหาจำลองอยู่ได้ยังไง คิดแล้วแทบไม่เชื่อว่าคนแบบนี้จะบวชเรียนถึงขั้นเป็นมหา แถมยังจบจากโรงเรียนนายร้อย จปร.
** เป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น! และขัดแย้งกันเองอย่างสุดๆ ในเมื่อพันธมิตรฯ ยืนยัน โจรชุดดำ เป็นมือที่สาม แล้วทำไมจะต้องเดือดร้อนต่อรองให้ปล่อยตัวคนพวกนี้ออกมา จะว่าเป็นโคตรพ่อ โคตรแม่ ก็ไม่ใช่ งานนี้ถ้าตำรวจไทย ยอมปล่อยตัวโจรที่มียาเสพติด แถมพกมีด พกปืน ไปเที่ยวทุบทำลายข้าวของ และข่มขู่ชาวบ้าน แบบเดียวกับที่ทำให้คนไทยกังขาในความ 2 มาตรฐาน เมื่อคราวปล่อยตัว “ไอ้เจ๊กบ้า” ที่โดนแจ้งข้อหาหมิ่นเบื้องสูง เพราะถูกม็อบกดดัน ก็เห็นทีจะต้องหาปี๊บหลายๆ ใบมาแบ่งกันคลุมหัว
** คิดแล้วก็อดเห็นใจ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ไม่ได้ เพราะจะต้องทำภารกิจใหญ่ถึง 2 เรื่องพร้อมกัน ให้สำเร็จลุล่วงโดยเร็ว ทั้งนำความสงบสุขกลับมาให้พี่น้องประชาชน ทำบ้านเมืองให้มีกฎเกณฑ์กติกา เอาคนผิด คนชั่วมาลงโทษ ที่อยากฝากเอา ม.112 ม.113 และ ม.114 ว่าด้วยกบฏในราชอาณาจักร ไปพิจารณา กับอีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน ต้องรีบกู้ภาพลักษณ์ตำรวจไทย อย่าให้ประชาชนคิดได้ว่า มีอำนาจเถื่อนอยู่เหนือกฎหมาย ไม่อย่างนั้นต่อไปแค่ตำรวจที่ยืนเป่านกหวีดอยู่ตามสี่แยกไฟแดงก็จะไม่มีใครเชื่อฟัง
** ระวังให้ดี จะมีลูกชุลมุน ในขณะที่ประชาชนคนไทยกำลังสนใจกับข่าวชั่วของม็อบพันธมิตรฯ วันนี้เป็นวันนัดหมายที่ กกต. จะชี้ชะตา “วิฑูรย์ นามบุตร” อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมผู้สมัคร ส.ส.อุบลราชธานี อีก 3 ราย ที่ถูกกล่าวหาว่าแจกตั๋วหนัง และเปิดปราศรัยหาเสียงสลับกับการฉายภาพยนตร์ ที่มีข่าวเล็ดลอดออกมาหนาหูว่าอย่างน้อยก็จะต้องฟอกนายวิฑูรย์ ให้บริสุทธิ์ผุดผ่อง เพราะไม่เช่นนั้นจะนำไปสู่การยุบพรรค แบบเดียวกับที่พรรคการเมืองอื่นโดนเล่นงานไปก่อนหน้า
** “ประชาทรรศน์” เปิดเอกสารให้เห็นกันจะจะ ถึงข้อสรุปพิลึกพิลั่น ของ กกต.อุบลราชธานี ทั้งกรณีแจกตั๋วหนัง ที่มีพยานหลายปากให้การชัดเจน แต่ที่สุดบางรายก็กลับคำให้การอย่างน่าสงสัย จนมีการตั้งข้อสังเกตกันว่าพนักงานสอบสวนในคดีนี้ที่เป็นหลานชาย “สุทัศน์ เงินหมื่น” รองนายกรัฐมนตรีเงา ของ ปชป. จะมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรหรือไม่ ซ้ำร้ายกรณีนี้ กกต.อุบลราชธานี ยังสรุปความเห็นให้ยกคำร้อง หลังพยานกลับคำให้การเพียง 2 วัน
** เช่นเดียวกับอีกข้อร้องคัดค้าน เรื่องการจัดมหรสพประกอบการหาเสียง ทีมสอบสวนของ กกต.อุบลฯ ก็สรุปเอาง่ายๆ ให้ยุติเรื่อง เพราะหลักฐานไม่พอ...แต่ทั้ง 2 กรณี โดน “สุทธิพล ทวีชัยการ” ตอกกลับหน้าหงาย ด้วยความเห็นว่ากรณีแรกมีพยาน-หลักฐานมากพอที่จะแจ้งข้อกล่าวหาได้ ส่วนกรณีหลังต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติมอีกหลายประเด็น
** ขณะที่ 29 สิงหาคมนี้ อนุกรรมการสอบสวนคดีฮั้วพิมพ์บัตรเลือกตั้ง ของดีเอสไอ จะมีการประชุมกันอีกครั้งหลังจากข้อมูลมีความเข้มข้นมากขึ้น คงใกล้จะมีคำตอบว่าทำไม 2 บริษัทที่แบ่งกัน “ได้งาน” จึงมีการเสนอราคาไขว้อย่างน่าฉงน และจะได้มีคำตอบกันเสียทีว่าบัตรเลือกตั้งที่พิมพ์เกินไปถึง 40-50 ล้านใบ ไปอยู่ที่ไหน เพราะแค่ท่าทีอ้ำอึ้งที่ผ่านมาของ กกต. ก็ชวนให้ไม่สบายใจเสียแล้ว ไม่ว่าจะเพราะข้อสงสัยไม่มีการพิมพ์บัตรจริง หรือกังวลว่าบัตรจะถูกนำไปใช้อย่างผิดที่ผิดทาง ก็ตามที
** ย้อนกลับมาตบท้ายด้วยปัญหาความไม่สงบในบ้านเมือง ประชาชนคนไทยหายห่วงได้เปลาะหนึ่ง เพราะ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ยืนยันหนักแน่น “ไม่มีปฏิวัติ” ทหารอยู่ในระเบียบวินัย ไม่เหยียบย่ำประเทศชาติให้เลวร้าย ย่ำแย่ ไปกว่าเก่า ขณะที่นายกฯ สมัคร สุนทรเวช ก็นับ 1 ถึง 10 ย้ำอยู่บ่อยๆ ว่าจะอดทนให้ถึงที่สุด แปลง่ายๆ หากเกิดอะไรขึ้น ก็หมายถึง “สุดทน” และเกินกว่าจะยอมให้ประเทศชาติเสียหายได้อีกต่อไป...เท่านั้นเอง...!!