เหตุการณ์วันที่ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดของ “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ มีการก่อกบฏขึ้นในบ้านนี้เมืองนี้ จากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่อุ่นเครื่องเตรียมความพร้อมมาเกือบ 100 วันแล้ว
ปรากฏการณ์ครั้งนี้ สิ่งที่ได้เห็นชัดๆ ก็คือ การตระบัดสัตย์ของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่บอกว่าจะใช้แนวทางสันติ แต่เริมปฏิบัติการด้วยกองโจรพร้อมอาวุธ ไปยึดสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ มีการข่มขู่คุกคามผู้คน และทำลายทรัพย์สินของทางราชการ กับ วุฒิภาวะของผู้นำรัฐบาล ที่ยึดขันติ ความอดทน อดกลั้นอย่างถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงเสียหายขั้นเลือดตกยางออกขึ้นในบ้านเมือง
กระนั้นชื่อเสียงเกียรติยศ ความเชื่อถือเชื่อมั่น ได้ถูกทำลายลงไปแล้ว เมื่อสำนักข่าวต่างประเทศเผยแพร่ข่าวออกไปทั่วโลก ทำให้เกิดผลกระทบต่อการลงทุน การท่องเที่ยว และงานสำคัญระดับนานาชาติที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ อย่างงานเฟชั่น ที่มีการเตรียมงานกันมาเป็นอย่างดี จนวันนี้จะออกหัวออกก้อยก็ยังไม่รู้
ต้องเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบที่ชอบธรรมของรัฐบาล ที่จะต้องเรียกความเชื่อถือ ความเชื่อมั่นให้กลับคืนมาโดยเร็วครับ
จากเหตุการณ์กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้มีการเคลื่อนไหวโดยบุกยึดและปิดล้อมสถานที่สำคัญหลายแห่ง เช่น สถานีโทรทัศน์ NBT ทำเนียบรัฐบาล กระทรวง การคลัง และปิดถนนสายหลักบางสาย นั้น ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพล) ได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นเรื่อง “คนกรุงเทพคิดอย่างไรกับความเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ” โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 1,023 คน เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา สรุปผลได้ดังนี้
1. ความเห็นต่อการกระทำของกลุ่มพันธมิตรฯ ในเรื่องต่อไปนี้ โดยเห็นด้วย / ไม่เห็นด้วย /ไม่แสดงความเห็น ตามลำดับ ดังนี้
การปิดถนนเพื่อชุมนุมขับไล่รัฐบาล 13.8 / 72.6 / 13.6
การบุกยึดสถานีโทรทัศน์ NBT 14.8 / 70.8 / 14.4
การปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล กระทรวง และสถานที่ราชการต่างๆ 16.9 / 68.3 / 14.8
2. ความเห็นต่อการที่ตำรวจจะดำเนินการเอาผิดกับแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ทั้ง 5 คน พบว่า
เห็นด้วย ร้อยละ 42.8 ไม่เห็นด้วย ร้อยละ 31.7 ไม่แสดงความเห็น ร้อยละ 25.5
3. ความเห็นต่อการประกาศใช้พระราชกำหนดบริหารราชการแผ่นดินในสถานการณ์ฉุกเฉินในขณะนี้ เห็นว่ายังไม่ควรประกาศใช้ ร้อยละ 46.9 เห็นว่าควรประกาศใช้ ร้อยละ 27.6 ไม่แสดงความเห็น ร้อยละ 25.5
4. สิ่งที่ต้องการให้ทหารดำเนินการในขณะนี้ คือ
ให้เข้ามาควบคุมสถานการณ์ร่วมกับตำรวจ ร้อยละ 51.8 ให้อยู่เฉยๆ
วางตัวเป็นกลาง ร้อยละ 38.4
ให้ทำรัฐประหาร ร้อยละ 4.5 อื่นๆ เช่น ให้รอดูสถานการณ์ไปก่อน ร้อยละ 5.3
5. เรื่องที่เป็นห่วงมากที่สุดจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ คือ
ห่วงว่าจะเกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ ร้อยละ 43.1
ห่วงว่าจะเกิดการเผชิญหน้าและแตกแยกในหมู่คนไทยด้วยกัน ร้อยละ 32.7
ห่วงว่าจะเกิดการฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์ให้รุนแรงโดยมือที่สาม ร้อยละ 21.4
อื่นๆ เช่น ห่วงภาพลักษณ์ของประเทศ และกลัวเกิดเหตุการณ์นองเลือด ร้อยละ 2.8
นี่เป็นผลการสำรวจความคิดเห็นจากคนกรุงเทพ พื้นที่ก่อการกบฏ ผมคิดว่าความคิดเห็นของพี่น้องในต่างจังหวัดคงไม่ต่างจากนี้
กลับมาพูดถึงพันธมิตรฯ กันต่อ การที่กลุ่มพันธมิตรฯ เฮโลมายึดพื้นที่ในทำเนียบรัฐบาล มองได้ว่า เพื่อเป็นการประกาศชัยชนะเชิงสัญลักษณ์ว่า ได้ยึดที่ทำการของรัฐบาลได้แล้ว แต่ถ้ามองกลับกัน
ผมมองว่าไม่ต่างอะไรกับการแย่งกันเข้าไปอยู่ใน “คอก”... รอวันขึ้นเขียง ครับ
เป็นไปได้ว่า แกนนำม็อบพันธมิตรฯ ได้รับ “สัญญาณ”ที่ผิดพลาด ถือเป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์ เพราะแทนที่จะยึดชัยภูมิ ที่มีทางหนีทีไล่ เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น แต่มาเลือกพื้นที่ในทำเนียบรัฐบาล ที่มีรั้วรอบขอบชิด จึงต้องตกไปอยู่ในวงล้อมไปโดยปริยาย... ขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะบีบหรือจะคลาย... บีบก็ตาย คลายก็รอด
กลายเป็น...หมูที่วิ่งไปชนปังตอแท้ๆ
ที่ถือว่าเป็นเรื่องที่ขัดกันอย่างสิ้นเชิง คือ ในทำเนียบรัฐบาล มีตึก “สันติไมตรี” ผมว่าแกนนำพันธมิตรฯ ก็รู้ดี แต่จะมีอะไรมาบดบังให้ลืมคิดในเรื่องนี้หรือเปล่าผมไม่ทราบได้
เพราะทั้ง “สันติ” และ “ไมตรี” นั้น ถือเป็น “ของแสลง” ของกลุ่มพันธมิตรฯ ครับ เพราะที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่า พันธมิตรฯ ไม่นิยม สันติ และไม่ตอบสนอง ไมตรี ที่ฝ่ายรัฐบาลหยิบยื่นให้ ก่อนที่จะก่อการกบฏขึ้น
ทำเนียบรัฐบาล เป็นสถานที่สำคัญและมีความศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่ใครจะเข้าไปทำอะไรก็ได้ เพราะเป็นสถานที่เชิดหน้าชูตาเป็นที่ทำงานของรัฐบาล สนามหญ้าหน้า ตึกไทยคู่ฟ้า เป็นสถานที่จัดงานรัฐพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา งานเฉลิมพระเกียรติฯ และงานต้อนรับบุคคลสำคัญระดับประมุขของประเทศ
ยืนยันอีกครั้งว่า ไม่ใช่ใครหรือกลุ่มใดก็ได้ ที่จะเข้าไปทำเรื่องบัดสีเลวทรามในสถานที่แห่งนี้
เอาง่ายๆ เลย... พรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้รับการวางตัวให้มาเป็น “รัฐบาล” จากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากทหารที่ทำการยึดอำนาจการปกครอง และฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง มีเอกสารสั่งการให้ขัดขวางผู้สมัครของ “พรรคพลังประชาชน” ทุกวิถีทาง
ปฏิเสธไม่ได้ว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมาเป็นการขับเคี่ยวกัน 2 พรรค คือ พรรคพลังประชาชนกับพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น
กลุ่มพันธมิตรฯ มุ่งมั่นเหลือเกิน ที่จะล้มล้างรัฐบาลนี้ให้ได้ แต่ตัวเองต้องมาสิ้นลายสูญสลายในสถานที่ทำการของรัฐบาล อย่างนี้ไม่เรียกว่า เวรกรรมมีจริง ก็ไม่รู้ว่าจะเรียกอะไรแล้ว
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ ว่า วันที่ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา ทางโหราศาสตร์ระบุว่า เป็นวันอุบาทว์ กับ วันอธิบดี ในวันเดียวกัน ส่วนฝ่ายใดหรือใครอุบาทว์ ฝ่ายใดหรือใครเป็นอธิบดี มีผลการสำรวจชี้ชัดอยู่แล้วครับ