WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, August 29, 2008

ยื่นศาลรธน.‘ยุบปชป.’ปล่อยลูกพรรคก่อกบฏ

ส.ส. พลังประชาชน ยื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุด เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งยุบพรรคประชาธิปัตย์ ตาม รธน. มาตรา 68 กรณี “สมเกียรติ” ถูกออกหมายจับข้อหากบฏ ระบุอ้างไม่เกี่ยวข้องไม่ได้ เพราะมี ส.ส. ของพรรค ร่วมขึ้นเวทีอยู่ตลอด ขณะที่ “สมเกียรติ” เพิ่งสำนึก บอกคิดจะลาออกจาก ส.ส. เหมือนกัน แถมยังหน้าระรื่น ภูมิใจที่เป็นกบฏ
นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคพลังประชาชน แถลงว่า เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 28 สิงหาคม ที่ผ่านมา พร้อมด้วย ส.ส. พรรคพลังประชาชน จำนวน 4 คน ได้ยื่นหนังสือต่ออัยการสูงสุด (อสส.)ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยสั่งยุบพรรคประชาธิปัตย์ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68
เนื่องจาก กรณีที่ปรากฏชัดว่า นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส. สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ และพวกถูกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ตั้งข้อกล่าวหาว่า เตรียมการเป็นกบฏต่อแผ่นดิน
แม้ว่าจะอ้างสิทธิการชุมนุมตาม มาตรา 63 แต่พฤติกรรมที่ปรากฏกลับมีเป้าหมายที่จะล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ส่วนการที่พรรคประชาธิปัตย์ อ้างว่าเป็นการกระทำส่วนบุคคลนั้น แม้จะเป็นลูกนอกคอกพรรคประชาธิปัตย์ จะปฏิเสธร่วมรับผิดชอบโดยอ้างว่าไม่รับทราบความเคลื่อนไหวไม่ได้ เพราะที่ผ่านมามี ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ หลายคนเข้าร่วมการชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯ มาโดยตลอด
ขณะเดียวกันในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งมี นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระได้เกิดการโต้แย้งขึ้น เมื่อมีการนำประเด็นกลุ่มบุคคลที่อ้างเป็นนักรบศรีวิชัยบุกเข้าไปในสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT มาอภิปราย
โดย นายวรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนให้รัฐบาลตรวจสอบการนำเสนอข่าวของสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT เนื่องจากเห็นว่ามีความพยายามยั่วยุให้เกิดความรุนแรง โดยเฉพาะการนำภาพอาวุธที่ยึดได้จากกลุ่มนักรบศรีวิชัยมานำเสนอบ่อยครั้ง เพื่อให้ประชาชนเข้าใจว่ากำลังมีความพยายามล้มล้างรัฐบาล
ซึ่งนายวรงค์เห็นว่า เพียงไม้กอล์ฟและหนังสติ๊กตามที่ปรากฏในภาพ คงไม่สามารถล้มล้างรัฐบาลได้
ขณะที่ นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม พรรคพลังประชาชน ลุกขึ้นกล่าวว่า เป็นการอภิปรายไม่ครบถ้วนตามข้อเท็จจริง เพราะไม่ยอมพูดว่าในวันดังกล่าวมีการพกอาวุธปืน และมีดดาบด้วย ทั้งยังไม่ยอมพูดถึงกรณีที่สื่อมวลชน ทั้ง NBT และสื่ออื่นๆ ถูกกลุ่มพันธมิตรฯ คุกคาม
นายศุภชัย กล่าวอีกว่า หากบ้านเมืองจะล่มจม คงไม่ได้เกิดจากสื่อมวลชน แต่เกิดจาก ส.ส. ในสภาผู้แทนราษฎรที่ออกไปเคลื่อนไหวข้างถนน โดยไม่ทราบว่ามีพรรคการเมืองหนุนหลังหรือไม่
การอภิปรายของนายศุภชัย ทำให้นายวรงค์ลุกขึ้นตอบโต้และใช้สิทธิ์พาดพิง พร้อมยืนยัน พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยสนับสนุนให้ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา อย่างไรก็ตามก่อนที่จะมีการโต้แย้งมากไปกว่านี้ นายชัย ชิดชอบ ได้ตัดบทให้ทั้งคู่ยุติการหารือเรื่องดังกล่าว
ด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังคงตะแบงว่า กรณีของ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส. สัดส่วนของพรรคนั้น ถือเป็นคนไทยที่สามารถใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญได้ ไม่ว่าจะเป็น ส.ส. หรือไม่
ขณะที่เรื่องคดีความ นายสมเกียรติ ก็ไม่ขอใช้เอกสิทธิ์ ซึ่งตนก็ได้หารือกับเจ้าตัวแล้วว่า จะต้องรับผิดชอบ รวมทั้งการถูกตั้งข้อกล่าวหาก็ถือเป็นการดำเนินการส่วนตัว จึงตกลงที่จะไม่ใช้เอกสิทธิ์ และพรรคก็จะทำเป็นข้อยกเว้น ทั้งนี้ พรรคจะอนุญาต เนื่องจากต้องรักษาไม่ให้ประเทศชาติเสียหายมากกว่านี้
ส่วน นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส. สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ และ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมาย ที่ตั้งข้อกล่าวหาว่าเป็นกบฏนั้น สามารถทำได้ เนื่องจากต่างฝ่ายต่างเดินในสงครามเชิงเหตุผล อีกทั้งภายนอกสภา ใครจะทำอะไรก็แล้วแต่ ก็ต้องรับผิดชอบ ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย ส่วนตัวมีความคิดที่จะลาออกจาก ส.ส. ด้วยเช่นกัน เพราะข้อหาเป็นข้อหาที่ใหญ่ อย่างไรก็ตาม รู้สึกภูมิใจที่เป็นกบฏต่อรัฐบาลที่ไม่พึงปรารถนา รวมทั้งยังภูมิใจที่ได้ล้มล้างบางระบอบด้วย