พันธมิตรฯ โดนชาวบ้านด่ากันขรมกับพฤติกรรมสุดป่าเถื่อน ทำตัวเยี่ยงซ่องโจร พาพวกใช้กำลัง และ อาวุธ บุกยึดสถานีโทรทัศน์ NBT อย่างไม่กลัวเกรงกฎหมายบ้านเมือง ทำเหมือนบ้านเมืองไร้ขื่อแป นอกจากนี้ยังบุกยึดสถานที่ราชการจนข้าราชการทำงานไม่ได้
หมดราคา ที่ทำงานกันมาเกือบร้อยวัน ที่สุดพิสูจน์ธาตุแท้ออกมาว่ามีความคิดเลวทรามอะไรอย่างไร
พฤติกรรมในการไปแต่ละที่ แต่ละแห่ง ล้วนใช้ความถ่อยสถุล พกพาอคติเต็มหัว มีจุดหมายที่พร้อมใช้ความรุนแรง หวังแพร่ภาพเพื่อปะทะเดือดกลางกรุงหวังให้ความเห็นใจจากส่วนต่างๆ เพื่อเปิดทางให้ทหารเข้าทำการปฏิวัติรัฐประหาร แต่ไม่เป็นไปตามเป้าประสงค์แต่อย่างใด
เป็นเกมที่เด็กๆ ยังมองออก เป็นลูกไม้โบราณๆ ที่ไม่น่าเชื่อว่าคนที่เป็นแกนนำจะคิดอะไรที่สุดปัญญาอ่อนได้ขนาดนี้
ประชาชน 6 3 ล้านคน ต้องเป็นผู้ตัดสินว่า “พันธมารธิปไตย” ทำถูกหรือผิดอย่างไร กับการบุกสถานีโทรทัศน์ คุกคามการทำหน้าที่ของสื่อสารมวลชน การปิดสถานที่ราชการ จนทำงานไม่ได้ นักเรียน ต้องหยุดเรียน เพราะเกรงกลัวความป่าเถื่อนของคนพวกนี้
ถามว่าจะลงโทษกันอย่างไรได้บ้าง จะให้ถือไม้ไปหวด หรือ เอาปืนไปยิง คงไม่ใช่แน่นอน เพราะนั่นไม่ใช่วิถีทางที่ถูกต้อง
เราจะพบว่า แกนนำพันธมาร 6 คน นั้น มี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมอยู่บนเวที พูดจาเหมือนไม่ใช่คนที่ชื่นชมการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามที่พรรคประชาธิปัตย์เคยติดป้ายทั่วบ้านทั่วเมืองว่า “ผมเชื่อมั่นระบบรัฐสภา”
ที่สำคัญคือ นายวัชระ เพชรทอง ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เป็น ส.ต. คือ “สอบตก” หรือ “อกหัก” เจ้าประจำของพรรคการเมืองแห่งนี้ เป็นคอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์แนวหน้า เป็นบรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา กลับกลายเป็นแนวหน้าในการบุกยึดสถานีโทรทัศน์ NBT เป็นพฤติกรรมของคนทำสื่อสารมวลชน หรือ เป็นคนทำม็อบ ทำของทางการเมือง หรือไม่อย่างไร สรุปว่าจะเป็นสื่อ เป็นนักการเมือง หรือ เป็นคนทำม็อบ กันแน่ ไม่มีใครรู้
ยังไม่นับรวมพฤติกรรมของ ส.ส.สอบตก ของพรรคประชาธิปัตย์อีกหลายคน และ ส.ส.ในสภาของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เข้าร่วมด้วยช่วยเหลือกับกลุ่มพันธมิตรฯ เหล่านี้ อีกหลายสิบคน
คนในพรรคการเมืองที่ชื่อ “ประชาธิปัตย์” กระทำการ ร่วมหอ ลงโลง กับ กลุ่ม “พันธมิตร” ปล่อยให้ทำกันได้อย่างไรโดยไม่ห้ามปราม
มิหนำซ้ำ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังออกมาให้สัมภาษณ์ ในเชิงให้ท้าย กัน หยิบยกสถานการณ์ ความไม่ชอบธรรมของพันธมิตรฯ มาทำให้เป็นกระแสโจมตีรัฐบาลอย่างหน้าไม่อาย
ก่อนหน้านี้พรรคไหนแก้ไขปัญหาผู้ชุมนุมที่ปีนรั้วเข้าทำเนียบรัฐบาลโดยเอาหมามากัดม็อบ? จนเป็นแผลเหวอะหวะ
ก่อนหน้านี้พรรคการเมืองไหนแก้ปัญหาทางการเมืองโดยใช้วิถีทางที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เสนอ มาตรา 7 นายกฯ พระราชทาน ซึ่งเป็น รอยด่างพร้อยทางประวัติศาสตร์ ของพรรคการเมืองนี้ ที่ได้กล่าวอ้างถึงการสั่งสมความเป็นประชาธิปไตย
ก่อนหน้านี้พรรคการเมืองไหนแก้ปัญหาทางการเมืองโดยการ ให้ท้ายการปฏิวัติรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เข้าด้วยช่วยเหลือเอื้อเฟื้อกันอย่างออกนอกหน้า
คนทั่วบ้านทั่วเมืองล้วนรู้กันดีว่า พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้เป็นรัฐบาลมาเกือบสิบปี ปิดประตูไปสู่การเข้ามาเป็นฝ่ายบริหาร เพราะถูกเรื่อง สปก.4-01 และ เรื่อง การแก้วิกฤติเศรษฐกิจ ปี 2540 ไม่ประสบผลสำเร็จ เอาทรัพย์สินของชาติไปขายลดราคาให้ชาวต่างชาติ จนเสียหายไปถึง 6 แสนล้านบาท วันนี้จะรีบเข้ามาทำงานทางการเมือง คงยากลำบาก นอกจากต้องสร้างกระแสทำลายล้างรัฐบาล ในลักษณะแบบนี้
ดังนั้นจึงต้องอาศัยพี่น้องประชาชนคนไทยทั้ง 63 ล้านคน ต้องพิจารณาโทษทัณฑ์ของพรรคการเมืองนี้ต่อไป เพราะมีส่วนสำคัญในการให้การสนับสนุน พันธมิตรฯ จนกลายเป็น พาลธมิตรฯ ไปเสียแล้ว