WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, August 25, 2008

รถส้วมปราบ “พันธมิตร”

คอลัมน์: Cover Story

“เสธ.แดง” ลุย “ลัทธิคลั่งชาติ”
มุ่งเป้าการเมืองจนขาดเหตุผล


พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก หรือ “เสธ.แดง” วิพากษ์เบื้องลึก “ปราสาทเขาพระวิหาร” เป็นการปลุกกระแสคลั่งชาติเพื่อเล่นงานทางการเมืองรัฐบาล “สมัคร สุนทรเวช” ย้ำพวกต้านการขึ้นทะเบียนเป็นพวกปัญญาอ่อน อายต่างประเทศ เผยไทยเสียดินแดนเขมรตั้งแต่รัชกาลที่ 5 ยุคสงครามล่าอาณานิคมแล้ว สงสัย ม.190 จะเกี่ยวพันกับทหารออกรบด้วยหรือไม่? เชื่อทหารปฏิวัติยึดอำนาจซี้ซั้วโดยไม่ดูข้างบนไม่ได้ ตั้งคำถามถึง ผบ.สส. ผบ.ทบ. ปล่อยพันธมิตรฯ ย่ำยีศักดิ์ศรีทหารบนเวที ทำไมไม่ล้อมปราบตามกฎหมาย กอ.รมน. จับ 9 แกนนำไปสอบสวนได้ 90 วัน

** อยากให้ เสธ.แดง ได้วิพากษ์เรื่องของกรณีปราสาทเขาพระวิหาร ที่ว่าไทยเสียดินแดนในปี 2551 นี้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
ปราสาทเขาพระวิหาร เหตุที่มันไม่เคลียร์เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความมั่นคง นักการเมืองไม่แข็ง ไม่ว่าจะเป็น ท่านนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีต่างประเทศ ท่านนพดล หรือแม้แต่กระทรวงการต่างประเทศ กรมสนธิสัญญาและกฎหมายเนี่ย ไม่รู้พื้นที่ หลับตาไม่เห็นภาพความมั่นคง จริงๆ แล้วเขารู้แต่ทฤษฎี ไม่รู้วิธีการอธิบายให้ประชาชนได้เข้าใจ เหตุมันอยู่ที่ม็อบพันธมิตรฯ นั่นเอง ที่ออกมาทำให้รัฐบาลเขาปั่นป่วน แท้จริงแล้วมันมีอะไร เนื่องจากว่าตามสนธิสัญญามันแบ่งออกเป็น 3 ช่วง

ช่วงแรกเลย ช่วงโบราณเราเสียเขมรปี 2410 ในสมัยรัชกาลที่ 5 ที่ปกครองในปี 2408-2453 ประมาณร้อยกว่าปี 2410 เราเสียเขมรใหม่ คือเขมรที่อยู่ติดกับเวียดนาม พอ 2447 เราเสียเขมรด้านใต้เขาพระวิหารทั้งหมด ถึงอีสานใต้ลงมา เขาเรียกเขมรตัด พอ พ.ศ. 2449 อีก 3 ปีต่อมา เราเสียเขมร คือด้านติดชายแดนทั้งหมดเนี่ย ตรงพระตะบอง เสียมเรียบ ศรีโสภณ เพื่อแลกเมืองจันท์ (จ.จันทบุรี) ต่างๆ คือเราเสียเขมรด้านล่าง พร้อมกับหลวงพระบาง เมืองลาว เพื่อแลกกับเมืองจันท์ เพราะฝรั่งเศสยึดเมืองจันท์ไป 15 ปี พอ พ.ศ.2449 เราต้องเสียเขมรด้านล่าง จบ...หมดเลย สรุปแล้วเราเสียเขมร 3 ครั้ง หมดเลยเขมรทั้งประเทศ

แต่มันมีสนธิสัญญาในการปักเขตแดนว่า เราต้องใช้สันปันน้ำ สันปันน้ำคือสันเขา น้ำตกไหลมาทางซ้าย กับทางขวา ถ้าไปทางซ้ายเป็นของไทย ไปทางขวาเป็นของเขมร อะไรอย่างเนี้ยนะ แต่ปรากฏว่า ในแผนที่ฝรั่งเศสเมื่อทำเสร็จแล้ว ตามสนธิสัญญาปี 2447 และ 2450 หรือ ค.ศ.1904 กับ ค.ศ.1907 เขาไม่ทำตามสนธิสัญญา เขาทำสนธิสัญญาเสร็จปี 2450 คือ 101 ปีพอดี เขาเอาแผนที่มาส่งเมืองไทย 50 ฉบับ เท่านั้นไม่พอ เขามีหลักฐานว่าเราจะขอเพิ่มอีก 15 ฉบับ และคนขอเพิ่มคือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ คือ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ซึ่งเป็นพระราชโอรสของรัชกาลที่ 5 จากนั้นเราไม่ได้สนใจอะไรทั้งสิ้น

การที่เรารับแผนที่ฝรั่งเศส ซึ่งมันเป็นอัตราส่วน 1:2 แสน คือ 1 มิลิเมตรแผนที่ เท่ากับ 200 เมตรในภูมิประเทศ แล้วไม่ยึดสันปันน้ำ ตรงเขาพระวิหารมันล้ำเข้ามาในเขตไทย ซึ่งเราเขียนว่า 4.6 ตารางกิโลเมตรเนี่ยแหละ เป็นอันว่าขั้นตอนที่ 1 จบไป...มันเป็นการละลายน้ำไป ประเทศไทยไม่ได้สนใจ นอกจากเขาให้มา 50 ฉบับ ยังขออีก 15 ฉบับ และไม่ได้ทำตามสนธิสัญญาปี พ.ศ.2447 และ พ.ศ.2449 แล้วเอาแผนที่มาให้ปี พ.ศ.2450 โดยที่ไม่คิดตรงสันปันน้ำ แต่กลับคิดข้างใน คือเข้าไป จบไป...นี่คือตอนที่ 1

ต่อไปตอนที่ 2 เวลาผ่านไป ปรากฏว่ามันมีลัทธิคอมมิวนิสต์เกิดขึ้นมา ปี พ.ศ.2460 ประเทศรัสเซียเป็นคอมมิวนิสต์ ที่ปฏิวัติราชวงศ์โรมานอฟ จากนั้น พ.ศ.2492 จีนแดงเป็นคอมมิวนิสต์ 2 ประเทศนี้จับมือกัน เริ่มแผ่อิทธิพลลัทธิคอมมิวนิสต์ ไอ้กัน สหรัฐอเมริกา เป็นหัวเรือใหญ่ เป็นประเทศเสรีประชาธิปไตย จากนั้นกดดันเอเชีย คือดันไทย สมัยนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงทรงเสด็จเยือนประเทศต่างๆ ทั่วโลก ส่วนสมเด็จสีหนุ ไปเมืองจีน ซึ่งระหว่างที่ไปเมืองจีน เริ่มทะเลาะกับไทย โดยการปิดชายแดนปี 2501 พอหลังจากเขาพระวิหารจบแล้ว สีหนุถูกปฏิวัติ โดย นายพลลอนนอล จากนั้น พอล พต ยึดอำนาจจากนายพลลอนนอลอีกทีหนึ่ง

กลายเป็นว่า สมเด็จฮุนเซน บุกยึดอำนาจพอล พต อีกทีหนึ่ง สมเด็จนโรดมสีหนุ ลอนนอลพอล พต จึงกลายเป็นเขมร 3 ฝ่ายที่หนีมาอยู่ชายแดนประเทศไทย พอรัสเซียล้มจึงกลับไปอยู่ประเทศของตัวเอง

ทีนี้ กลับมาปี พ.ศ.2501 ที่เขมรปิดชายแดนเพราะนิยมจีน พอปิดชายแดนปั๊บ ปี พ.ศ.2502 เขมรร้องศาลโลกที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ว่า เขาพระวิหารเป็นของเขา แต่ทีนี้ประเทศไทยนิ่งเฉยอีก เฉื่อยแฉะไปเรื่อย จนกระทั่งปี พ.ศ.2503 ไปด่าศาลโลกเขาว่า ไม่มีสิทธิ เพราะเป็นศาลที่เขายกเลิกไปตั้งแต่สงครามโลกแล้ว ศาลโลกบอกคุณภาคีเป็นสหประชาชาติ องค์การสหประชาชาติ หรือ “ยูเอ็น” เลยเรียกมาขึ้นศาล ถ้าเราไม่ไป...จบ พอเราไป จึงได้มาเรี่ยไรกันคนละบาทสองบาท เลยต้องไป

เขมรกับไทยทะเลาะกันปี พ.ศ.2501 ปี พ.ศ.2502 เขมรยื่นคำขอ ปี พ.ศ.2503 เขมรได้ยื่นคำฟ้องแล้วเราด่าเขา พอปี พ.ศ.2504 เราไปแก้โดยเริ่มส่งสำนวนแก้ ทีนี้ในคำฟ้องมี 3 ข้อเลย 1.เขาพระวิหารเป็นอธิปไตยของกัมพูชา 2.ให้ประเทศไทยถอนกำลัง ทหาร ตำรวจ ออกจากเขาพระวิหาร ซึ่งไปขึ้นเป็นอธิปไตยของกัมพูชา 3.ให้เอาเทวรูปที่ไทยเอาไป เอามาคืน แล้วเอาเทวรูปของเรากลับไป จากนั้นยังมีคำเสริมอีกเยอะแยะ เช่น ตรงนี้เป็นเทวสถาน พระเขมรขึ้นมาจำวัด เรามีปราสาทนครวัด นครธม ต้องเป็นพวกเดียวกัน และตอนฝรั่งเศสไปเยี่ยมเขาพระวิหาร พระราชโอรสในรัชกาลที่ 5 ไปเยี่ยมเขาพระวิหาร ปรากฏว่า เราชักธงฝรั่งเศส ซึ่งในรูปยังมีอยู่ อะไรต่างๆ

เราแก้ในส่วนของวัฒนธรรมประเพณีที่เป็นของขอม เราแก้ละ เราบอกว่า ที่พระราชโอรสในรัชกาลที่ 5 เสด็จไปเขมร ไปชักธงชาติเอง ไม่ได้ทำพาสปอร์ตไปนะ ที่ไปวันนั้นเพราะคนไทยจัดงาน และคนที่เจอเขาพระวิหารคือ พระยาสรรพสิทธิประสงค์ พบปี พ.ศ.2442 ก่อนที่จะมีเรื่องในปี พ.ศ.2447 นอกจากนี้ยังมีเรื่องปิดอ่าวไทย เมืองจันท์ เมืองตราดอีกนะ ต่อมานี่เป็นเรื่องของศาสนาขอม เขมรบอกว่าจะเอาพระไปจำวัดได้ไง ศาสนาพุทธไม่เกี่ยวกับศาสนาพราหมณ์ เทวสถานนี้สร้างในสมัยพระชัยวรมันที่ 1 ประมาณศตวรรษที่ 16 ก่อนกรุงสุโขทัยตั้ง ฉะนั้นไม่เกี่ยวกัน จะมาบอกว่าเป็นของเขมรไม่ได้

พอต้นปี พ.ศ.2504 สู้กันต่อโดยการส่งเอกสารเพิ่มเติม จากนั้น 15 มิถุนายน ฟังคำพิพากษาและเก็บเงินคนละบาท ปลุกระดม จอมพลสฤษดิ์ (จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์) ถือโอกาสปลุกระดมเรื่องเขาพระวิหาร ทำเหมือน สนธิลิ้ม นะครับ คือใช้ประสาทเขาพระวิหารมาสร้างความชอบธรรมด้านการเมือง ซึ่งเขมรไม่เกี่ยวเลย เขาต้องการขึ้นเป็นมรดกโลกของเขา รัฐบาลพยายามแก้ เอาเป็นว่า เมื่อ 15 มิถุนายน ศาลพิพากษาเลยว่า 1.อธิปไตยเหนือเขาพระวิหารเป็นของกัมพูชา ตรงเป๊ะกับข้อที่ขอ 2.ให้ทหารตำรวจออกไปให้หมด จากเขาพระวิหาร 3.ให้เอาเทวรูปมาคืนของเขาพระวิหาร ทั้งหมดคือคะแนน 9:3 แต่ข้อ 3 นั้น 8:4 จบ...มันมีกฎของศาลโลก 2 มาตรา คือ 60 กับ 61 ที่บอกว่า สิ้นสุด ก็คือไม่มีอุทธรณ์ ฎีกา การพิพากษาครั้งนี้ไม่มีอุทธรณ์ ฎีกา เหมือนศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองศาลเดียว เหมือนศาลทหาร มาตรา 61 ถ้าสงวนสิทธิ์ต้องภายใน 10 ปี หลังคำพิพากษาของศาลโลก แต่ปรากฏว่าเมื่อมาต่อสู้ในเรื่องการเข้ามรดกโลก จนกลายเป็นประเด็นทางการเมือง กลายเป็นจะฟ้องเรียกร้องกลับ จะโต้แย้งอะไร ซึ่งมัน “ปัญญาอ่อน” มันอายต่างประเทศเขา

10 กรกฎาคม หนึ่งเดือนหลังจากนั้น จอมพลสฤษดิ์ มีการตั้ง ครม. และ ครม. มีมติเอกฉันท์ว่า เหนือบันไดหน้าขึ้นไป 20 เมตร เลียบหน้าผาไปทางตะวันออกเป็นของเขมร แล้วเลียบตัวปราสาทไปทางทิศใต้ เป็นของเขมร 15 ไร่ จบ...ลูกพี่เขมรซึ่งเป็นฝรั่งเศส ไม่ได้ยึดเอาวัฒนธรรม ธรรมชาติ ประเพณี มาจับ ไม่เอาสันปันน้ำมาจับ แต่ยึดแผนที่ปี 2450 และในแผนที่นี้มันโกหก เขายึดตามสนธิสัญญาสันปันน้ำ แต่เราไม่โวย คือเป็นกฎหมายปิดปาก การยอมรับ แต่เขาโกงเราด้วยแบบนี้ ฝรั่งเศสช่วยเขมร แต่ช่วยเพียงครั้งเดียว ไม่ได้บอกว่าพื้นที่ทั้งผืนตามแผนที่ 1:2 แสน เป็นของเขมร แต่บอกว่า เฉพาะตัวปราสาท 15 ไร่ เฉพาะตัวปราสาท ซึ่งในคำพิพากษาจึงเขียนว่า เฉพาะตัวปราสาท แต่เอามาเป็นประเด็นทางการเมือง

เสธ.แดงถึงบอกว่า มันต้องกระทืบพันธมิตรฯ เพราะว่าเขมรไม่รู้เรื่อง 4.6 ตารางกิโลเมตร ไปบอกเขา จนกระทั่งเขามาขอคืน จากนั้น 15 กรกฎาคม ทหารไทยได้ลดธงลงล่ะ เสร็จเรียบร้อย และเอามาปักที่หน้า ตชด. เป็นอันว่าพอมาดูแผนที่ไทย โดยมีการทำแผนที่ประเทศไทย 1:5 หมื่น 1 มิลลิเมตรในแผนที่ เท่ากับ 50 เมตรในภูมิประเทศ 1 ช่อง กว้าง 1 กิโลเมตร ยาว 1 กิโลเมตร แต่ฝรั่งเศสกว้าง 2 พันเมตร ยาว 2 พันเมตร ช่องละ 4 ตารางกิโลเมตร ไม่เหมือนกัน เพราะว่าเขาใช้ 1:2 แสน เราใช้ 1:5 หมื่น เป็นอันว่าจบ เมื่อสักครู่ผมอธิบายให้ในช่วง 50 ปีผ่านไป วันนี้ 46 ปีผ่านไป เขมรจะเอาเขาพระวิหารขึ้นเป็นมรดกโลก ในทางท่องเที่ยว วัฒนธรรม เศรษฐกิจ เขาไม่ได้มีความคิดเรื่องการเมือง เขาก็มีการประชุมครั้งแรก ที่ไครสต์เชิร์ช นิวซีแลนด์ ครั้งที่ 31 ปีที่แล้ว เราโต้ว่ามีการล้ำแดน ให้ขึ้นเฉพาะตัวปราสาท ถัดมาประชุมกันใหม่ที่ควิเบก แคนาดา เมื่อ 22 พฤษภาคม มันจะลามไปถึงคอร์โซน (Core zone) อะไรอย่างนี้ ทีนี้มันล้ำแดนเรา เราไม่ให้ขึ้น เขมรน่ารัก เขมรไม่เคยมีปัญหา เพราะเขามีอยู่แค่นั้น เพราะคำตัดสินของศาลโลกมีแค่ตัวปราสาท

แต่มีคนที่ยกให้ในพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร คือกลุ่มพันธมิตรฯ แต่ก็กลับมาโทษว่ารัฐบาลทำให้เสียดินแดน ปรากฏว่า เขมรลงเฉพาะตัวปราสาท ไทยรับรองไปวันที่ 18 กรกฎาคม เพราะว่าวันที่ 17 ครม. เห็นแผนที่แล้วจึงมีมติรับ แล้วการที่มติ ครม. โอเคได้ มันจะต้องมาจากเจ้ากรมแผนที่ทหาร และสภาความมั่นคงแห่งชาติ พวกนี้ต้องเซ็นก่อน เพราะนักการเมืองจะมารู้อะไร เพราะเพิ่งมาจากการเลือกตั้ง จะต้องอาศัยข้าราชการประจำ และกรมสนธิสัญญาตามกฎหมาย เขาอยู่มาเป็นร้อยปี ของกระทรวงการต่างประเทศ เขาคุมแผนที่อยู่ ทั้ง 3 อันนี้เซ็นแล้วถึงจะเข้า ครม. พอเข้า ครม. ครม. โอเค เพราะเขาเซ็นกันมาอย่างนี้ นายนพดลถึงได้เซ็นไปเมื่อวันที่ 18 ให้กับเขมร แล้วเขมรก็เอาไปเข้า

หลังจากนั้นเกิดการคร่อมเลนขึ้นมา เพราะเขมรต้องการจะขึ้นเป็นมรดกโลก แต่ไทยต้องการเล่นเป็นประเด็นการเมือง มันบ้าอะไรกันไปแล้ว...พอเขาต้องการจะดูเรื่องเศรษฐกิจ ถึงได้เอาขึ้นเป็นมรดกโลก เพราะทางฝั่งเขมรใครจะมาเขาพระวิหารต้องเหาะขึ้นมาเท่านั้น คือต้องมาทางสนามบินอุบลฯ และ ร้านค้าตรงนั้นคนไทยทั้งนั้นกว่า 200 ร้าน ลูกจ้างเป็นเขมร ขอทานเป็นของคนไทย คนที่ขายของเป็นคนไทย ฉะนั้นคนที่ อ.กันทรลักษ์ ถึงเอาธงชาติไล่ตีพันธมิตรฯ เราว่าทำไมธรรมยาตรา 3 คนถึงหลุดเข้าไป ส่วนรั้วเนี่ยเราไม่เคยไล่มาเลย 46 ปี จริงๆ มันอาจจะเกิน 20 เมตรขึ้นมา แต่เราไม่เคยไล่เขา แต่พอเราไล่ให้ออกไปๆ ปรากฏว่าพวกนั้นอยู่หลังรั้วทั้งนั้น ไม่ได้อยู่นอกรั้วเลย ในเขตนอกรั้วจะเห็นได้ในรูปภาพว่าไม่มีเลย แล้ววัดเขมรมีพระอยู่รูปหนึ่ง และหมาอีกตัวหนึ่ง

ผลของการเกิดพันธมิตรฯ ขึ้นมา และโวยวายขึ้นมา เป็นประเด็นทางการเมือง ตอนนี้พระขึ้นไปจำวัดที่นั่น 60 รูป สังฆราชขึ้นมา เมียนายกฯ ฮุนเซนขึ้นมา คนขึ้นมาเป็นหมื่น ปีนเขากันขึ้นมา โดยไม่กล้าขึ้นมาทางไทย กลัวเสียฟอร์ม และจะขอเปิดช่องทางเข้า เรายังไม่ให้เปิด เพราะช่องตรงนั้นติดกับเขมร ทีนี้พอเกิดการคร่อมเลนขึ้น เพราะว่าด้านพันธมิตรฯ ไปร้องเรียนศาลปกครอง ซึ่งการพิจารณาคดีของศาลปกครองต้องเป็นกรณีรัฐกับประชาชน แต่เรื่องนี้เป็นมติ ครม. เป็นเรื่องของคำรับรอง แต่ไม่ใช่สนธิสัญญา ต้องรัฐกับรัฐ ฉะนั้นพอคร่อมเลนขึ้นมาปั๊บ สั่งยุติมติ ครม. ห้ามนำไปใช้ แต่เขมรไม่สนใจ เพราะกฎของสภาโบราณสถานของโลก หากเข้ากฎเพียง 1 ข้อใน 5 ข้อ เช่น ธรรมชาติสวย โบราณสถานดี เป็นวัฒนธรรมประเพณีอะไรต่างๆ แต่ทั้งนี้เขาพระวิหาร เข้ากฎทุกข้อเลย ซึ่งถ้าเข้าข้อเดียวมันได้แล้ว

กลุ่มพันธมิตรฯ มาตีอีก จะต้องเอา 7 ประเทศมาดูเขาพระวิหาร และต้องดูการใช้เงินใช้ทองในการพิจารณา จึงเป็นความอีกว่า อาจทำให้เสียดินแดน คำว่า 'อาจจะ' ใช้กับเรื่องระหว่างชาติไม่ได้ ใช้เป็นเรื่องของศาลไม่ได้ ฉะนั้นนักวิชาการถึงออกมาว่า ศาลปกครองคร่อมเลน เพราะมันเป็นเรื่องรัฐกับรัฐ ไม่ใช่รัฐกับประชาชน ศาลปกครองต้องรัฐกับประชาชนเท่านั้น ต่อมา ส.ส. กับ ส.ว. บางกลุ่มก็ไปเข้าชื่อร้องเรียนกับศาลรัฐธรรมนูญอีก และศาลรัฐธรรมนูญก็คร่อมเลนเข้ามาฝ่ายปกครองอีก อำนาจบริหาร อำนาจนิติบัญญัติ อำนาจตุลาการ ฝ่ายตุลาการคร่อมเลนเข้ามาสู่ฝ่ายบริหารอีก โดยเข้ามาบอกว่า ให้มติ ครม. อาจจะทำให้เสียดินแดนอีก เพราะว่าต้องผ่านสภา หากเป็นสนธิสัญญา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต้องลงพระปรมาภิไธย จึงต้องผ่านสภา แต่นี่ดูแล้วไม่ใช่สนธิสัญญา มันแค่หนังสือรับรอง เหมือนแค่ทะเบียนสมรส

พอถามว่า ทำไมถึงไม่ขอจดร่วมสำหรับประเทศไทย ผมจึงบอกว่า ตั้งแต่เขาจดทะเบียนสมรสมา เมียคนเดียว ผัวสองคน ขอจดทะเบียนร่วม ไม่มีใครเคยเห็น จะบ้าหรือเปล่า...ไปขอจดทะเบียนร่วม ต่อมาบอกว่า เราจะขอร่วมเอาสระตราว กับสถูปคู่ เข้าร่วมด้วย เราบอกว่าถ้าจะเอาทั้ง 2 อันนี้เข้ามรดกโลก จะพาเข้าไปในโรงพยาบาลบ้า คุณไม่อายเขาเหรอที่เขมรบอกว่าจะเอาปราสาทเข้า ถ้าจะเอาทั้ง 2 อันนี้เข้าควรเข้าต่างหาก ซึ่งมันไม่เข้าท่าเลย...

นี่เป็นประเด็นการเมือง จากนั้นพันธมิตรฯ มาสร้างประเด็นทางการเมืองต่ออีก 3 ปราสาท ที่ อ.พนมดงรัก คือปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ให้มันมีเรื่องมีราวเล่น เพราะฉะนั้นอยู่ที่พี่น้องประชาชนจะต้องทำความเข้าใจ ศึกษาหาความรู้ ต้องใช้เหตุผลเหนืออารมณ์ ต้องมีวิชาการ และเข้าใจว่าเรื่องจริงคืออะไร

กรณีเขาพระวิหารสรุปได้ว่า เราเคารพการตัดสินของศาลโลก และตกลงกันได้แล้วว่าเขามี 15 ไร่ แต่การพิจารณาคดีแทนที่จะเอาสนธิสัญญาปี พ.ศ.2447 มาจับ กลับกลายเป็นเอาแผนที่มาจับ ซึ่งเราไม่ได้ตรวจสอบ เป็นกฎหมายปิดปาก ที่จ่ายเรามา 50 ฉบับ และเพิ่มอีก 15 ฉบับ พร้อมกับอ้างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้เป็นคนรับผิดชอบ เราจึงเสียเปรียบ แต่เขมรเองไม่เคยมายุ่งกับ 4.6 ตารางกิโลเมตร เพราะเวลาตัดสินมันพบคนละครึ่งทาง แม้จะยึดแผนที่จริง แต่การตัดสินมันแค่ 15 ไร่ ตามคำพิพากษา แต่เขมรมองแต่เศรษฐศาสตร์ และเศรษฐกิจของประเทศไทย เพราะเวลาเที่ยวมาฝั่งไทย เรื่องทั้งหมดมันเกิดมาจากประเด็นการเมือง

** มองหรือไม่ว่าทำไม นายนพดล ปัทมะ จึงไม่ชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจได้
นพดล ปัทมะ สนิทกับผมมาก่อน ร่วมลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมัยพี่นูญ (พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร) สู้กับปวีณา (นางปวีณา หงสกุล) ในนามพรรคประชาธิปัตย์ และแพ้ เลยรู้จักกัน ต่อมาเขาเป็นทนายความอยู่พรรคประชาธิปัตย์ ซื่อสัตย์ต่อพรรค และเคยทะเลาะกับผมตอนผมทะเลาะกับนายกฯ ชวน (นายชวน หลีกภัย) เขามาบอกว่า พี่แดง ทำไมเล่นนายแรง ผมบอก “นายมึงกับกู...กูมีบุญคุณมากกว่านะ” กูเคยช่วยมึงตอนเลือกตั้งที่ออเงิน-สายไหม ทีนี้บอก แหมทำเป็นซื่อสัตย์กับนาย เขาเลยเงียบไป ต่อมาเขามาลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ เขามาซื่อสัตย์กับพี่ทักษิณ (พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) อีกคน ที่เขาเก่งกฎหมายและรู้กฎหมายน้อย เขาเป็นคนเรียนเก่ง แน่นด้านกฎหมาย มีหลักการโต้ตอบเรื่องกฎหมาย เหมือนพี่แดง ที่ศึกษากฎหมายจนเก่งแน่นปั๊บ เราเลยสู้กับ ผบ.ตร. ทั้ง 2 ได้ ทั้ง พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส

อย่างนพดลเนี่ย มาอยู่กับพี่ทักษิณ หลักการปกครองไม่มีเลย คือไม่เคยเป็นข้าราชการประจำ ไม่เคยเป็นนายจ้าง เป็นแค่นักการเมือง ที่คอยสวนสื่อมวลชน ทำงานจนมีชื่อเสียงขึ้นมาเท่านั้นเอง แต่พอพี่ทักษิณให้เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศขึ้นมา เวลาเขาเจอวิกฤติที พี่เขาถึงได้บอกว่า มืออ่อนกระดูกอ่อน เหมือนกับจักรภพ (นายจักรภพ เพ็ญแข) นั่นแหละ ที่มาจากพิธีกร มาจากผู้อ่านข่าว ไม่มีประสบการณ์การเป็นข้าราชการประจำ ปกครองคน ไม่เคยเป็นอะไรทั้งสิ้นเลย เหมือนกับอภิสิทธิ์ (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) เป็นนักการเมือง ไม่เคยปกครองคน ไม่เคยรู้ร้อนรู้หนาว เพียงแต่พูดเก่ง พูดเหมือนนายกฯ ชวน ฉะนั้นอภิสิทธิ์มาเจอกับสมัครถึงได้ร่วงเลย เพราะสมัครเคยเป็นลูกจ้างร้ายขายอะไหล่รถมาก่อน การเมือง...เล่นมาก่อน เป็นรัฐมนตรีไม่รู้กี่กระทรวงแล้ว ก่อนที่จะมาเป็นนายกฯ เขาคนละมือกัน

พอนพดลเจอหนักจึงถอดใจ เรื่องหนักๆ ของชาติ ผมบอกว่า “นภดล...เวลาเอ็งจะลาออก มาบอกได้ไงว่าเหตุที่ลาออกเพราะถูกม็อบบุกบ้านพี่สาว พี่สาวเกี่ยวอะไรกับชาติ ทำเสียชื่อพี่ทักษิณหมด พี่ทักษิณเสียใจตาย...อุตส่าห์เป็นมวยสร้าง ต้องยืนขาแข็ง ทำแบบหมอเลี้ยบ ป๋าเหนาะ แกกอดเก้าอี้แน่นเลย เพราะไม่มีกฎหมายไหนให้แกออก อย่างจักรภพเหมือนกัน ต้องยื่นซด...ดันน้ำตาไหล มาร้องไห้น้ำตาไหลได้ยังไง เป็นถึงเสนาบดี

ทีนี้รัฐมนตรีที่พระราชทานลงมา ทั้งเตช (นายเตช บุนนาค) ทั้งโกวิท (พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ) เป็นข้าราชการปกครองคนมา มันต้องมีความแข็งแกร่งในการโดนร้อนหนาว เราถึงบอกว่า กระดูกอ่อนมือยังไม่ถึง ประสบการณ์ไม่มี ไม่เคยเป็นข้าราชการประจำ ไม่เคยทำธุรกิจค้าขาย เป็นเพียงนักกฎหมายประจำตัว แล้วพี่ทักษิณตอบแทนเท่านั้นเอง ฉะนั้นนี่คือบทเรียนการตอบแทนของคนที่เป็นใหญ่ในแผ่นดิน อย่าใช้การตอบแทน เพราะฉะนั้นรัฐมนตรีตามโควตามันถึงไม่มีเก่งกันเลยอย่างนี้

** มุมมองของเสธ.แดง มองว่า นายนพดล ทำถูกหรือทำผิดที่ไปลงนามในแถลงการณ์ร่วม
ทำถูกตามระบบของกฎหมาย เขาถูกต้องหมด ทีนี้เมื่อเขาผ่านราชการประจำมา เขาต้องเซ็นผ่านไป เพราะมติ ครม. มันออกแล้วต้องเซ็นไป แล้วนี่...มันไม่ใช่สนธิสัญญา มันเป็นหนังสือรับรอง อันนั้นเขาไม่ผิดเลย นพดล...แต่มีการเอามาตีเป็นประเด็นการเมือง ทำให้เสียดินแดน แล้วไปลาก 2 ศาล นั่นแน่!! คือลากศาลปกครอง และศาลรัฐธรรมนูญลงมา ทำให้เกิดเรื่อง

** การลากศาลลงมาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ทำให้คนวิพากษ์วิจารณ์ว่านี่คือ “ตุลาการภิวัตน์” หรือไม่
ใช่...คือ ตุลาการภิวัตน์ ต่อไปนี้ผมร้องว่า ถ้าเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด สั่งระดมพลรบกับเขมร ถ้าฟ้องศาลปกครอง ยุ่งแน่! ร้องว่าลูกกูยังไม่พร้อม ขอหยุดก่อน...ฉิบหายกันล่ะสิ...แบบนี้ นี่พูดแบบประชดประชันนะ...เกิดกำลังจะทำศึก ยอมแพ้สงครามเพื่อจะจดสนธิสัญญาบนเรือมิสซูรี่ ระหว่างญี่ปุ่น ศาลรัฐธรรมนูญบอก...หยุด!! อย่าเพิ่งทำสนธิสัญญา อาจจะทำให้เสียดินแดนเพิ่มอีก อ้าวตายกันละที่นี้...นักวิชาการเขาถึงได้ออกมาถล่มศาลอุตลุดหมดเลย เขาเลยตั้งคำถามถกเถียงกันว่า ศาลรัฐธรรมนูญเขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ คือ มาตรา 190 (3) “อาจจะทำให้เสียดินแดน” ซึ่งในระบบศาลจะใช้ “อาจจะ” ไม่ได้ แต่ผมไม่ได้โทษศาลนะ เพราะการที่มันจะมีเรื่องได้ มันต้องเกิดจากการร้อง ศาลจะเหมือนกับศาลพระภูมิ คือต้องมีคนมาจุดธูปบูชา แล้วถึงจะตัดสินได้ ฉะนั้นความผิดคือ ส.ส. กับ ส.ว. โง่ๆ ที่เซ็นชื่อขึ้นมา แล้ว 9 พันธมิตรฯ ที่อยู่ตรงลานพระบรมรูปฯ เซ็นชื่อมาที่ศาลปกครอง

ฉะนั้น “ศาล” ไม่เกี่ยว แต่ “ตุลาการภิวัตน์” ในยุคนี้ ที่เป็นยุคแบบที่มองศาลว่า ศาลต้องไม่คบค้าสมาคมกับใคร ต้องอยู่ในระบบของศาล แต่ทีนี้การเมืองไปลากศาลลงมา รัฐธรรมนูญไปลากเขามาเป็น คตส. ปปง. ป.ป.ช. กกต. เพราะว่าพวกนี้รู้เรื่องกฎหมายไง พอลากมา เขาเอาจริง เขาไม่ได้เอาเรื่องรัฐศาสตร์มาจับ แต่เรื่องของการเมืองเป็นเรื่องของรัฐศาสตร์การปกครอง แต่ศาลไม่รู้เรื่องนี้ เขาเอาเรื่องกฎหมายมาจับ ถามว่าผิดไหม?

ถ้าเราบอกผิดปั๊...ผู้บังคับกองพันต้องสั่งยึดพื้น 30 ที จบ ถามระบบศาลผิดไหม? ผิด...ขัง 4 ปีไม่รอลงอาญา คนละเรื่องกัน เพราะว่ามันเป็นเรื่องของรัฐศาสตร์การปกครอง เช่น ศาลทะเลาะกับ เสธ.แดง พี่เสรีทะเลาะกับ เสธ.แดง กูด่ามึง...มึงด่ากู แต่ เสธ.แดง ไม่ฟ้อง เวลาด่ากลับ เสรีกลับศาลฟ้อง ศาลตัดสินขัง เสธ.แดง นี่เป็นเรื่องรัฐศาสตร์ ที่ศาลอาจจะไม่เข้าใจตรงจุดนี้ แต่เป็นความผิดอีก สันต์กับเสรีไม่ควรไปฟ้องศาล 9 พันธมิตรฯ ไม่ควรไปฟ้องศาล ส.ว. ส.ส. ไม่ควรไปฟ้องศาล “พวกมึ...งทำให้ยุ่งเอง” แต่ศาลต้องไปคุยกันกับระดับอาวุโสว่า ถ้าเรื่องของรัฐศาสตร์เมื่อชนมนุษย์ขึ้นมาชนกับชั้นเทวดา ต้องคุยกันให้ดีๆ ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร อย่าง พล.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ถูกขังเนี่ย ผมไม่เห็นด้วย เพราะมันคนละงานกัน ต้องเล่าไปอีกยาว

** บทบาทของกลุ่มพันธมิตรฯ ในการกลับมารอบที่สอง ในมุมมองของ เสธ.แดง มองว่าหนักขึ้นไหม
มันเป็นเรื่องส่วนตัวเลย “แต่ไอ้ควาย...ผมใช้คำว่าควาย” คือถ้า ควายเขาใช้ไม้ตี เหมือนคนต้องเจอตีน เหมือนที่อุดรฯ (จ.อุดรธานี) น่ะสมควรโดน!! ผมไปบรรยายที่ไหนก็บอกว่า ถ้าควายต้องใช้ไม้ตี ถึงจะรู้เรื่อง ถ้าเป็นคนต้องเจอตีนถึงจะถูกแล้ว มีความหลังกันหมด พี่ลอง (พล.ต.จำลอง ศรีเมือง) เนี่ย ต้องการที่จะสร้างแฮตทริก เขาบุกสุจินดา (พล.อ.สุจินดา คราประยูร) เนี่ย ไม่ใช่ว่าเขาเก่งนะ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ป๋าเปรม (พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์) ไปเรียกสุจินดากับพี่จำลองมา แล้วหยุด เพราะว่าเขาปราบที่รัตนโกสินทร์เรียบร้อยแล้ว พฤษภาทมิฬ แล้วเขากำลังจะไปตีที่รามคำแหง ถ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่ห้ามเนี่ย!!! ป่านนี้รามคำแหงไม่มีที่เรียนแล้ว

ต่อมาพี่จำลองมาร่วมกับสนธิ เพื่อมาขับไล่พี่ทักษิณ ไม่ใช่ว่าพี่ลองชนะนะ ทหารเขาปฏิวัติเอง ไม่เกี่ยวกับพี่ลองเลย มาปฏิวัติเอง เพราะว่าเกิดจากการแตกแยกหมู่คนในชาติ เกิดจากการคอร์รัปชั่น เกิดจากองค์กรอิสระควบคุมไม่ได้ เกิดจากการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เอาในหลวงมาหมิ่นและไม่ห้ามปราม ไม่เกี่ยวกับพี่ลอง

พอครั้งที่ 3 เนี่ย พี่ลองมาอีกละ เอ๊ะ! อย่างนี้ คนเขามอง มึงอยากดังนี่หว่า?? จะทำแฮตทริกชนะบอล 3 ครั้งแบบบราซิลอ่ะ...มันไม่มีเหตุผลเลย รัฐบาลยังไม่ทันทำงานเลย ไปเตะขัดขาเขาแล้ว งบประมาณเขายังไม่มี โชว์ถีบก่อน แล้วมาโชว์ขนเพชรใส่ถุง อายเขาไปทั่วโลก แล้วมาโชว์จู๋แก้ผ้า แล้วเอาขี้ปา ทำเสร็จมาอัดจักรภพ ต่อจากนั้นก็นพดล เขาพระวิหาร แก้รัฐธรรมนูญอีกละ มาตรา 237, 309, 63, 190 เล่นกันอยู่ตรงนี้

ฉะนั้นเราจึงเห็นได้ว่า คนที่สำคัญที่สุดที่จะต้องเรียกพี่จำลองกลับ คือ “ป๋าเปรม” ฟันธงเลย ป๋าเปรม ฉะนั้นพอพี่ปฐมพงษ์ (พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์) ขึ้นมา มาบอกว่าป๋าเปรมสั่งให้มา...เสียเลย แสดงว่าป๋าเปรมอยู่เบื้องหลังอย่างนั้นหรือ ฉะนั้นป๋าต้องเอาพี่จำลองกับพี่ปฐมพงษ์กลับไป ตรงนี้ไฮไลต์เลย

ต่อมา “สนธิลิ้ม” ตอนที่ผมทะเลาะกับ พล.ต.อ.สันต์ ผมเคยขอร้อง...สนธิลิ้ม เขากำลังชมพี่ทักษิณ ชมซะแหม...แทบจะเลียทั้งตัว ชมแบบ “เทวดาเลียตีน” เลย อย่างที่เขาด่าบนเวทีเนี่ย ของเขาทั้งนั้น แล้วถึงเวลาไปถล่มเขาเพราะผลประโยชน์ขัดกัน เรื่องไม่ช่วย 6 พันล้าน เรื่องการทีวี เรื่องการบินไทย ไปเอาคนของตัวออก แล้วขอไม่ได้ คือพวกนี้ เศรษฐีทะเลาะกัน แล้วเขารู้มือมาเขาช่วยเหลือกัน แล้วไม่มีใครรู้ไส้รู้พุงเท่ากับ 2 คนนี้ สนธิลิ้มเขาอยู่ในชนชั้นปกครอง เขารู้ความลับเยอะ และเขาเป็นสื่อ ความรู้ความสามารถเขาเหนือกว่าเรา แต่สนธิลิ้ม พิภพ สมศักดิ์ สุริยะใส

จะยังไงก็แล้วแต่ จะออกมาไม่ได้ ถ้าไม่มีประชาชนโง่ๆ ถูกจูงจมูก ไม่ได้รู้เหตุผลเลย เอาแต่อารมณ์เป็นหลัก แล้วเกลียดทักษิณ ลาก...รัฐบาลทักษิณมาปนกับรัฐบาลสมัคร เขารวยเท่าไรไม่รู้เรื่องเลย เขาเหมารถไปต่างจังหวัดมาไม่รู้เท่าไร ตอนนี้เขารวยไป 80 ล้านแล้ว ทัวร์เนี่ยเขาคืนมาตั้ง 3 แสน ที่อยู่บนลานพระบรมรูปฯ เนี่ย ไม่รู้เรื่องเลย บนถนนราชดำเนิน ราชตฤณมัย โรงเรียนราชวินิต เป็นของพระมหากษัตริย์ทั้งหมด ถ้าจะประชาธิปไตย ไปถนนประชาธิปไตย ตรงนั้นสิ อย่ามาขวาง เราด่าจนไม่รู้จะด่าอย่างไรแล้ว

ในสายตาของผม จำลองทำแฮตทริก สนธิลิ้มเป็นพวกแบบที่ต้องคิดบัญชีส่วนตัว ส่วนพวกสมศักดิ์ ดูแลสภาพไป มาดูอะไรเรื่องไม่เป็นเรื่อง สุริยะใส โปรโมต “เปลวสีเงิน” ของไทยโพสต์ด้วย เพราะมีพี่น้องอยู่ในกองบรรณาธิการ แล้วทำตัวเป็นพวกฝ่ายซ้าย สุริยะใสเนี่ย ตอนเขารบกันยังไม่เกิด เหมือนกับอภิสิทธิ์นั่นแหละ ตอนเสียเขาพระวิหารยังไม่เกิดเลย ทีอย่างนี้จะมาพูดกันเป็นต่อยหอย ฉะนั้นมันอยู่ที่อิมเมจ สร้างความสัมพันธ์และชักจูง ผมเลยบอกว่า เนี่ยควายอ่ะ ให้เขาชักจูง ถ้าถูกจูงจมูก แล้วตบมือไปแผละ ตบมือเป็นตัวประกอบให้ม็อบขยาย

ถามว่า ทำไมนายกฯ สมัคร (นายสมัคร สุนทรเวช) ถึงไม่ตัด เพราะมันเป็นกุศโลบายของเขา ซึ่งเขาอาจจะปล่อยให้ตายไปอีก 3 ปีครึ่ง อยู่ได้อยู่ไป คนนอนห้องแอร์ คนนอนกลางถนน และส่วน “นักรบศรีวิชัย” มันต้องอยู่เขมร นี่...ห่างจากเขมรตั้งกว่า 7 ร้อยกิโลเมตร เขาไม่กลัวกันแล้ว แต่งตัวเหมือนคนบ้า ใส่ผ้าแดง

** หากเป็น เสธ.แดง จะปราบม็อบไหม
ปราบสิ...หากมีคำสั่งมาใช้เวลา 3 วัน แต่ปราบจริงๆ ใช้เวลาแค่ชั่วโมงเดียว เปิดฉากเลย ผมจะบอกคนที่ได้รับมอบหมายนะ วันนี้ปิดถนน ด้านหลัง ด้านหน้า ด้านลานพระบรมรูปฯ ส่วนที่กั้นถนนของ กทม. ที่กั้นเป็นซีแพค 3-4 ชั้น เอาลวดหนามออกมากันเลย เอาให้ยาวเหยียด ให้ออกไม่ได้อีกหนึ่งทาง นอกจากนี้ด้านกรมแผนที่ทหารด้วย เมื่อปิดประตู 2 ข้างจะเหลือรูเล็กอีก 4 รู เลือกเอาว่าจะตีพร้อมกัน 4 รู หรือเอารูไหน และรูวัดโสมนัส กับรูวัดวิสุทธิกษัตริย์ ต้องอุดไว้ ที่เหลือลงน้ำ รอเก็บขึ้นน้ำอย่างเดียว เอานักประดาน้ำมา ไม่ให้กลุ่มพันธมิตรฯ ตาย

เราต้องใช้ทหารอีก 1 กองพล กันนักข่าวออกจากพื้นที่ แบบ เติ้ง เสี่ยวผิง ทำที่เทียนอันเหมิน กันออกทีละคน พอกันออกหมดแล้วจะโดดเดี่ยว จากนั้นมาที่แม่ทัพ ถ้าเป็น พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ คนไม่กลับ แต่ถ้าเป็น เสธ.แดง คนจะกลับไปครึ่ง เพราะเราเอาแน่ โดยใช้กฎหมายแรง กอ.รมน. ซึ่งเป็นกฎหมายแรง จากนั้นเอารถดับเพลิง รถฉีดส้วมเข้าเลย อย่าเอาของ กทม. เพราะอภิรักษ์ (นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน) ต้องช่วยอยู่แล้ว เพราะอยู่พรรคประชาธิปัตย์ แต่วันนี้ไม่ต้องง้อ เพราะเอกชนมี ของทหารมี เราต้องใช้ให้เป็น เราต้องเอารถดูดน้ำฉีดส้วม ไม่ใช่น้ำดีหรอก เท่านั้นไม่พอ แก๊สน้ำตาเข้ามายิงเป็นระลอก จับ 5 คนขึ้นฮอ จับขัง 60 วัน เงื่อนไขที่ปราบคือ รักษาความสงบ จึงต้องมีการแก้มาตรา 63 ซึ่งหากใช้อำนาจรัฐมันดิ้นได้หมดละ แต่ไม่ต้องกลัวหรอก มันอยู่ที่แม่ทัพ กล้าไม่กล้า จะออกรบใครจะรับผิดชอบ ถามว่างานนี้ใครจะรับผิดชอบ “กูนี่ไง...รับผิดชอบ” เราต้องไม่ให้เห็นภาพคนไทยฆ่ากันตายสักภาพ

** คิดว่าจะมีวันนั้นไหมในเมืองไทย
อยู่ที่ว่านายกฯ กล้าไหม มันอยู่ที่สมัครกล้าไหม ทหารวันนี้เป็นทหารใจดีกันหมด เขาด่า ผบ.ทบ. เขาด่า ผบ.สส. “ไอ้ทหารเสือพระราชา”…“ไอ้ทหารเสือพระราชินี”...“ฟังทางนี้ ใครไม่ฟังจะตบกะโหลกให้หมด” ปล่อยให้เขาพูดได้ไง? เขาด่าหมด แล้วลามไปทหารเสือพระราชา พระราชินี เขาอาจมีทีเด็ด อาจมีคนช่วย จึงกล้าพูดเรื่องผ้าพันคอสีฟ้า เรื่องอะไรต่างๆ แต่มันอยู่ที่แม่ทัพไง ถ้ากูแพ้ ยอมให้ประหารชีวิต ถ้ากูชนะมึงไม่มีแผ่นดินอยู่ มันอยู่ที่ผู้นำประเทศจะกล้าหรือไม่ ข้างบ้านเขาไปไหนแล้ว เขาเสริมสร้างยุทโธปกรณ์ เรายังเตะขัดขากัน อ้างประชาธิปไตย ประเทศเดินไปไหนไม่ได้ วนอยู่ในอ่างอย่างนี้แหละ รัฐธรรมนูญฆ่ารัฐมนตรีทีละราย นายกฯ ท่านพูดถูกว่า จะเอากันให้ตาย

** การปฏิวัติที่มีกระแสมากในสัปดาห์นี้ จะมีทหารออกมาปฏิวัติเพื่อคุณทักษิณ และล้มล้างคุณสมัครบ้าง ตรงนี้มีความจริงประการใด
การพูดเรื่องทหารปฏิวัติมาจากสื่อ มาจากปากประชาชน คนที่จะร่วมปฏิวัติ ต้องย้อนหลังว่า ตอนที่ เสธ.แดง ปฏิวัติ ปฏิวัติโดยใช้ 42 กองพัน เมื่อ 30 เมษายน 2524 ยึดอำนาจป๋าเปรม เพราะป๋าเปรมต่ออายุ 2 ครั้ง เราไม่พอใจ เราแพ้เพราะป๋าเปรมไปกับขบวนเสด็จที่โคราช ต้องไปรายงานตัว ครั้งที่ 2 วันที่ 9 กันยายน 2528 ครั้งที่ 2 เราปฏิวัติกองพันเดียว กองพัน 4 ยิงกันจนวายวอดไปหมด มีคนตาย นักข่าว ทหารเจ็บ ปรากฏว่าไม่มาตามนัด หนีหมด เราต้องติดคุกคนละ 2 ปี ส่วนผู้การมนูญ (พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร) หนีไปอยู่เยอรมนี ครั้งที่ 3 รสช.

ปรากฏว่า รัฐบาล พวกทีมที่ปรึกษาซอยราชครู พวก ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ อย่างเนี่ย พวกนี้เหิมเกริม มาถึงจะปลดผู้นำเหล่าทัพ บิ๊กสุ (พล.อ.สุจินดา คราประยูร) บิ๊กจ๊อด (พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์) บิ๊กเต้ (พล.อ.อ.เกษตร โรจนนิล) แล้วเอา พล.อ.อาทิตย์ (พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก) ไปหลอกเขามาว่าจะให้เป็นรัฐมนตรีกลาโหม แต่จริงๆ เอาเขามาเป็นรัฐมนตรีช่วย เขาต้องปฏิวัติให้กลัว เขากำลังจะไปเข้าเฝ้าฯ ในหลวง ต้องกลัวเพราะในหลวงท่านเอาจริง บ้านเราเป็นประเทศของกษัตริย์ และทหารใกล้ชิดกับกษัตริย์ เขาต้องปฏิวัติก่อนไปพบในหลวงฯ น่ะสิ ถ้ามาปลดแล้วทำไง หลังปฏิวัติเสร็จโดนประชาชนขับไล่เพราะเอาพี่ลองไม่อยู่ ในหลวงทรงห้าม จากนั้นขัดใจกัน “พี่ลอง” กับ “พี่จิ๋ว” รวมหัวกัน ฉะนั้นไม่มีใครล้ม จปร. ได้ นอกจาก จปร. ล้ม จปร. เอง กลายเป็น “บิ๊กจิ๋ว” กับ “มหาจำลอง” ล้ม “บิ๊กสุ”

มีการปฏิวัติกันเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2534 และมาพฤษภาทมิฬปี 2535 จบ จากนั้นมาปฏิวัติกันอีกทีวันที่ 19 กันยายน 2549 เงื่อนไขตรงนี้เป็นเรื่องของทหารทำเอง ไม่มีอะไร ถ้าจะให้ฟันธงคือ ไปด่าป๋าเปรม แล้วป๋าเปรมจะอ้างอะไรก็แล้วแต่ สั่งทหาร โดยให้อนุพงษ์ (พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา) นำ แล้วบิ๊กบัง (พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน) รับแทน แต่บิ๊กบังไม่เชียร์อนุพงษ์ ไปเชียร์ มนตรี สังขทรัพย์ (พล.อ.มนตรี สังขทรัพย์) ไปขัดใจกัน วันนี้บิ๊กบังเลยเข้ากองทัพบกไม่ได้ เพราะอนุพงษ์ไม่ให้เข้า และอนุพงษ์เป็น ผบ.ทบ. เพราะป๋าเปรม

เงื่อนไขวันนี้เพราะพี่ทักษิณไม่ไว้วางใจเพื่อนแล้ว เพราะมีเพื่อนเป็นทหาร แต่ 3 ขุนพลไม่สู้เลย คือใครจะปฏิวัติไม่ได้หรอก 1.พล.ต. ... เป็นนอ 1 2.พล.ต.เรืองศักดิ์ ทองดี เป็น...ปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน 3.พล.ต.ศานิต พรหมาศ เป็น...ทหารม้า ซึ่งคุมกำลัง 3 กองพลนี้ มีปฏิวัติไม่ได้ พี่ทักษิณจึงวางใจไปนิวยอร์ก ไปประชุมยูเอ็น เพราะหวัง 3 กองพลนี้ แต่ปรากฏว่า ถูกจับ ถูกขโมยกำลัง และไม่ได้ออกจากกองพัน มีรถทหารราบมาปิดหมด ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าอับอายมาก ปรากฏว่าไม่ได้กระดิกตัว แต่ถ้าเป็นแม่ทัพอย่าง เสธ.แดง นี่เสร็จเลย เรามีฮอไม่รู้กี่ลำ หิ้วชิดชัย (พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์) เนวิน (นายเนวิน ชิดชอบ) ไปกรมทหารม้าที่ 4 ที่ 5 ตั้งพรรคใหม่มา “พี่ทักษิณ” ขึ้น “แอร์ฟอร์ซวัน” กลับมา นี่ไม่เกี่ยวข้องกับเบื้องบน นี่สู้กันนะ...จบ

ต่อมาทหารไม่ต้องมาผิดใจกัน จากที่สงสัยกัน หายสงสัย และเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถือเป็นคณะปฏิวัติจบไป มันมีเงื่อนไขอยู่ดังจะเห็นได้ว่า เงื่อนไขแต่ละครั้งเนี่ย ครั้งที่ 1 ไปกับขบวนเสด็จ ครั้งที่ 2 ข้ามาคนเดียว...อันนี้...ปาหี่ ครั้งที่ 3 พล.อ.ชาติชาย นำคณะไปเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เขาครองอำนาจมาแต่มาล้มเองด้วย จปร. แต่ครั้งที่ 4 คณะ คปค. (คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข) มันมีเงื่อนไขอยู่ ซึ่งนอกกฎเกณฑ์

ฉะนั้นวันนี้ถ้าจะมาวิจารณ์เรื่องปฏิวัติ มันมีเงื่อนไข ซึ่งเกี่ยวข้องกับสิ่งที่มองไม่เห็น เราจึงใช้คำศัพท์ “มือที่มองไม่เห็น” ฉะนั้น ถ้าทหารออกมายึดอำนาจดื้อๆ และนายกฯ สมัคร ไปขบวนเสด็จล่ะ ทหารทำซี้ซั้วได้ยังไง? วันนี้ทหารมีเงื่อนไขอยู่ ใครจะพูดก็พูดได้ ปฏิวัติ...ปฏิวัติ...ปล่อยข่าวปั่นป่วนประเทศชาติ แต่ในมุมมอง “เสธ.แดง” ไม่ใช่!!! ทหารถ้าจะมายึดปฏิวัติ ต้องเป็นไปตาม...หมายความว่า จะซี้ซั้วไม่ได้ เพราะประเทศนี้กษัตริย์สร้างมา และมีกำลังทหารเป็นกำลังรบหลักที่หนุนราชบัลลังก์ เงื่อนไขของทหารจะทำอะไรต้องหันไปมองข้างบน ไม่ใช่ “ป๋าเปรม”

คราวที่แล้วผมไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลพี่ทักษิณ เรื่องฆ่าตัดตอน ผมโวย พวกที่อุ้มฆ่า ซึ่งพันธมิตรฯ ด่าเมื่อวานนี้เรื่องการอุ้มฆ่า 17 คนที่ ดีเอสไอ (กรมสอบสวนคดีพิเศษ) กำลังสอบ และเรื่องคาร์บอมบ์ คาร์บ๊อง ผมเล่นในเรื่องเกณฑ์ความมั่นคง แต่รัฐบาลนี้ ผมกลับเข้าข้างรัฐบาลสมัคร โดยเฉพาะกรณีเขาพระวิหาร รัฐบาลเขาทำถูกต้องที่สุดแล้ว

** เรื่องการโยกย้ายทหารที่ พล.อ.อนุพงษ์ จะนั่งควบเป็น ผบ.สส. ด้วย มองอย่างไร มองว่าหมดยุคหรือยัง
น่าจะหมดยุคนั่งควบแล้วในยุคนี้ มีการปล่อยข่าวให้ขวัญเสีย และน่าจะมีการปล่อยข่าวหลายอย่างคือ สมัครกลัวทหารยึดอำนาจ ทหารไม่กล้ายึดอำนาจเหมือนกัน เพราะไม่มีไฟเขียว จะเห็นว่า ผบ.ทบ. มีเสียงวิจารณ์ว่าติดตามนายกฯ ไปต่างประเทศ ซึ่งมีปลัดกลาโหมไปด้วย นี่...ไม่สง่าเท่ากับเดินเดี่ยว กลายเป็นเหมือนแหย แต่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเขาสั่งได้ ว่าให้ใครไปด้วย นักข่าวแซวว่า...แหย ความจริงแล้วถ้านายกฯ กระดิก พล.อ.อนุพงษ์ ยึดอำนาจได้แล้ว ถามว่ายึดอำนาจได้หรือเปล่า...ได้...แต่จะเห็นด้วยหรือไม่ มันจะสมบูรณ์หรือไม่ การยึดอำนาจจะใช้ซี้ซั้วไม่ได้

** การนั่งควบจะคุมกองทัพให้มีเอกภาพได้หรือไม่
มันไม่เป็น เพราะมันถ่างขาอยู่ ทั้ง ผบ.ทบ. กับ ผบ.สส. สักวันขาต้องแหก ต้องทำงานเสียหมด เหมือนเราทำงาน 2 ที่ มันไม่สมบูรณ์แบบ แต่ทั้งหมดผมว่าเป็นการบ่อนทำลายในการปล่อยข่าวว่า มีการจับขั้ว ผบ.ทบ. แต่จริงๆ แล้วท่านน่าจะอยากอยู่ในตำแหน่งนี้จนเกษียณอายุ เพราะ ผบ.ทบ. ได้คุมกำลังทั้งหมด ผบ.สส. ไม่ได้คุมกำลัง ขอเป็น 3 ปีพอแล้ว ถามว่าเขาเสียวไหม ก็เป็นแน่นอน เพราะเป็นสิทธิอันชอบธรรมของ รมว.กลาโหม เพราะเมื่อปรับคนอื่นเสร็จแล้ว การเมืองมาล้วงลูกไม่ได้ เขาไม่สนหรอก ก็ปรับไปสิ ในกองทัพบอก 7 คน และปรับออกคนหนึ่ง เอาคนพูดรู้เรื่องมาคนหนึ่ง เพราะฉะนั้น นายสมัครมีสิทธิที่จะปรับโผได้ อันชอบธรรม แต่ถ้าทำงานเข้าขากันก็น่าจะคงอยู่ได้ นอกจากจะมีเงื่อนไขอะไร เอาอย่างนี้ กองทัพบกแข็งแรง รัฐบาลจะไปรอดหรือเปล่า?

** การลี้ภัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เดินทางไปประเทศอังกฤษ
ผมมองว่า ถ้า ทักษิณ ประกาศลี้ภัย หนังจบทันที!! แต่เขายังไม่ประกาศ แต่ที่เขาประกาศบอกว่า เมื่อมีโอกาสแล้วจะกลับมาใหม่ ผมคิดว่า คนที่มีเงินเป็นแสนล้านเนี่ย กับคนอย่างเราที่ไม่เคยเห็นเงินสักล้าน คุยกันไม่รู้เรื่อง ขั้นที่ 1 คดีของคุณหญิงพจมาน ไม่ได้เลวร้ายอะไร ติดคุก 3 ปี ศาลอุทธรณ์ กับศาลฎีกา อีกประมาณ 7 ปี อีก 7 ปีถึงจะติดคุก เดี๋ยว! มีประกันตัว ประเทศชาติไปถึงไหนแล้ว ถึงเวลานั้นติดคุก 3 ปี อยู่สัก 2 เดือน อาจมีการร้องขออภัยโทษได้ ไม่เป็นไร ต่อมาพี่ทักษิณกำลังจะขึ้นศาลฎีกา ซึ่งเขากำลังจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 309 ให้เน่า

ถ้ามันเน่าเมื่อไร ตรงนี้เน่าหมด ฉะนั้นตราบใดที่พี่ทักษิณยังไม่ประกาศลี้ภัยนะ ถ้าลี้ภัยมันจะเกิดการคุ้มครองทางกฎหมาย และมีกฎหมายเรื่องเกี่ยวกับการส่งผู้ร้ายข้ามแดนอีก นี่...มวยเพิ่งเริ่ม สงครามเพิ่งเริ่ม แล้วพี่ทักษิณลงเลือกตั้งคุมเกมอีก แกชนะอีก ตอนนี้ต้องให้เขาแก้รัฐธรรมนูญให้ได้ ถ้าอยู่จะหาว่าชักจูงอีก พันธมิตรฯ พูดอีก ต้องดูแบบวันต่อวัน ถ้าประชาชนให้ความสนใจ และขี้สงสาร วันนี้ได้เป็นแสน เดี๋ยวลืม ไอ้ฆ่าตัดตอนอะไรนั้นอีก เรื่องโอนหุ้น โอนที่ดิน เขาไม่รู้หรอกประชาชน นี่...มันเรื่องของชนชั้นปกครอง มันสวนกัน พวกรากหญ้าไม่มีอะไร ขึ้นรถฟรี กองทุนหมู่บ้าน ฯลฯ มีเลือกตั้งอีก พี่ทักษิณกลับมาอีก เพราะหัวใจเขาอยู่ตรงนี้ มันอยู่ที่คนพวกนี้จะคุมเกมได้หรือเปล่า ถ้าวันหนึ่งแพแตก ไม่ใช้ชื่อทักษิณ ไม่ได้ผล จะมีคนสมน้ำหน้า สอบตก ถ้าใช้ชื่อพี่ทักษิณ ต้องสอบได้

** มองว่าอดีตนายกฯ ทักษิณ จะต้องไปอยู่ต่างประเทศกี่ปี
แก้เสร็จกลับได้เลย คุณพจมาน ลูก ไม่ผิดนะ ไม่เกี่ยวนะ เพียงแต่ไม่มาตามหมายนัด มีแต่ออกหมายจับและแกมามอบตัว รับทราบข้อกล่าวหา และเคลียร์ให้ประกันตัว ถ้า 309 เรียบร้อยจะเหลือคดีเดียวคือ ที่ดินรัชดาฯ ซึ่งชนะได้อยู่แล้ว เพราะมันมีสิทธิชอบธรรม เนื้อที่ที่ดินนี่นะเมียประมูลได้ ซึ่งความจริงแล้วมันไม่ควร แต่เมื่อสู้ด้วยพยานหลักฐานแล้วเขาไม่น่าจะผิด วันนี้ยังตอบไม่ได้ว่าพี่ทักษิณไปจริงหรือเปล่า เขายังไม่ได้บอกว่าเป็นการลี้ภัย เพียงแต่บอกว่าวันนี้ไม่ใช่วันของผม

** เมืองไทยจะมีวันสงบไหม
เมืองไทยไม่มีวันสงบนับจากนี้ไป...เพราะว่าเอาสถาบันกษัตริย์มาคุยเล่นกัน และไม่มีใครกล้าในแผ่นดิน คนเก่งไม่ปกครองประเทศ วิธีตรวจสอบ เช่น จักรภพ (นายจักรภพ เพ็ญแข) นพดล (นายนพดล ปัทมะ) ผมขอย้อนไปที่รัฐมนตรีต่างประเทศ 2 คนนะ เมื่อคณะปฏิวัติ อยู่ดีๆ ไปด่ามาเลเซียว่าสนับสนุนขบวนการแบ่งแยกดินแดน แสดงว่าตัวไม่รู้อะไรเลย ขบวนการแบ่งแยกดินแดนมันเป็นของพรรคปาส เป็นขบวนการ KMM ของรัฐกลันตัน ตรังกานู ซึ่งจะรวมกับรัฐปัตตานี ซึ่งคือ จ.ปัตตานี นราธิวาส เป็นสาธารณรัฐปัตตานี เป็นรัฐอิสลาม และใช้กฎหมายอิสลามปกครองประเทศ และมีกบฏ KMM ไม่รู้เรื่องเลย แต่บอกว่ารัฐบาลสนับสนุนการแบ่งแยกดินแดน รัฐบาลบอกจะแบ่งแยกดินแดนได้ไง ไม่รู้เรื่องเลย

คนเก่งมันหมด คือ 111 คนเก่งหมด และทีนี้จะหมดอีก 39 คนของพรรคพลังประชาชน ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 237 ที่เขียนไว้ให้ยุบพรรคเนี่ย มันหมดล็อต เหลือพี่เหลิม (ร.ต.อ.ดร.เฉลิม อยู่บำรุง) กับมิ่งขวัญ (นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์) 2 คน คือไม่มีคนเก่งปกครองประเทศแล้ว

ส่วนคนที่เก่งจริงๆ ไม่มีราคาค่าป้าย ไม่มีค่าป้ายให้บริหารการเมือง แต่เป็นคนเก่ง เป็นข้าราชการประจำ และไม่เคยเข้าตาใครแบบ เตช (นายเตช บุนนาค) แบบโกวิท (พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ) บ้านเมืองมีคนไม่เก่ง ขนาด “ป๋าเปรม” เลือก แกยังหาคนเก่งไม่เป็นเลย แกหมดอายุขัยแล้ว แกแก่ เอา “ขิงแก่” มาเลย อายุรวมกันได้ 2 พันปี เดินยังเดินไม่ไหว แล้วจะไปรบกับใคร ตอนนี้กองทัพหน่อมแน้ม วิธีที่ดูว่าหน่อมแน้มคือ ปล่อยให้พันธมิตรฯ ด่าทุกวัน ไม่มีความรู้สึกอะไรเลยเหรอ ไม่อายหรือไง พวกผู้นำเหล่าทัพต้องใช้กฎหมาย กอ.รมน. นำตัวมาสอบสวนว่าพูดอย่างนี้ได้อย่างไร ไม่สั่ง “เสธ.แดง” จะทำโดยทันที...