WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, August 28, 2008

ตำรวจเตรียมเสนอศาลขอเจ้าหน้าที่บังคับคดี จัดการม็อบดื้อไม่ยอมออกจากทำเนียบ


ตำรวจเตรียมเสนอต่อศาลเพื่อแต่งตั้งเจ้าหน้าที่บังคับคดี หลังม็อบพันธมิตรฯ ดื้อด้านขัดคำสั่งศาลแพ่ง ไม่ยอมคนย้ายคนและข้าวของออกจากพื้นที่ทำเนียรัฐบาลและพื้นที่โดยรอบ

กรณีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งศาลแพ่ง ที่ได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล พร้อมทั้งรื้อถอนสิ่งก่อสร้างต่างๆ ของพันธมิตรฯ ทั้งหมด พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า หากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งศาลแพ่งตำรวจจะเสนอต่อศาลเพื่อแต่งตั้งเจ้าหน้าที่บังคับคดีต่อไป

ด้านนายคารม พลทะกลาง ทนายสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล ก่อนนำหมายศาลแพ่งไปติดประกาศตามภูมิลำเนาของผู้ต้องหา ยกเว้น นายสุริยะใส กตะศิลา ที่มีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด

ขณะที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้แจกจ่ายคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลแพ่ง ลงวันที่ 27 ส.ค.2551 คดีหมายเลขดำที่ 5213/2551 ระหว่าง สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โจทก์ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง กับพวกรวม 6 คน จำเลย ไปส่งให้จำเลยทั้งหมด ประกอบด้วย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายพิภพ ธงไชย นายสุริยะใส กตะศิลา และนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ จำเลยที่ 1-6 เพื่อให้จำเลยรับทราบและปฎิบัติตามคำสั่งศาลในทันที

โดยให้จำเลยทั้ง 6 ออกจากทำเนียบรัฐบาล และบริเวณทำเนียบรัฐบาลทั้งหมด รวมทั้งให้จำเลยทั้ง 6 ดำเนินการให้กลุ่มผู้ชุมนุม ออกจากบริเวณดังกล่าว และให้รื้อถอนเวทีปราศรัย รวมทั้งสิ่งกีดขวางอื่นๆออกจากบริเวณดังกล่าว ให้ดำเนินการเปิดพื้นที่การจราจร ถนนพิษณุโลก ถนนราชดำเนิน เพื่อให้ประชาชน คณะรัฐมนตรี โจทก์ ข้าราชการผู้ปฎิบัติงานในทำเนียบรัฐบาล สามารถเข้าออก เพื่อปฎิบัติหน้าที่ได้โดยสะดวก จนกว่าคดีจะถึงที่สุด หรือ ศาลมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น