บทบรรณาธิการ
หลังการเลือกตั้งทั่วไป วันที่ 23 ธันวาคม 2550 ดูเหมือนจะเป็นเรื่องดีที่บ้านเมืองจะ เดินหน้าเข้าสู่ประชาธิปไตย อำมาตยาธิปไตย และ ขุนทหาร ถอย ร่นเข้าสู่ ที่ตั้ง เพราะเห็นคะแนนจากพี่น้องประชาชนคนรักประชาธิปไตย มากมายเต็มผืนแผ่นดินไทย
พรรคพลังประชาชน ได้เสียงเกือบจะถึงครึ่งในการจัดตั้งรัฐบาล ท่ามกลางการ กดดัน อย่างหนัก และการเล่นนอกกติกาของ ขุนทหาร และ ข้าราชการชั่วช้า
แต่พลันการนับคะแนนจบสิ้น อำมาตยาชั่วช้า สำแดงฤทธิ์อีกครั้ง มีการเปิดเกมต่อเนื่องอย่างไม่หยุดยั้ง ใช้กลไกขององค์กรที่ น่าเชื่อถือ ให้ใช้ดุลพินิจจนกลายเป็นองค์กรที่ ไม่น่าเชื่อถือ คราวนี้ อำมาตยาธิปไตย ไม่ได้ร่วมมือ ขุนทหาร เพราะ ทำงานพลาด ประเคนความลับรั่วไหล มาให้ ประชาทรรศน์ แบบเต็มสำรับ จึงหันไปร่วมมือกับ นายธนาคารยักษ์แห่งหนึ่ง ที่นั่งเป็นที่ปรึกษาอยู่
เดินเกมกันเต็มสูบ กระสุนเพียบ คอยดูดีๆ ตาจ้องอย่ากะพริบ วันโหวตลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรีกลางสภา เกมเก่าๆ ของเฒ่าการเมืองที่เคยถนัดกำลังจะผุดขึ้นมาอีกครั้ง
นายธนาคารเหล่านี้ จำได้ไหม เคยเอาภาษีอากรของประชาชนตาดำๆ ไปปู้ยี่ปู้ยำในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ แทนที่เขาเหล่านั้นจะนึกถึงบุญคุณของประชาชน กลับไปอิงแอบ อำมาตยาชั่วช้า ที่เดินเกมเข้าทาง ไข่เค็มเหม็นเน่าแห่งอันดามัน ที่เป็นแกนนำพรรคการเมืองอยู่
ตอนแรกไม่ค่อยเชื่อข่าวนี้มากนัก แต่วันนี้ไปถามคนในแวดวงการเมืองเขารู้กันหมดว่า อำมาตยาชั่วช้า เดินเกมจริงหรือไม่ อย่างไร
“ป๋า...กำลังพยายามอยู่” คือคำตอบที่ สมุนนักการเมืองพรรคเก่าแก่ คนหนึ่งไปถาม หัวหอกนายธนาคารใหญ่
ข้อมูลพร้อมเพรียง ในเรื่อง มือสกปรก ที่มาวุ่นวาย ยุ่มย่ามกับการเมือง ถูกตีแผ่ออกมาแบบนี้ แม้เป็นเสียงซุบซิบ จากที่ ไม่เคยเชื่อ ต้องกลับมา ฟังหูไว้หู และตอนนี้ เชื่ออย่างสนิทใจ ว่า ใช่ มือสกปรกมีแน่นอน ที่เข้ามายุ่มย่ามกับการเมืองอีกครั้ง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ หลอกลวงผู้คน มาตลอดเวลาว่า หนูไม่ยุ่...ง...หนูไม่เกี่ย...ว
มือถือสาก ปากถือศีล แบบนี้นี่เอง
ไม่รู้จะว่าอย่างไรกับ พรรคการเมืองเก่าแก่ อวดอ้างตัวเป็นฝ่ายประชาธิปไตยมาตลอดหลายสิบปี กลับยอมรับในอำนาจนอกระบบในวันนี้ เพียงเพื่อให้ตัวเอง เป็นต่อ ในเกมที่มัน ควรจะจบลงไปแล้ว และยอมรับผลโดยดุษฎี
การเฉลยหน้าไพ่ตรงกัน 60-65 ใบ คือเป้าหมาย ใบแดง ร่วมกันของ พรรคเก่าแก่ กับกลุ่ม อำมาตยาชั่วช้า
ที่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแล้วว่า มันเป็นตัวเลขที่ตั้งเป้า ตั้งเกณฑ์ กำหนดกันออกมา และให้คนเกี่ยวข้องไปจัดการให้ถึงเป้าหมายนี้
หากเป้าหมาย 60-65 ใบแดง ไม่สำเร็จ
หากเป้าหมาย นายธนาคารโยนเศษเงินคว่ำโหวตในสภา ไม่สำเร็จ
เป้าหมายต่อมาคือ การ ยุบพรรค
ยุบพรรค!!! เพราะเป็น นอมินีทักษิณ
ในฐานะของคนไปใช้สิทธิใช้เสียงลงคะแนน ซึ่งได้เรียกร้องหลายครั้งหลายหน ความพอเหมาะพอควร ที่ว่านั้นคืออะไร
หรือจะถึงเวลาจัดการขั้นเด็ดขาด ขุดรากถอนโคน เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไป
เพราะหาก เล่นนอกเกม นอกกติกา กันบ่อยๆ พร่ำเพรื่อ ทำลายบรรยากาศประชาธิปไตย กันแบบนี้ เห็นทีบ้านเมืองจะไม่ไปไหน
เดินหน้า-อยู่กับที่-ถอยหลัง ไปเรื่อยๆ เป็นวงจรอุบาทว์แบบนี้คงไม่ได้
ย้ำหลายครั้งว่า กลไกในระบอบประชาธิปไตย ควรปล่อยเป็นไปโดยธรรมชาติ
คนที่อยู่ข้างนอกวงที่ขีดคั่นเอาไว้ อย่าใช้อาณาบารมีมาเกี่ยวข้อง หรือทำให้เบี่ยงเบน หยุดแทรกแซง ตามราวี
หากเป็นลูกผู้ชาย? แน่จริง ตั้งพรรคการเมือง มาสู้กันในสนามเลือกตั้ง ตัวต่อตัว ไม่ดีกว่าหรือ?
มิเช่นนั้นอาจจะใกล้เวลาที่ต้องเอาเข้าห้อง ไอซียู เพราะคติมีว่า ตัดอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต ในเมื่อ มืออันสกปรก ย่อมมี เชื้อโรคมากมาย และ อาจจะเน่าเฟะ ได้ หากปล่อยเอาไว้ในอนาคต
รวมถึงการกำหนดให้มีการจัดการขั้นเด็ดขาดแบบถอนรากถอนโคน กับกลุ่มก๊วนที่ฝักใฝ่การกระทำนอกระบบมาอย่างต่อเนื่อง ในเมื่อกฎหมายใช้ย้อนหลังได้ ประตูนี้ท่าจะดี คือ ออกกฎหมายให้
ยุบพรรค เพราะเป็น นอมินี มือสกปรก...ได้ไหม?
ยุบธนาคาร เพราะเป็น นอมินี มือสกปรก...ได้ไหม?