WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, June 11, 2008

รัฐบาลแห่งชาติ ทางออกของคนสิ้นหวัง (1)

ฤดูกาลอดตาหลับขับตานอนของบรรดาหนุ่มๆ หรือสาวๆ ที่รักกีฬาฟุตบอลทั้งหลาย มาถึงอีกครั้ง คนที่ตื่นเต้นก็ตื่นเต้น คนที่ไม่ตื่นเต้นก็ไม่ตื่นเต้น เพราะไม่มีบอลถ้วยยุโรป หรือยูโร ก็ยังมีบอลถ้วยอื่นๆ เวียนมาให้ได้ลุ้นกันทุกปีทุกสองปี

อาจไม่บ่อยเท่ากับ “ม็อบ” ในประเทศแถวๆ นี้ แต่ก็ถือว่าถี่ใช้ได้ แตกต่างกันบ้างก็ตรงที่คนดูบอลถ้าไม่บ้าพนันก็มักดูด้วยความสนุกสนาน ตื่นเต้นระทึกใจ เพราะขึ้นชื่อว่า “ลูกกลมๆ” อะไรที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นได้เสมอ...

ไม่เหมือน “การเมือง” ในประเทศแถวๆ นี้ (อีกแล้ว) ที่ถ้าติดตาม จับตา และเทียบเคียงศึกษากับอดีตให้ดีๆ จะพบว่ามีลักษณะบางอย่างที่ย่ำซ้ำรอยเดิมเสมอ เพียงแต่เปลี่ยนเลขที่ พ.ศ. เปลี่ยนตัวละคร (บางเรื่องก็ตัวละครเดิม) แต่นอกนั้นก็หาได้มีพัฒนาการอะไรแปลกใหม่ให้น่าตื่นตาตื่นใจแต่อย่างใด

ที่สำคัญ ดูบอลอย่างน้อยก็มี “กติกา” ที่ทั้งผู้ดูและผู้เล่นรับทราบร่วมกัน ใครเล่นนอกกติกาก็โดนลงโทษอย่างสมน้ำสมเนื้อ

ต่างจากการเมืองของบางประเทศที่ “กติกา” ถูกยึดถือเพียงบุคคลเฉพาะกลุ่ม หากมีอีกกลุ่มที่ไม่ชอบใจกติกา ก็สามารถเพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามเสียดื้อๆ โดยอีกส่วนใหญ่ที่ยึดถือกติกาก็ทำอะไรไม่ได้ เผลอๆ บางคนยังต้อง “ยกมือไหว้” แทบกราบกรานคนที่นอกกติกา ให้หันมาเคารพกติกาด้วยเสียอีก...

ดังนั้นใครพร้อมจะทุ่มเทใจให้กับการดูกีฬาฟุตบอลมากกว่าสนใจการเมือง ก็อย่าไปว่าเขาเลย...เพราะอย่างน้อยในเกมฟุตบอลก็ยังมีเรื่องสมเหตุสมผลมากกว่ากันเยอะ

อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับการเมืองในบ้านเรา เร็วๆ นี้ก็ยังมีบางท่านพยายามเสนอ “ทางออก” ที่เชื่อว่าจะนำไปสู่การคลี่คลายความตึงเครียดขัดแย้งตามที่เราๆ เห็นกันอยู่

“ยุบสภา” เป็นหนึ่งในทางออกที่อดีต “ตัวละคร” ทางการเมืองผู้มีชื่อเสียงคนหนึ่งแนะนำไว้ ด้วยเหตุว่าจะได้ให้ประชาชนตัดสินกันไปอีกครั้งว่าจะเลือกใคร

หาก “ผู้ชนะ” ยังเป็นฝ่ายเดิม อีกฝ่ายก็สมควรหุบปากไป ไม่มีสิทธิ์ออกมาโวยวายนอกสภาอีก

แต่อย่าลืมว่า ทางออกที่ให้ประชาชน “เลือก” อีกครั้ง...และอีกครั้งนั้น มันก็เกิดขึ้นมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งหลังรัฐบาลครบวาระ 4 ปี หรือการเลือกตั้งหลังการยุบสภา

แม้แต่การเลือกตั้งทั่วไปภายหลังถูกคณะรัฐประหารยึดอำนาจ ผลการเลือกตั้งก็ยังออกมาชัดเจนว่าใครเป็นฝ่ายชนะ ชนะภายใต้เงื่อนไขปัจจัยที่ฝ่ายตรงข้ามวางกรอบมาให้แล้วทั้งสิ้นด้วยซ้ำ

ปัญหาจึงไม่ได้อยู่ที่ว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะได้รับเลือกจากประชาชนมาอย่างเพียงพอหรือไม่...เพราะคำตอบคือ มากพอ

แต่เป็นเพราะอีกฝ่ายหนึ่งที่แพ้จากการต่อสู้ในระบบ พยายามตะเบ็งเสียงให้ดังกว่า และฟาดงวงฟาดงาในทุกครั้งที่ผลการเลือกตั้งออกมาไม่ถูกใจตัวเอง (ซึ่งเป็นเสียงข้างน้อย)

หากรัฐบาลจะต้องคอย “สปอย” ตามเอาอกเอาใจคนกลุ่มนี้ด้วยการยุบสภา ก็เห็นทีคงต้องยุบกันเรื่อยไปไม่มีที่สิ้นสุด จนกว่าอีกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเหนื่อยและปลง ขนของกลับบ้านไปเองนั่นแหละ

ยุบสภาจึงเป็นทางออกที่ยังไม่ใช่ทางออกในขณะนี้...