นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.)สมควรได้รับการต่ออายุการทำงานออกไป และตนเตรียมที่จะนำเรื่องนี้เสนอให้ที่ประชุมส.ส.พรรคได้พิจารณา เนื่องจากจะต้องออกเป็นร่างพระราชบัญญัติ ทั้งนี้คตส.ต้องทำหน้าที่เสมือนหนึ่งเป็นพนักงานสอบสวนและเป็นโจทก์ร่วมในคดีทุจริตที่เข้าสู่การพิจารณาของศาล ซึ่งถ้าไม่ดำเนินการเช่นนี้ความขัดแย้งและการเผชิญหน้าก็ยังจะคงอยู่ เพราะฝ่ายต่อต้านระบอบทักษิณไม่เชื่อว่ารัฐบาลนี้จะเป็นกลางในการดำเนินคดีกับพ.ต.ท.ทักษิณและพวกพ้อง
จะเห็นได้จากกรณีมีการโยกย้ายข้าราชการระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว เช่นการย้ายนายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ นางสาวกัญญานุช สอทิพย์ อธิบดีกรมบังคับคดีหรือแม้แต่การดิสเครดิตคตส.ด้วยวิธีการต่างๆ ดังนั้นคตส.ควรที่จะต้องอยู่ทำงานให้เสร็จและรับผิดชอบต่อสำนวนคดีที่ได้ส่งฟ้องศาลและจะเป็นโอกาสของฝ่ายที่ตกเป็นจำเลยและผู้ถูกกล่าวหาในการต่อสู้คดี
พรรคประชาธิปัตย์อยากให้กำลังใจคตส.ได้ทำงานต่อไป เพราะคตส.ทำงานด้วยความยากลำบากและเสียสละ ดังนั้นทุกฝ่ายควรที่จะให้กำลังใจและสนับสนุนรวมทั้งรัฐบาลและทุกพรรคการเมือง เพราะการตรวจสอบของคตส.เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงเพื่อนำไปสู่การพิจารณาการทุจริตในชั้นศาลจะทำให้ฝ่ายที่สนับสนุนหรือตกเป็นเครื่องมือของระบอบทักษิณไม่เห็นกงจักรเป็นดอกบัวอีกต่อไป ดังนั้น เรียกร้องให้ส.ส.และส.ว.ควรที่จะให้การสนับสนุนในการผ่านกฎหมายต่ออายุการทำงานของคตส. เพื่อให้การพิสูจน์ความถูกผิดในชั้นศาลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและไม่ต้องเริ่มนับหนึ่งกันใหม่
นายอลงกรณ์กล่าวว่าการที่คตส.ถูกตามเช็คบิลจากอำนาจรัฐถือเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะงานที่คตส.กำลังตรวจสอบคดีทุจริตของรัฐบาลทักษิณและคณะถือได้ว่าเป็นกระบวนการหนึ่งในการพิสูจน์ความถูกผิดของระบอบทักษิณ ที่เป็นปมเงื่อนสำคัญที่จะถอดชนวนวิกฤติการเมืองที่ยืดเยื้อยาวนานกว่า3ปี ซึ่งรัฐบาลและองค์กรต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชนสมควรที่จะปรับเปลี่ยนมุมมองว่า การทำงานของคตส.จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพิพากษาคดีในการทุจริตในระบอบทักษิณ ซึ่งบางคดีก็เข้าสู่การพิจารณาของศาลแล้ว บางคดียังอยู่ในระหว่างการพิจารณาชั้นอัยการเพื่อมีคำสั่งส่งฟ้องต่อไป
ดังนั้นการทำงานของคตส.จึงเป็นเพียงขั้นตอนของการสอบสวนจัดทำสำนวนคดี ซึ่งหากว่าคตส.ถูกกลั่นแกล้งแทรกแซงหรือบิดเบือนสำนวนสอบสวนในขั้นตอนหนึ่งขั้นตอนใด ก็จะถูกมองว่ามีอำนาจแฝงเร้นเหนือรัฐบาลในการดิสเครดิตสกัดกั้นการทำงานของคตส. ซึ่งจะทำให้กระบวนการพิสูจน์ความถูกผิดคดีของพ.ต.ท.ทักษิณและคณะหยุดชะงัก ซึ่งจะทำให้ฝ่ายที่คัดค้านระบอบทักษิณยังมีความชอบธรรมในการแสดงความไม่เห็นด้วยต่อการใช้อำนาจรัฐ เพื่อช่วยพ.ต.ท.ทักษิณและคณะซึ่งจะทำให้ปมความขัดแย้งยังดำรงอยู่ ดังนั้นทุกฝ่ายต้องสนับสนุนการทำงานของคตส.ต่อไป
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ส่วนการที่เมื่อคตส.หมดวาระการทำงานไปแล้วก็สามารถโอนคดีที่ยังค้างส่งต่อไปให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือป.ป.ช.ทำต่อได้นั้น เห็นว่าเรื่องการโอนคดีเราเคยมีความผิดพลาดมาแล้ว เพราะการโอนคดีให้ป.ป.ช.นั้นอาจจะมีข้อจำกัดของป.ป.ช.เอง โดยเฉพาะเรื่องอำนาจการตรวจสอบทางกฎหมาย ซึ่งไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญ เช่น กรณีคดีการปกปิดโครงสร้างหุ้นบริษัทเอสซีแอทเสท ซึ่งเป็นประเด็นคอขาดบาดตายและเป็นปมมัดที่มีคำถามมานานกว่า7ปี
เพื่อไทย
Tuesday, June 10, 2008
อุ้มเผด็จการ! “อลงกรณ์” เตรียมชงร่างพ.ร.บ.ต่ออายุ คตส.
ปชป.เดินหน้ารับใช้ระบอบเผด็จการอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด “อลงกรณ์ พลบุตร” เตรียมเสนอร่างพ.ร.บ.ต่ออายุ คตส. อีก อ้างหน้าตาเฉยบอกพรรคประชาธิปัตย์อยากให้ทำงานต่อ เหตุหวั่นอำนาจ ป.ป.ช.เข้าไม่ถึงข้อมูล