นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 (คปพร.) กล่าวถึงกรณีที่ นางสดสรี สัตยธรรม กกต..ด้านกิจการพรรคการเมืองจะยื่นฟ้องร้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวหาว่า กกต.แก้ฐานข้อมูลพยานสำคัญคดีใบแดงนายยงยุทธ ติยะไพรัช ว่า ตนเห็นด้วยอย่างยิ่งกับการที่นางสดศรีจะฟ้องร้องนายสนธิ เพราะขบวนการเก็บเอกสารของทาง กกต.เป็นความรัดกุม การที่นายสนธิกล่าววหาว่า กกต.เปลี่ยนแปลงเอกสารเป็นการกล่าวหาที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งเอกสารของนายชัยวัฒน์ ฉางข้าวคำ กำนัน ต.จว้า อ.แม่จัน จ.เชียงราย เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์จริง ดังนั้นนายสนธิต้องมีหลักฐานแสดงให้เห็นว่านางสดศรี เปลี่ยนแปลงเอกสาร
ทั้งนี้ การที่นางสดศรีได้ออกมาแถลงข่าวว่า กกต.ด้านกิจการพรรคการเมืองไม่เคยปกปิดข้อมูลแต่อย่างใด อีกทั้งได้ทำตามขั้นตอนทุกอย่าง สามารถตรวจสอบได้ และฐานข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบันมีการแก้ไขปรับปรุงแล้ว
นพ.เหวง กล่าวว่า การที่นางสดศรีจะฟ้องนายสนธิ และเปิดโปงให้ประชาชนได้รับรู้กันทั่วประเทศว่า กกต.มีความสุจริต จึงอยากให้นางสดศรีท้าให้นายสนธิเอาหลักฐานมาเผยแพร่ให้สาธารณชนได้รับทราบ อีกทั้งอยากให้นายสนธิแสดงความเป็นสุภาพบุรุษ อย่ารังแกผู้หยิงควรให้เกียรติสุภาพสตรี
“อยากเรียกร้องให้นายสนธิ กล้าๆหน่อย อย่ารังแกผู้หญิง ต้องให้เกียรติผู้หญิง นายสนธิ เป็นสุภาพบุรุษรึเปล่า อยากให้เผชิญหน้ากันเลย เพื่อจะได้ฉีกหน้ากากของนายสนธิว่าเป็นคนอย่างไร การที่จะไปเหยียบย่ำสถานที่ราชการ และกล่าวหาโดยไม่เป็นความจริงนั้นมันน่าเกียจขนาดไหน” นพ.เหวงกล่าว
อย่างไรก็ตามการฟ้องร้องต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควร จึงอยากขอเรียกร้องให้นางสดศรีและนายสนธิออกอากาศว่าจะมีการฟ้องร้องกันจริงทุกช่อง ซึ่งสถานที่ออกอากาศจะเป็นที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หรือหากทางนายสนธิรังเกียจ กกต.ก็ไปถ่ายทอดที่สนามหลวงก็ได้ ซึ่งตนเชื่อนางสดศรีมากกว่าเพราะว่าการเก็บเอกสารของ กกต.เป็นไปอย่างรัดกุม อีกทั้ง นายชินวร บุญเกียรติ ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช และกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ เป็นคนรับรองว่าเอกสารนายชัยวัฒน์เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2540 จริง