สนนอ. ออกแถลงการณ์เพื่อเตือนพันธมิตรฯ ให้ยุติการชุมนุม และเอ็นจีโอที่เข้าร่วมกับพันธมิตรฯ ให้ทบทวนจุดยืน รวมทั้งสนับสนุนข้อเรียกร้องของสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) ที่เรียกร้องต่อ สุริยะใส กตะศิลา ให้ลาออกจาก ครป. หรือถอนตัวออกจากพันธมิตรฯ ตามรายละเอียดต่อไปนี้
แถลงการณ์สหพันธ์นิสิตนักศึกษาภาคอีสานฉบับที่ 1/2551
“พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหยุดนำพาสังคมก้าวไปสู่ห้วงเหว”
เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า เป้าหมายที่แท้จริงของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในการออกมาชุมนุมเคลื่อนไหวในรอบที่ 2 นี้ คือการล้มรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช ซึ่งเป็นปฏิปักษ์กับขบวนการเช็กบิลล้างโคตร ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในข้อหา “คอร์รัปชั่นมโหฬาร” ตามแผนปฏิวัติ 5 ขั้นที่วางไว้ ข้อสรุปนี้เราสังเกตได้จากลำดับประเด็นต่อสู้ของกลุ่มพันธมิตรฯ เอง
โดยครั้งแรกกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ออกมาคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ซึ่งต่อมาญัตติก็ได้ตกไป เนื่องจากจำนวน ส.ส. ไม่ครบ 1 ใน 5 ซึ่งนั่นก็หมายถึงชัยชนะครั้งที่ 1 ของพันธมิตรฯ อีกครั้งหนึ่งเมื่อ นายจักรภพ เพ็ญแข ได้แถลงข่าวลาออกจากตำแหน่ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากกรณีการบรรยายเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2550 ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย ที่มีเนื้อหาหมิ่นเหม่ต่อพระบรมราชานุภาพ “เพื่อรักษาขุนและประชาธิปไตยในบั้นปลาย” และนี่น่าจะถือว่าเป็นชัยชนะครั้งที่ 2 ของพันธมิตรฯ เมื่อบรรลุข้อเรียกร้องเช่นนี้แล้วพันธมิตรฯ ควรจะถอยเพื่อลดความรุนแรงการเมืองลง และปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังข้าวยากหมากแพง แต่พันธมิตรฯ กลับทำตรงกันข้าม
โดยไม่คิดถึงส่วนรวมเลยแม้แต่น้อย กลับใช้ข้ออ้างที่ไม่มีเนื้อหาสาระในการชุมนุมต่อ คือ การกล่าวจะสลายการชุมนุมม็อบพันธมิตรฯ ของ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ซึ่ง นายเฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีมหาดไทยก็ได้ออกมาประกาศแก้ข่าวว่า ไม่มีการสลายการชุมนุมในวันเดียวกัน เป็นอันว่าประเด็นความรุนแรงที่จะเกิดจากฝ่ายรัฐบาลนั้นต้องตกไป แต่กลุ่มพันธมิตรฯ ยังดื้อดึงประกาศชุมนุมต่ออย่างหน้าด้านๆ ด้วยการเสนอยุทธศาสตร์ดาวกระจาย โดยไม่คำนึงถึงความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นในระดับปัจเจกบุคคล เช่น กรณีของกลุ่มนักศึกษาจากสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) ถูกตะโกนด่า และถูกขับไล่จากการไปมอบพวงหรีดที่ “สำนักงานคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.)” ความรุนแรงทางตรงในลักษณะนี้กำลังจะเกิดขึ้นในหลายๆ พื้นที่ทั่วประเทศไทย เพื่อหยุดความรุนแรงดังกล่าว กลุ่มพันธมิตรฯ ควรหยุดเคลื่อนขบวน เพื่อลดอุณหภูมิทางการเมืองที่ร้อนแรงลง
สหพันธ์นิสิตนักศึกษาภาคอีสาน (สนนอ.) ไม่เห็นด้วยกับทุกเครือข่ายที่เสนอให้หยุดความรุนแรงโดยเอามวลชนไปเคลื่อนไหวกับพันธมิตรฯ เพราะนั่นนอกจากจะไม่แก้ปัญหาแล้ว ยังเป็นการสุมไฟเพื่อให้เกิดความรุนแรงอันจะนำไปสู่วิกฤติประชาธิปไตยอย่างร้ายแรงที่สุด โดยไม่มองย้อนดูประวัติศาสตร์ 19 กันยายน 2549 ที่เพิ่งผ่านมาหมาดๆ ว่าใครเป็นคนเปิดประตูให้กองทัพ
ชื่อก็บอกว่า กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แต่การกระทำกลับตรงกันข้าม ขอให้ถอยหลังแล้วมาสู้กันด้วยปัญญาและกระบวนการประชาธิปไตยอย่างแท้จริง อย่าทำตัวเป็นเด็กร้องไห้ชักดิ้นชักงออยากกินขนมอีกเลย ขอให้ประชาชนผู้มีญาณทรรศนะจงพิจารณาเอาเถิดว่า พวกเขาเหล่านั้นจะพาพวกท่านไปสู่หนใด
สหพันธ์นิสิตนักศึกษาภาคอีสาน (สนนอ.) จึงขอประกาศหยุดความรุนแรงโดยการเรียกร้องให้
1.ให้ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยุติการชุมนุมเนื่องจากเป็นการสร้างเงื่อนไขที่จะนำไปสู่การทำรัฐประหารและการใช้ความรุนแรง
2.สนับสนุนข้อเสนอของ สนนท. ให้ยุบ ครป. ที่เป็นองค์กรสมาชิกของพันธมิตรฯ และให้ นายสุริยะใส กตะศิลา ลาออกจากเลขาธิการ ซึ่งการกระทำไม่สอดคล้องกับชื่อ ทำให้หลักการประชาธิปไตยบิดเบือน
3.ขอประณามองค์กรภาคประชาชนพวกที่อ้างว่าเป็น NGO ในภาคอีสาน ที่เข้าร่วมและสนับสนุนพันธมิตรฯ ให้ทบทวนจุดยืนของตัวเอง อย่าอ้างว่าทำเพื่อประชาชน เพราะประชาชนไม่ได้อะไร
4.ขอเรียกร้องให้เพื่อนนิสิต นักศึกษาทุกสถาบันในภาคอีสาน เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างเป็นกลางตามหลักประชาธิปไตย ที่เป็นเหตุเป็นผล ถ้ามีการรัฐประหารก็ขอให้รวมพลังกันลุกขึ้นมาต่อต้าน เพื่อปกป้องการปกครองระบอบประชาธิปไตย อย่าให้พันธมิตรฯ มาชี้นำหลักประชาธิปไตยแบบเผด็จการในสังคมไทย
สหพันธ์นิสิตนักศึกษาภาคอีสาน (สนนอ.)