การทำงานของ คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส. จวนเจียนจะหมดวาระเต็มที
สุภาษิตโบราณว่าไว้ “น้ำลดตอผุด”
นี่ขนาดน้ำยังลดไม่เต็มที่ ตอ กลับ ผุด มาให้เห็นเต็มไปหมด
ลองไปนึกทบทวนดูบ้างว่าจริงหรือไม่?
จิตวิญญาณการไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม ที่มีมติออกมาไม่ไปพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก นี่ก็เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับประชาชนทั่วไปแล้ว คือ ไม่เคารพกระบวนการยุติธรรม ทีเวลาตัวเองอาศัยอำนาจเผด็จการแท้ๆ ไปเรียกคนโน้นคนนี้ได้
การพิจารณาคดีเต็มไปด้วยความอคติ ที่จ้องจะเล่นงานคน หรือกลุ่มบุคคล เพียงกลุ่มเดียว คนเดียว ไม่ว่าจะเป็นกรณีรถและเรือดับเพลิง ที่ นสพ. ยักษ์ใหญ่อย่าง เดลินิวส์ โดย ดินสอโดม เจาะลึกมาว่า “เป็ดขี้เหร่” ต้องการช่วย “คนรูปหล่อ” ถึงขนาดล็อบบี้กรรมการด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นกรณีที่หลายคนหวาดระแวงและสงสัยว่ามีนอกมีในอะไรกัน
พฤติการณ์ส่อไปในทางไม่ชอบมาพากล โดยเฉพาะกรณีการจ้างบริษัทบัญชีมาทำการอบรมสัมมนา ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับวงศ์วานว่านเครือ เพราะทำธุรกิจร่วมกัน กรณีนี้ส่อให้เห็นถึงความไม่ชอบมาพากลของคนที่อวดอ้างตัวเป็นคนดีศรีสังคม
การกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย หนึ่งในผู้เป็นกรรมการ ได้บริจาคเงินให้กับเวทีพันธมิตรฯ 1 แสนบาท ซึ่งขัดต่อกฎระเบียบของข้าราชการในการไม่รับของ ไม่รับเงินบริจาค ในจำนวนที่เกิน 3,000 บาท ซึ่งจะกระทำมิได้
แต่ที่หนักที่สุดของการวิพากษ์วิจารณ์ คตส. คือ มีแต่ราคาคุย งานไม่คืบหน้า ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะทำงานไม่เป็น หรืออคติตั้งแต่แรก บรรดากองเชียร์ต่างผิดหวังกับการทำหน้าที่นี้ เพราะเกือบๆ จะหมดอายุขัย และอายุคาดแล้วก็ตาม ยังส่งฟ้องได้ เพียงคดีเดียว ที่ถูกต้องตามกระบวนการที่โจรานุโจรปล้นประชาธิปไตย ได้ขีดทางเดินไว้ให้ คือ กรณีที่ดินรัชดาฯ ซึ่งข้อกฎหมายยังคลุมเครือด้วยซ้ำไป เพราะกองทุนฟื้นฟูฯ เป็นหน่วยงานอิสระ ไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรี
ทั้งหมดนี้คือ ความล้มเหลวของ คตส. โดยแท้ ไม่รู้ว่าผลาญงบประมาณประเทศชาติไปเท่าไรต่อเท่าไร ไม่นับการบินไปดูงานที่ต่างประเทศ ที่พาลูกสุดที่รักร่วมคณะไปด้วยหน้าตาเฉย ทั้งที่เป็นภาษีอากรของพี่น้องประชาชน ควรจะประหยัดจำกัดจำเขี่ยในการใช้งบประมาณ
ไม่นับรวมความเสียหายในด้านความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของชาติไทย ต้องเสียหายป่นปี้ เพราะเป็นการ ใช้วิธีพิเศษ วิธีพิสดาร อายัดทรัพย์ประชาชน ทั้งที่ไม่มีมูลฐานการกระทำความผิด แต่ให้มาพิสูจน์เองว่าได้เงินมาอย่างไร
ท่านจะพอได้หรือยัง คณะกรรมการ คตส. ทั้งหลาย วันนี้ เวลานี้ ไม่ใช่เมื่อปีก่อน ที่แผลงฤทธิ์แผลงเดช เพราะประชาชนไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง เลยยอมให้ วันนี้เขารู้กันทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว ยุติบทบาท รอขึ้นศาล ที่โดนฟ้องร้องเป็นร้อยๆ คดี ไม่ดีกว่าหรือ
จะดื้อด้านทำหน้าที่ต่อไปเพื่ออะไร เพราะ ความล้มเหลวในการทำงานมาจากตัวเอง ไร้ฝีมือ ลำเอียง อคติ ขี้โม้ ใครจะเชียร์ก็เชียร์ไป แต่คนส่วนใหญ่เขาไม่เอาแล้ว
ในขณะนี้ คตส. ปิดฉากไปแล้วสำหรับผู้มีจิตใจรักชาติ รักประชาธิปไตย คดีที่ค้างคาเอาไปเข้ากระบวนการยุติธรรมปกติได้แล้ว
เวลาของเธอหมดแล้ว ไปไป ไปลง...ซะเถอะที่รัก ฉันจะลงโทษเธอ