ถ้าไม่พูดก็คงไม่เสียทีเสียท่า
และคงไม่เสียหน้าให้มากไปกว่าที่เป็นอยู่
คำแนะนำของ นพ.ประเวศ วะสี ที่เสนอให้ตั้งรัฐบาลแห่งชาติ รวมทั้งเสนอชื่ออดีตนายกรัฐมนตรี 4 คนให้มาเป็นคนกลางและเป็นมันสมองในการแก้ปัญหาบ้านเมืองในขณะนี้
กลายเป็นข้อเสนอที่ถูกตีกลับจากแทบทุกทิศ ด้วยมันไม่เข้ากับกาลเทศะ ไม่เข้ากับประเทศที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตยอย่างสิ้นเชิง
ตอกย้ำในความรับรู้ไปอีกว่า “ราษฎรอาวุโส” ท่านนี้ หาได้มีความเชื่อมั่นในความทัดเทียมกันของราษฎรคนอื่นๆ ทั่วทั้งประเทศนี้ไม่
จึงไม่เคยเสนอแนวคิดอะไรที่เป็นการปกป้องอำนาจอธิปไตยของประชาชนอย่างแท้จริง
แนวคิด “รัฐบาลแห่งชาติ” ไม่ต่างอะไรกับ “รัฐบาลเผด็จการ” เพราะไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนส่วนใหญ่ ผูกขาดการเลือกสรรไว้ที่คนไม่กี่กลุ่มไม่กี่ชนชั้น ปฏิเสธที่จะเชื่อมั่นการเลือกตั้งซึ่งประชาชนมีสิทธิเลือกผู้แทนโดยตรง
คนที่จะยอมรับแนวคิดนี้ได้โดยปราศจากข้อกังขา ส่วนหนึ่งก็คงเป็นเพราะเชื่อว่าประชาชนในประเทศนี้ไม่มีศักยภาพที่จะเลือกผู้นำที่ดี – ดี ในความหมายที่ว่า ถูกใจชนชั้นสูงหรือชนชั้นปกครอง
เมื่อชนชั้นสูงหรือชนชั้นปกครองไม่พอใจตัวแทนที่ประชาชนส่วนใหญ่เลือก ก็มักออกมาล้มกระดาน อัปเปหิตัวแทนของประชาชนออกไป สถาปนาตัวแทนใหม่ซึ่งคัดสรรมาจากชนชั้นนำโดยเฉพาะ
ในทางหนึ่ง อาจโดยการรัฐประหาร
หรืออีกทางหนึ่ง ที่ประนีประนอมกว่า ก็คือ รัฐบาลแห่งชาติ
ยังดีที่สติปัญญาของคนในประเทศนี้ ก้าวหน้าไปไกลเกินกว่าจะยอมรับคำเสนอแนะที่ล้าหลังและลงคลอง
แม้ระบบเลือกตั้งอาจยังไม่ใช่คำตอบสุดท้ายที่ดีที่สุด
แต่มันก็คือ คำตอบแรก สำหรับคนที่ต้องการการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
แนวทางใดที่ต้องข้ามหน้าข้ามตาการเลือกตั้ง…ต้องถูกทำให้เป็นหมันให้หมด
หากใครที่คิดว่าคุณภาพของประชาชนซึ่งเป็นผู้เลือก ยังไม่เท่าเทียมและทั่วถึง
สิ่งที่ต้องทำคือ ทำอย่างไรให้ทุกคนในประเทศนี้มีคุณภาพให้มากที่สุด เรียนรู้บทเรียนทางการเมืองเพื่อการตัดสินใจ
เลือกผู้แทนฯ ที่ดีที่สุด
เพราะถ้าไม่ได้เรียนรู้ผิดถูกในวันนี้ แล้วจะไปมีโอกาส “ตาสว่าง” จากเวลาไหน
ข้อเสนอของ นพ.ประเวศ วะสี หากวัดที่เจตนาก็คงต้องถือว่าดี
แต่เจตนาดี ใช่ว่าผลลัพธ์จะดีเสมอไป
โดยเฉพาะเป็นเจตนาดีที่อยู่บนพื้นฐานที่ว่า การปกครองในระบอบประชาธิปไตย ยังไม่เหมาะสมกับคนส่วนใหญ่ของ
ประเทศนี้
ถ้าจะให้ดี ใครที่มีแนวคิดอย่างหมอประเวศอีก หากคิดจะออกมาพูด น่าจะรีบกลับไปทบทวนและเงียบไว้ก่อนจะเป็นการดี
ไม่เช่นนั้น นอกจากจะเสียเวลา เสียน้ำลาย ก็ยังมีโอกาสเสียหายด้วยถูกตราหน้าว่าเป็นคนไม่เอาประชาธิปไตย
ล้าหลังไม่พอ ยังกลายเป็นคนที่มีแนวคิดอันตรายไปเสียอีก
ปล่อยให้หมอประเวศ “แป้ก” ไปคนเดียว
เป็นบทเรียนให้กับคนที่คิดเสนออะไรแย่ๆ ที่ไม่เป็นคุณูปการอันใดแก่ประเทศไทยนี้เลย