WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, June 12, 2008

ประเวศ วะสี กับภารกิจล้มรัฐบาลเลือกตั้ง จับมือม็อบพันธมิตร “แยกกันเดิน รวมกันตี”




ผมล่ะประหลาดใจจริงๆ ว่าทำไมทุกครั้งที่บ้านเมืองมีปัญหา หมอประเวศ วะสี จะต้องออกมาซ้ำเติมสถานการณ์ ด้วยการนำเสนอข้อคิดความเห็นให้มันยุ่งยากสับสนและซับซ้อนมากขึ้นไปอีก

การนำเสนอของ ประเวส วะสี ดูเหมือนจะหวังดี แต่กลับมีประสงค์ร้าย ติดปลายข้อเสนอมาด้วยเสมอ

ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน บนสถานการณ์การชุมนุมของม็อบพันธมิตร เพื่อขับไล่รัฐบาล หรือ ล้มล้างรัฐบาล และเรียกร้องหารัฐบาลที่ไม่ได้มาด้วยวิธีการตามวิถีทางแห่งระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

การขับเคลื่อนของม็อบพันธมิตร ที่ทำท่าจะอ่อนแรงลงทุกวัน เพราะขาดแนวร่วมจากประชาชนเข้ามาสนับสนุน เนื่องจากผู้นำม็อบทั้ง 5 คน ยึดถือตัวตนของตนเป็นใหญ่ ไม่รับฟังเสียงสะท้อนของประชาชน ไม่สนใจความเดือดร้อนของผู้อื่น ที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมของม็อบพันธมิตร

น่าสังเกตว่าในวันที่ ม็อบพันธมิตร ไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชนในสังคม และกำลังจะระโหยโรยแรงแห้งเหี่ยวคาถนนราชดำเนิน ประเวศ วะสี กลับออกมาเป็นนายหน้าค้าความ หาทางลงให้แก่ม็อบพันธมิตร ด้วยการยื่นข้อเสนอให้พรรคพลังประชาชน ในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล ยอมรับการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ เพื่อยุติปัญหาการเผชิญหน้าของคนในชาติ

"หากสถานการณ์ถึงจุดวิกฤติสุดๆ ก็ต้องมีรัฐบาลแห่งชาติ เพื่อออกจากสังคมการต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็น พรรคพลังประชาชน พรรคประชาธิปัตย์และทุกพรรค ต้องมาร่วมมือกันช่วยกันทดลองทำสัก 1-2 ปี แล้วดูว่าเป็นอย่างไร หากผมเสนอเรื่องนี้เวลาปกติคงไม่มีใครเอาด้วย อาจจะถูกด่าแต่ถ้าประเทศวิกฤติ จนหาทางออกไม่ได้แล้วก็น่าจะเปลี่ยนสภาพความขัดแย้งที่มีมาตลอด กลายมาเป็นการร่วมมือกัน ดังนั้น พรรคพลังประชาชน ต้องเป็นตัวกลางในการแก้ปัญหาตามข้อเสนอ และเป็นผู้ดำเนิน"

ข้อเสนอของ ประเวส วะสี ดูเหมือนว่าจะปรารถนาดีต่อประเทศชาติ แต่แท้จริงแล้วเป็นการยื่นข้อเสนอเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของม็อบพันธมิตร คือ ขับไล่และล้มล้างรัฐบาลชุดปัจจุบันที่มี สมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ที่นำพรรคประชาธิปัตย์ มาร่วมรัฐบาลด้วย

คงทราบกันดีแล้วว่าทุกพรรคการเมือง รวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์ ประสานเสียงปฏิเสธข้อเสนอของ ประเวศ วะสี อย่างพร้อมเพรียงกัน และชี้ว่าเป็นข้อเสนอที่ไม่เข้าท่า ไม่เป็นไปตามหลักการการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

แทนที่จะหยุดตัวเอง และข้อเสนอที่ไม่เป็นที่ยอมรับของทุกพรรคการเมืองไว้เพียงเท่านั้น ประเวส วะสี ยังคงดึงดันและพยายามที่จะเสนอความเห็นอีกครั้งด้วยการเรียกร้องให้อดีตนายกรัฐ มนตรี 4 คน ประกอบด้วย นายอานันท์ ปันยารชุน นายบรรหาร ศิลปอาชา นายชวน หลีกภัย และ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ มาร่วมหารือกันเพื่อหาทางออกให้แก่ประเทศ ที่ประเวศ วะสี เชื่อว่าถึงทางตันแล้ว

เสียงสะท้อนจากข้อเสนอที่สอง ก็ไม่แตกต่างจากข้อเสนอครั้งที่หนึ่งคือ ได้รับการปฏิเสธจากทุกชื่อที่ถูกเอ่ยอ้างถึง โดยเฉพาะ สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ถึงกับตั้งคำถามว่าทำไมจะต้องมีเวที 4 อดีตนายกรัฐมนตรีมาหารือกัน พูดกันแล้วทำอะไรได้แค่ไหน ในเมื่อขณะนี้ก็มีนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่บริหารประเทศ แก้ไขปัญหาของชาติอยู่แล้ว

พิจารณาจากนำเสนอข้อคิดความเห็นทั้ง 2 ครั้งของประเวศ วะสี ต้องบอกว่าเป็นข้อเสนอที่ไม่ปกติ เป็นข้อเสนอที่อ้างว่าถึงคราวคับขัน เป็นสถานการณ์วิกฤต เป็นวาระพิเศษของประเทศ ที่จะต้องแก้ไขด้วยวิธีการที่ไม่ได้กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ และเป็นการเสนอเพื่อผ่าทางตัน

อ่านความคิดของ ประเวศ วะสี แล้ว จะพบว่า ประเวศ เชื่ออย่างสนิทใจว่า ขณะนี้ประเทศไทยได้เดินมาถึงทางตัน จนกระบวนการแก้ไขปัญหาตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมายที่ใช้ในภาวะปกติ ไม่สามารถเยียวยาแก้ไขได้อีกแล้ว เนื่องจาก ม็อบพันธมิตรกำลังเผชิญหน้ากับรัฐบาล และไม่มีใครยอมถอยให้ใคร ในขณะที่รัฐบาลก็ไม่มีความสามารถที่จะดำเนินการให้บ้านเมืองกลับคืนสู่ภาวะปกติได้ ดังจะเห็นจากการนำเสนอความเห็นประกอบข้อเสนอจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ว่า

"ขณะนี้ประชาชน เริ่มวิตกกังวล ไม่อยากให้มีการนองเลือด ซึ่งปริ่มๆ จะมีการนองเลือดจึงควร ถือเป็นโอกาสในการแก้ปัญหา เนื่องจากตลอดเวลากว่า 70 ปี นับแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 2475 สังคมไทยอยู่ในวังวนของการต่อสู้มาโดยตลอด ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้สมองส่วนหลังแบบสัตว์เลื้อยคลาน ทำให้สมองส่วนหน้าที่ใช้เหตุผล เรื่องความดีงามไม่เจริญจึงเห็นว่าสังคมไทยอยู่ในสังคมแบบนี้มานานเกินไป จึงต้องรีบหาทางออกจากสังคมการต่อสู้ ด้วยการมองทุกคนเป็นเพื่อนมนุษย์ มีเมล็ดพันธุ์ความดี ไม่ใช่สัตว์ร้าย ที่คอยรบราฆ่าฟันกัน และต้องใช้ความจริงมาพูดกัน การหลบซ่อนไม่ใช่ทางออก

ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในขณะนี้เป็นเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยออกมาในรูปของการแก้รัฐธรรมนูญต่างๆ ข้างหนึ่งเป็นกลุ่มคนที่รัก พ.ต.ท.ทักษิณ อีกข้างหนึ่งเป็นกลุ่มที่เกิดความสงสัยต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าไม่สุจริต และไม่ไว้วางใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเคลื่อนไหวอะไร เป็นเรื่องบ้านเมือง หรือประโยชน์ส่วนตัว การที่รัฐบาลเสียงข้างมากจะแก้รัฐธรรมนูญ กลุ่มที่เกิดความสงสัยในตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ก็คิดว่าจะทำให้พ.ต.ท.ทักษิณไม่ต้องผ่านกระบวนการยุติธรรม ทำให้ความรุนแรงเกิดขึ้น"

ประเวศ วะสี มีความเชื่อโน้มเอียงอย่างมากว่าสังคมไทย กำลังเผชิญหน้า และใกล้จะมีเหตุการณ์นองเลือดอีกครั้งหนึ่ง โดยชี้ว่า ทักษิณ ชินวัตร คือต้นเหตุของความขัดแย้งที่จะทำให้เกิดการนองเลือด และความรุนแรงขึ้น แต่ละเลยที่จะกล่าวถึงม็อบพันธมิตร ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดการรัฐประหารในครั้งที่แล้ว และกำลังสร้างเงื่อนไขให้เกิดการการไม่ยอมรับกระบวนการบริหารงานตามรัฐธรรมนูญ

หากไม่นับ กลุ่มแกนนำม็อบพันธมิตร ที่ต้องการให้มีการเผชิญหน้า ปะทะ และนองเลือดแล้ว ก็คงมี ประเวศ วะสี อีกคนเดียวเท่านั้น ที่เชื่อว่าประเทศไทยจะมีความขัดแย้งจนนำไปสู่เหตุการณ์นองเลือด ในเร็วๆ นี้

แกนนำม็อบพันธมิตรทั้ง 5 คนคิดวางแผนกันแทบเป็นแทบตาย ที่จะยั่วยุให้ตำรวจ ทหาร ลุยล้อมปราบผู้ชุมนุมที่ถูกปลุกระดมให้มาชุมนุมกัน แต่ตำรวจทหาร ไม่หลงกล ไม่เดินเข้าไปในบ่วงบาปที่วางดักไว้

เหตุการณ์นองเลือดจึงไม่มีโอกาสเกิดขึ้น ส่งผลให้แผนยั่วยุของม็อบพันธมิตรไม่บรรลุเป้า หมาย และประเทศไทยก็ยังคงสงบเรียบร้อยดี ไม่เป็นไปตามจินตนาการของประเวศ วะสี

มุกทั้งหมดที่ประเวศ วะสี จุดพลุนำเสนอขึ้นมาจึงกลายเป็นมุกแป๊ก เพราะไม่มีใครขานรับ กระทั่งประชาธิปัตย์ที่หนุนหลังม็อบพันธมิตร ก็ยังต้องกลั้นใจส่ายหน้าปฏิเสธ เนื่องเพราะข้อเสนอของประเวศ วะสี เป็นข้อเสนอที่ขัดรัฐธรรมนูญ ทั้ง 2 ครั้ง 2 ครา

ข้อเสนอแรกที่ให้มีการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ นั้น ขัดกับมาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญ อย่างชัดเจน เนื่องจากการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ไม่มีบทบัญญัติอยู่ในรัฐธรรมนูญ ประกอบกับรัฐธรรมนูญ ยังเขียนไว้ด้วยว่า "บุคคลจะใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญนี้ หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญนี้มิได้"

ข้อเสนอจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติของประเวศ วะสี จึงเข้าข่ายที่จะขัดรัฐธรรมนูญชัดเจน เนื่องจากรัฐบาลแห่งชาติ ที่นำเสนอมานั้นมิได้แจ้งที่มาว่ามาด้วยวิธีการใด ในขณะที่เบื้องหลังความคิดเสนอจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาตินั้น ประเวศ วะสี มีจุดมุ่งหมายที่จะล้มล้างรัฐบาลชุดปัจจุบันที่มีที่มาตามรัฐธรรมนูญ อย่างชัดเจน

ข้อเสนอที่สองที่เสนอให้อดีตนายกรัฐมนตรี 4 คน มาหารือกันถึงทางออกของประเทศไทย เพราะเชื่อว่าถึงทางตันแล้ว และป้องกันเหตุนองเลือด นั้น ก็เป็นการขัดแย้งกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งมีนายกรัฐมนตรี คือ สมัคร สุนทรเวช เป็นผู้บริหารประเทศ และใช้อำนาจบริหาร ตลอดจนแก้ไขปัญหา อยู่แล้ว ในขณะที่อดีตนายกรัฐมนตรีอีก 4 คน หาได้มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายแต่อย่างใด

ประเวศ วะสี ไม่ใช่คนโง่ หากแต่แกล้งโง่ ไม่ใช่คนไร้เล่ห์ แต่เป็นคนเจ้าเล่ห์

ข้อเสนอของประเวศ วะสี หากฟังอย่างผิวเผิน ไม่พิจารณาให้ถี่ถ้วน ก็ดูเหมือนว่าเจตนาดี แต่ที่แท้แล้วกลับประสงค์ร้ายต่อรัฐบาล และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เนื่องเพราะเป็นข้อเสนอที่มีเจตนาล้มล้างรัฐบาลชุดปัจจุบัน และนำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาที่ไม่ได้เป็นตามวิถีทางที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ ซึ่งเป็นเป้าหมายเดียวกับที่ม็อบพันธมิตร ต้องการ และกำลังเดินไปให้ถึง

แต่เนื่องจากม็อบพันธมิตร ไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชน ซึ่งแปลว่าวิธีการปลุกระดมมวลชนกดดันรัฐบาล ไม่น่าจะประสบผลสำเร็จ จอมบงการผู้อยู่เบื้องหลังการขับไล่รัฐบาล จึงต้องทิ้งไพ่ลงมาอีกใบหนึ่ง ซึ่งก็คือ ไพ่ที่ชื่อประเวศ วะสี หวังว่าภาพลักษณ์ปัญญาชน บนตำแหน่งราษฎรอาวุโส ที่อุปโลกน์ตั้งกันขึ้นมาเอง จะทำให้สังคม ประชาชนหันมาให้ความสนใจสนับสนุน และทำให้รัฐบาลตกที่นั่งลำบาก ต้องเผชิญหน้ากับแกนนำปัญญาชนอีกกลุ่มหนึ่ง มิใช่มีปัญหากับม็อบพันธมิตรเพียงด้านเดียว

ทว่าข้อเสนอของ ประเวศ วะสี กลับเป็นกระสุนด้าน เป็นพลุที่จุดไม่ติด เพราะถูกพรรคการเมืองร่วมกันสาดน้ำใส่จนกลายเป็นข้อเสนอที่ไม่เข้าที่สุด และประเวศ วะสี ก็ต้องหลุดวงโคจร ไปทันที เนื่องจากนำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างมีอคติ ไม่สุจริตใจ นั่นเอง

เหตุที่ข้อเสนอของประเวศ วะสี ไม่ได้รับการตอบสนองจากสังคม ประชาชนทั่วไป ก็เพราะไม่มีใครเชื่อว่าสังคมไทยกำลังเดินไปสู่จุดเริ่มต้นของการนองเลือด ดังที่ประเวศ วะสี นำมาฉายภาพหลอกให้หลงเชื่อ

คนส่วนใหญ่ในสังคมยังเชื่อว่า สถานการณ์ของประเทศไทยในขณะนี้ ยังไม่มีเงื่อนไขสุกงอกมากพอที่จะทำให้เกิดการเผชิญหน้าจนนำสู่เหตุการณ์นองเลือดได้ แม้ว่าม็อบพันธมิตรจะยั่วยุให้เจ้าหน้าที่รัฐลงมืออย่างไร ก็ไม่สำเร็จ และทางแก้สถานการณ์ในขณะนี้ก็ไม่ได้ยุ่งยากแต่อย่างใด เพียงแต่ม็อบพันธมิตร เดินออกจากถนนราชดำเนิน กลับไปอยู่ในที่ตั้งที่บ้านพระอาทิตย์ หรือ หน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ แล้วปล่อยให้กระบวนการต่างที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ดำเนินไปตามปกติ ตามกฎกติกาที่กำหนดกันไว้ สถานการณ์ของประเทศไทย ก็จะกลับคืนสู่สภาวะปกติ

เนื่องเพราะปัญหาของประเทศไทยในวันนี้ นอกเหนือจากปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลก และราคาน้ำมันแล้ว ก็มีแต่ปัญหาที่เกิดขึ้นจากม็อบพันธมิตร เท่านั้น ที่เป็นอุปสรรคขัดขวางการทำงานของทุกคน ทุกฝ่ายในประเทศ ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน

หากจะกล่าวว่าเหตุที่ประเทศไทยเดินไปข้างหน้าไม่ได้ ก็เพราะม็อบพันธมิตรที่มาปิดถนนราชดำเนินและก่อกวนการทำงานของรัฐบาล นั่นเอง

ดังนั้น ประเวศ วะสี ควรจะเรียกร้องต่อม็อบพันธมิตร ให้ยอมรับกฎหมาย เคารพกติการัฐธรรมนูญ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มากกว่าที่จะมาเรียกร้องให้รัฐบาล ยอมรับการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ และ นำคนซึ่งไม่มีอำนาจหน้าที่เข้ามาทำให้การแก้ไขปัญหายุ่งยากมากขึ้นอีก

หากเห็นแก่บ้านเมือง หากเห็นแก่ชื่อเสียงในอดีตของตัวเองที่สร้างสมมานานเกือบชั่วชีวิต หากเห็นแก่ความเรียบร้อยของประเทศ ประเวศ วะสี ต้องเดินไปหาม็อบพันธมิตร และอัญเชิญให้ออกไปจากถนนราชดำเนิน เพื่อที่ทุกระบบ ทุกกระบวนการของประเทศนี้ จะได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ กันเสียที

เว้นเสียแต่ ประเวศ วะสี ก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกับม็อบพันธมิตร คือ ขับไล่รัฐบาลสมัคร สุนทรเวช ล้มล้างรัฐบาลเลือกตั้ง เพราะมุ่งหวังให้ประเทศไทยตกอยู่ใต้การอำนาจของจอมเผด็จการผู้บงการแห่งบ้านสี่เสาเทเวศร์ ตลอดกาล

หากเป็นเช่นนั้น ก็ป่วยการที่จะแยกกันเดินแล้วรวมกันตี เพราะวันนี้ คนทั้งประเทศเห็นกันหมดแล้ว ว่าตัวตนที่แท้จริงของประเวศ วะสี ก็มิได้แตกต่างจากม็อบพันธมิตร ที่เป็นเพียงปัญญาชนรับจ้างและม็อบรับจ้าง ที่รับงานมาจากจอมบงการผมสีขาวคนหน้าเดิม นั่นเอง

ขอเชิญพวกเรายืนสงบนิ่งไว้อาลัยให้แก่ ประเวศ วะสี ผู้จากไปด้วยเถิด

ฟ้าฟื้น

จาก thai-grassroots