ใกล้จะปิดฉากอยู่รอมร่อแล้ว แต่ก็ยังมีของเล่นชิ้นใหม่ของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ออกมาโหมกระแสให้ตื่นเต้นกันอีกครั้ง
เรียกได้ว่าสงครามครั้งสุดท้ายของนายสนธิ "ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง" คงจะไม่ยอมตายง่ายๆ อย่างที่หลายคนคิด เพราะก่อนหน้านี้นายสนธิเคยประกาศไว้ว่า จะตายทั้งที ขอตายแบบ "เสือ"
วันนี้ก็ผ่านมา 20 วันของม็อบพันธมิตรฯ บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ แกนนำหลายคนบ่นว่าเหนื่อยล้าเต็มทน
บางคนถอดใจไปบ้างแล้ว ส่วนบางคนก็เตรียมเผ่นหนีไปอยู่ต่างประเทศ บางคนเตรียมหาบันไดลงให้กับตัวเอง
แต่ก่อนจะถึงวันนั้น สื่อผู้ยิ่งใหญ่อย่างนายสนธิ ที่มีลีลาการพูดจาโน้มน้าวในระดับเทพ ที่หาตัวจับได้ยากคนหนึ่ง บวกกับแรงแค้นที่ฝังลึก
ทำให้วันนี้นายสนธิสร้างเงื่อนไขเพื่ออ้างความชอบธรรมในการโจมตีรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช และอ้างความชอบธรรมในการจะนำ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาลงโทษตามความต้องการของตนเอง
ประเด็นที่นายสนธิเปิดขึ้นมาบนเวทีพันธมิตรฯ นั้น ได้อ้างหลักฐานการทุจริตภายในคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ระบุว่า กกต. สมคบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจบางคน และนักการเมือง เพื่อช่วยเหลือพรรคพลังประชาชนในการโกงการเลือกตั้งคดีใบแดงของ นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร
โดยระบุว่า ได้มีการแก้ไขฐานข้อมูลของพยาน คือ นายชัยวัฒน์ ฉางข้าวคำ กำนัน ต.จันจว้า อ.แม่จัน จ.เชียงราย จากพรรคไทยรักไทย เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อมุ่งหวังทำลายความน่าเชื่อถือ
นอกจากนี้ สิ่งที่พันธมิตรฯ ได้เตรียมไว้ในลำดับต่อไปคือ การโยนความผิดให้ กกต. ฝ่ายสืบสวนสอบสวน ที่ได้เคยยุติคำร้องการทุจริตเลือกตั้งของพรรคพลังประชาชน กว่า 700 เรื่องนั้น ว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่พรรคพลังประชาชน
ความคิดแบบนี้ คือสิ่งที่จะบ่งบอกถึงความเลวทรามต่ำช้าของผู้ที่ต้องการจะทำลายระบอบประชาธิปไตย
เพราะสิ่งเดียวที่นายสนธิจะสามารถชนะในศึกใหญ่ครั้งนี้ได้คือ การล้มล้างการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา โดยใช้กระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือ
นายสนธิต้องการจะบอกว่า การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ส.ส. ของพรรคพลังประชาชนได้มีการซื้อเสียงอย่างมโหฬาร ดังนั้น พรรคพลังประชาชนไม่มีสิทธิจัดตั้งรัฐบาล
โดยหนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ กล่าวบนเวทีพันธมิตรฯ ว่า ต่อจากนี้จะมีคดียุบพรรคเกิดขึ้นอีก จะมีการยุบพรรคการเมืองเป็นพรรคที่ 4 หลังจากที่ศาลเคยสั่งยุบพรรคการเมืองมาแล้ว 3 พรรคในอดีต
นายสมเกียรติ บอกว่า คดีนี้จะตัดสินวันที่ 8 กรกฎาคม พันธมิตรฯ จะอยู่จนถึงรอฟังคำพิพากษาในวันนั้น
ฟังดูแล้วเหมือนนายสมเกียรติจะมั่นใจนักหนาว่า หลังจากนี้ไปจะเข้าสู่แผนการทำลายระบอบประชาธิปไตย โดยการย้อนกลับไปก่อนวันที่ 19 กันยายน 2549
ขั้นที่ 1 คือ ส่ง กกต. เข้าคุก เหมือน 3 กกต. ในอดีต แล้วตั้ง กกต. ขึ้นมาใหม่
ขั้นที่ 2 คือ ยุบพรรคพลังประชาชน
ขั้นที่ 3 คือ จัดการเลือกตั้งใหม่
ขั้นที่ 4 คือ พรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาล
...นี่คือความเลวทรามต่ำช้า เพราะเราอุตส่าห์มีการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยมาแทบตาย ต่างชาติก็เริ่มให้การยอมรับ
แต่เราก็ยังอุตส่าห์มีพวกที่ไม่เคารพกฎกติกาของสังคม ออกมาปลุกระดมชี้นำสังคมในทางผิดๆ จ้องล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
ถ้าเป็นแบบนี้แล้ว ประเทศไทยจะมีการเลือกตั้งไปทำไม?
ไม่ต้องมีการเลือกตั้ง...ไม่ต้องมีกฎหมายรัฐธรรมนูญ...ไม่ต้องมีระบอบประชาธิปไตย และไม่ต้องมีกฎ ระเบียบ กติกา จะดีกว่า
สุดท้ายแล้ว ขอให้พันธมิตรฯ จงเจริญ!
ลวดหนาม (แทน)
///////////////////////////////
คอลัมน์ : ละครชีวิต...จากหนังสือพิมพ์ประชาทรรศน์ 13/06/2551
ลวดหนาม
จาก thai-grassroots