WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, January 22, 2009

ชะตากรรมของโรฮิงยา

ที่มา ประชาทรรศน์

คอลัมน์ : สิทธิประชาชน

โดย จรัล ดิษฐาอภิชัย

ข่าวโทรทัศน์บีบีซี (BBC) รายงานว่า ผู้อพยพโรฮิงยาจมน้ำตายหลายร้อยคน เพราะถูกทางการไทยผลักดันกลับประเทศพม่า ซึ่งทางกองทัพเรือและรัฐบาลปฏิเสธเป็นพัลวัน แต่บรรดานักสิทธิมนุษยชนและสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศยังคลางแคลงใจ แล้วก็มีผู้ค้นคว้าหาข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวชาวโรฮิงยามาพูดมาเขียน ทำให้คนไทยได้รับรู้ความเป็นมาของชนชาตินี้มากขึ้น ผมเคยรู้จักผู้นำโรฮิงยาในไทยและยังห่วงใยชะตากรรมผู้อพยพกลุ่มนี้อยู่เสมอ

ผมเริ่มรู้จักคนโรฮิงยาตั้งแต่เดือนแรกๆ ที่เป็นกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จำได้ว่า วันหนึ่งมีคนหนุ่ม 3 คนมาที่สำนักงาน มาขอความช่วยเหลือให้พวกเขาอยู่ในประเทศไทยต่อไป ด้วยทางการไทยกำลังจะผลักดันออกนอกประเทศ ผมดูหน้าตาและผิวดำไม่เหมือนแรงงานพม่า จึงถามว่ามาจากประเทศไหน คนที่พูดไทยคล่องบอกว่ามาจากพม่า เป็นโรฮิงยา ผมสนใจอย่างมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้ยินชื่อนี้ จึงถามสอบถามต่อไปได้ความว่า โรฮิงยา เป็นชนชาติในรัฐอาราข่าน หรือยะไข่ ติดกับบังคลาเทศและอินเดีย นับถือศาสนาอิสลาม เป็นมุสลิมในประเทศพม่า หนีมาเมืองไทยพร้อมพ่อแม่มากว่าสิบปีแล้ว ขณะนี้ทำงานเป็นลูกจ้าง เป็นแรงงานต่างด้าว จึงกลัวจะถูกผลักดันกลับพม่า

หลายเดือนต่อมา มีโรฮิงยากลุ่มหนึ่งมาสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มาพบผมพอดี พวกเขาจึงร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติให้คุ้มครองสิทธิมนุษยชนของชาวโรฮิงยา โดยเฉพาะสิทธิอยู่ในประเทศไทย คณะนี้เป็นคณะกรรมการโรฮิงยาในประเทศไทย มีทั้งประธาน เลขาธิการ และกรรมการ เลขาธิการพูดภาษาอังกฤษค่อนข้างดี มีสถานะขอลี้ภัยจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัย สหประชาชาติ เข้ามาอยู่ในประเทศไทยกว่า 15 ปี พวกเขาบอกว่า นอกจากพม่าจะไม่ยอมรับโรฮิงยาว่าเป็นพลเมือง ไม่ให้สัญชาติแล้ว ยังปกครองอย่างกดขี่ ปราบปรามชาวโรฮิงยาอย่างโหดร้าย ไม่เคารพสิทธิมนุษยชนของชาวโรฮิงยาเลย แม้จะแต่งงาน ต้องขออนุญาตจากทางการพม่า หากไม่ขอ ถือเป็นความผิดต้องติดคุกติดตาราง จะซื้อวัว ควาย ก็เช่นกัน ชาวโรฮิงยาที่ทนไม่ได้จึงต้องหลบหนีข้ามพรมแดนไปยังบังคลาเทศ

ต่อมา ส่วนหนึ่งเดินทางมายังประเทศไทยแบบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ไม่มีเอกสาร กระจายกันอยู่ทั่วประเทศ จำนวน 15,000 คน ทุกคนไม่มีเอกสาร (undocumented persons) มักจะถูกตำรวจจับกุม รีดไถ ไม่มีเสรีภาพในการเดินทาง และไม่มีสิทธิใดๆ ฯลฯ

เมื่อรัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร มีนโยบายแก้ปัญหาสัญชาติและสิทธิของชนส่วนน้อย เช่น ชาวเขา ผู้นำโรฮิงยาในไทยมาขอให้ผมช่วยประสานกับกรมการปกครองและสภาความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อขอให้เป็นกลุ่มหนึ่งตามนโยบาย พวกเขาพยายามสำรวจจำนวน ชื่อ และที่อยู่ ซึ่งได้มาแค่กว่า 3 พันคน แล้วก็อย่างคร่าวๆ ผมนำใบสำรวจไปมอบให้อธิบดีกรมการปกครอง และพยายามคุยกับเจ้าหน้าที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติให้พิจารณาปัญหาสิทธิของชาวโรฮิงยา แต่ค่อนข้างยาก ด้วยเป็นมุสลิม เพราะทางการไทยจะไม่ไว้วางใจเหมือนผู้อพยพกลุ่มอื่น

หลังรัฐประหาร 19 กันยายน ผมไม่ได้ติดต่อผู้นำโรฮิงยา ติดตามแต่ข่าวรู้ว่าช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ชาวโรฮิงยาอพยพมาประเทศไทยจำนวนมากขึ้นทุกวันโดยทางเรือ เหมือนชาวเวียดนามอพยพหลังเวียดนามปลดปล่อย ที่เรียกกันว่า “ประชาชนเรือ” (Boat People) เรือโรฮิงยาอพยพส่วนใหญ่จะมาจอดฝั่งแถว จ.พังงา ตะกั่วป่า เขาหลัก และมักจะถูกจับ ควบคุมตัว และถูกผลักดันกลับพม่า

ฉะนั้น รายงานข่าวของ BBC ที่กำลังโต้แย้งกันอยู่นี้ ผมคิดว่าจริงมากกว่าไม่จริง ดร.โคทม อารียา นายสมชาย หอมละออ นักสิทธิมนุษยชนที่เพิ่งเข้าไปพบและเสนอความคิดเห็นต่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี น่าจะรู้เรื่องนี้ดี ถ้าเรื่องนี่เกิดในรัฐบาล สมัคร สุนทรเวช และสมชาย วงศ์สวัสดิ์ บรรดานักสิทธิมนุษยชนคงถล่มจนจมดินแล้ว

อิจฉานายกอภิสิทธิ์จริงๆ