WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, January 22, 2009

อย่ากระตุ้นจนคนไม่มั่นใจ

ที่มา ไทยรัฐ

ปล่อยออกมาอีกก๊อกแล้ว มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก๊อกสอง ของ นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หลังจากที่เพิ่งปล่อยก๊อกแรก ออกมาได้ไม่กี่วัน ยังไม่ทันจะทำงานด้วยซํ้า ก็ไม่รู้จะมีก๊อกสามตามมาอีกหรือไม่ ถ้ายังปล่อยออกมาอีก ผมกลัวคนไทยจะถูกมาตรการช่วยเหลือช่วยจนเคยตัวเสียคนไปเสียก่อน

บางมาตรการก็เกินความจำเป็น เอาเงินภาษีของประชาชนไปหาเสียงแจกเล่น บางมาตรการก็ให้มากจนคนตกใจ นึกไม่ถึงว่า เสี่ยมาร์คอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะใจถึงกว่า เสี่ยแม้วพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เสียอีก

อย่างมาตรการ แจกเงินสด ให้ผู้ประกันสังคมที่มีเงินเดือนตั้งแต่ 14,999 บาทลงมา 8 ล้านกว่าคน และข้าราชการอีก 1.45 ล้านคน คนละ 2,000 บาท เป็นเงินเกือบสองหมื่นล้านบาท ความจริงคนกลุ่มนี้ไม่ถือว่าเดือดร้อนมากนัก ยังมีงานทำ มีเงินส่งประกันสังคมได้ ได้รับเงินสดไปสองพันบาท ก็ไม่แน่ว่าจะนำไปใช้จ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจ

การแจกเงินของรัฐบาลมาร์ค สู้วิธีการแจกเงินของ รัฐบาลไต้หวัน ที่เพิ่งแจกกันเมื่อวานซืนนี้ไม่ได้ เขาแจกเป็น คูปอง คนละประมาณ 4,000 บาทไทย เอาคูปองไปขึ้นเป็นเงินสดไม่ได้ เท่ากับบังคับให้นำไปใช้จ่ายโดยตรง ใครไม่ใช้ก็เป็นเศษกระดาษไป การแจกอย่างนี้จึงจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ แจกเท่าไรต้องใช้จ่ายเท่านั้น

การแจกเงินสดเท่าที่เห็นก็มี รัฐบาลบุช กับ รัฐบาลเสี่ยมาร์ค นี่แหละ

สำหรับ มาตรการก๊อกสอง ที่เพิ่งคลอดออกมานี้ ถือเป็นมาตรการที่เอื้อต่อธุรกิจเอกชนโดยตรง เน้นเรื่องอสังหาริมทรัพย์ การท่องเที่ยวและธุรกิจ เอสเอ็มอี

มาตรการที่ใจป้ำสุดๆ ก็คือ การลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ซื้อบ้านใหม่ ในปีนี้และโอนกรรมสิทธิ์ในปีนี้ นอกจากได้สิทธิ ลดหย่อนค่าดอกเบี้ย 100,000 บาทแล้ว ยังได้สิทธินำเงินต้นไปลดหย่อนภาษีได้อีก 300,000 บาท รวมเป็น 400,000 บาท ซึ่งรัฐบาลคาดว่าจะทำให้มีการซื้อบ้านใหม่ อย่างน้อย 100,000 หลัง โดยรัฐบาลยอมขาดทุนภาษีไป 36,500 ล้านบาท

ถ้าปีนี้ขายบ้านได้ 100,000 หลังจริง ก็จะมีเงินหมุนเวียนซื้อขายอย่างน้อย 2-3 แสนล้านบาท แถมยังสร้างงานและสร้างธุรกิจในอนาคตได้อีกมหาศาล เพราะบ้านเก่าที่ขายไปแล้วต้องมีการสร้างบ้านใหม่ขึ้นมาทดแทน ต้องก่อสร้างอีกเป็นแสนหลัง ทำให้มีเงินหมุนเวียนเพิ่มขึ้นในระบบอีกไม่รู้กี่แสนล้านบาท

ถ้าโครงการนี้บรรลุเป้า เศรษฐกิจไทยไม่เพียงฟื้น แต่ยังจะคึกคักอีกด้วย เพราะแบงก์ทุกแบงก์ ตอนนี้มีเงินล้นเหลือนับล้านล้านบาทพร้อม ที่จะปล่อยกู้ออกมาอยู่แล้ว ถ้ามีความมั่นใจ

มาตรการก๊อกสองที่ผมชอบอีกอย่างก็คือ การให้นำค่าใช้จ่ายในการ อบรมสัมมนาและฝึกอบรมไปหักเป็นค่าใช้จ่ายลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าของยอดจ่ายจริง เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว เป็นการพัฒนาคนและส่งเสริมการท่องเที่ยวไปในตัว เป็นการใช้จ่ายเงินที่เร็วที่สุด ซึ่งรัฐบาลสมัยก่อนเคยใช้ ได้ผลมาแล้ว

ก็อย่างที่ผมเขียนบอกมาตลอด เศรษฐกิจไทยวันนี้ไม่ได้วิกฤติหนักหนาสาหัสเหมือนในสหรัฐฯ และยุโรป ธนาคารไทยทุกแห่งก็มั่นคงแข็งแรง มีเงินเหลือเฟือพร้อมที่จะปล่อยกู้ แต่ 2-3 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยไม่เดิน เพราะการเมืองงี่เง่าเห็นแก่ตัวของนักการเมืองไม่กี่คน ที่มัน ทำลายขวัญและกำลังใจของคนไทยจนป่นปี้ วันนี้ผมจึงอยากให้การเมืองไทยนิ่ง แค่การเมืองนิ่งเท่านั้น ไม่กวนน้ำให้ขุ่น เศรษฐกิจไทยก็ไปโลด

แต่ที่ผมเป็นห่วงก็คือ ข่าวสารเชิงลบทางเศรษฐกิจที่ออกมามากมาย หลายอย่างก็ขัดกับความเป็นจริง เมื่อผสมกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมามากจนเว่อร์ในบางเรื่อง จนทำให้คนรู้สึกกลัว ว่า เศรษฐกิจไทย จะแย่มากจริง จนเดี๋ยวนี้แม้แต่ ตลาดนัด ในต่างจังหวัดก็เริ่มหดหาย ไปเรื่อยๆ เพราะไม่มีคนซื้อของ

ผมจึงอยากเรียน นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไว้ตรงนี้ว่า สิ่งสำคัญที่สุดที่คนต้องการวันนี้คือ ความมั่นใจ ถ้าทำได้ เศรษฐกิจไทยก็คึกไปเองโดยไม่ต้องกระตุ้นให้เสียเงินมากนัก แผนกระตุ้นหลายกระทรวง ดูแล้วไม่รู้ว่ากระตุ้นใคร เศรษฐกิจประเทศ หรือ เศรษฐกิจนักการเมือง.

ลม เปลี่ยนทิศ