ที่มา มติชนออนไลน์
ปชป.ชี้"แม้ว"โฟนอินมีประโยชน์ ประชาชนได้ข้อมูลสองด้าน อดีตคมช.ซัด"ทักษิณ"ไร้เครดิต คำพูดผู้ต้องหนีคดีไม่น่าเชื่อถือ กลุ่มคนเสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่สนามหลวง 31ม.ค. ขอมติจัดการรัฐบาล ชี้เข้าบริหารประเทศไม่ชอบธรรม เตรียมย้ายขรก.ล็อตใหญ่ เตรียมร้องยูเอ็นเอาผิดพันธมิตรยึดสนามบิน เปิดรายการ"ขอดเกล็ดอภิสิทธิ์" ม็อบเชียงใหม่ไล่"ประดิษฐ์"ดอดเสริมชะตา
"เสื้อแดง"นัดชุมนุมใหญ่31มกราฯ
แกนนำผู้จัดรายการ"ความจริงวันนี้" เปิดแถลงถึงความเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ร้านสภากาแฟ หน้าสำนักงานสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมดีทีวี ห้างอิมพิเรียล ลาดพร้าว เมื่อวันที่ 21 มกราคม โดยนายวีระ มุกสิกพงษ์ กล่าวว่า การชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดง วันที่ 31 มกราคมนี้ ที่ห้องสนามหลวง จะเป็นข้อพิสูจน์ว่า เสื้อแดงแตกจริงตามที่มีการสร้างกระแสหรือไม่ และจะเป็นการชุมนุมเพื่อลงมติว่า จะเอาอย่างไรกับรัฐบาลชุดนี้ เพื่อระงับไม่ให้สร้างความเสียหายกับประเทศ และจะหารือกันว่า จะชุมนุมยืดเยื้อหรือไม่
นายวีระ กล่าวถึงเหตุผลที่กลุ่มเสื้อแดงจะชุมนุมใหญ่ ว่าได้ติดตามพฤติกรรมของรัฐบาลมาระยะหนึ่ง พบว่ารัฐบาลไม่เข้าใจสาระสำคัญ และต้องถามคำถามประชาชน ดังนี้ 1.ความไม่ชอบธรรมในการเข้ามาบริหารประเทศ ที่ยอมรับการแทรกแซงของอำนาจนอกระบบและทำลายพรรคการเมืองอื่นเพื่อเข้าสู่อำนาจ 2.การไม่ใส่ใจเอาผิดกับกลุ่มพันธมิตรที่ยึดสนามบิน และแต่งตั้งผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าบริหารประเทศ 3.สิ่งที่น่าวิตกคือ การโยกย้ายข้าราชการ ซึ่งทราบมาว่ากำลังมีการเตรียมการเพื่อโยกย้ายขนานใหญ่ โดยไม่ยึดถือเรื่องความสมานฉันท์ที่รัฐบาลแถลงนโยบาย และล่าสุดได้หยิบยกเอา ส.ป.ก.4-01 ขึ้นมาดำเนินการ โดยไม่ได้ตระหนักถึงความเสียหายที่เคยได้เกิดขึ้น เพราะมีการแต่งตัวมารอรับสิทธิแทนเศรษฐีมากมาย ไปจนถึงเรื่องปลากระป๋องเน่า ที่ไล่จนพบว่า เป็นปัญหาเรื่องการทุจริตคอรัปชั่น
เดินสาย9สถานฑูตอาเซียน
นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กลุ่มเสื้อแดงจะเดินสายไปยังสถานเอคอัคราชฑูตประเทศอาเซียน 9 ประเทศในประเทศไทย เพื่อยืนหนังสือให้กับเอกอัครราชฑูตพิจารณาการเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน หรืออาเซียนซัมมิท โดยแสดงจุดยืนว่า กลุ่มคนเสื้อแดงสนับสนุนการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและการพัฒนาของอาเซียน แต่ไม่ยอมรับรัฐบาลไทยที่จะเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุม โดยวันที่ 23 มกราคม เวลา 10.00 น.จะไปที่สถานทูตพม่า เวลา 10.30 น.ไปสถานทูตสิงคโปร์, วันที่ 26 มกราคม ไปสถานฑูตฟิลิปปินส์ เวลา 11.00 น.ไปสถานฑูตอินโดนีเชีย, วันที่ 27 มกราคม เวลา 10.00 น.ไปสถานฑูตบรูไน เวลา 11.00 น.ไปสถานฑูตกัมพูชา และวันที่ 28 มกราคม ไปสถานฑูตเวียดนาม เวลา 11.00 น.ไปยังสถานฑูตมาเลเชีย
"แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงกำลังเร่งดำเนินการเกี่ยวกับการเอาผิดกับผู้ก่อการร้ายยึดสนามบิน โดยจะตั้งคณะทำงานเกี่ยวกับการชี้แจงและให้ข้อมูลหลักฐานเกี่ยวกับเหตุการณ์ยึดสนามบิน ซึ่งผม และนายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะเป็นตัวแทนเดินทางไปยังสหประชาชาติ เพื่อร้องขอให้องค์กรการบินระหว่างประเทศดำเนินการสอบสวนกรณีการยึดสนามบินสุวรรณภูมิ"นายจักรภพ กล่าว
ตั้งสถาบัน-ทำบัตรคนเสื้อแดง
นายจักรภพ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการก่อตั้งสถาบันคนเสื้อแดง ว่าจะแถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการในกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้ ซึ่งรูปแบบเบื้องต้นจะเป็นการจับมือกันหลวมๆ ของประชาชนในพื้นที่จังหวัดต่างๆ แต่คาดว่า อีกไม่นานจะมีความชัดเจนเรื่องสถานที่ก่อตั้งและรูปแบบขององค์กร โดยอาจจะมีบัตรประจำตัวคนเสื้อแดง ที่เป็นเหมือนสมุดพกเล็กๆ คล้ายๆ กับวีซ่า หรือรัฐธรรมนูญฉบับพกพา เพื่อบ่งบอกถึงการเป็นคนเสื้อแดง พร้อมคู่มือและข้อแนะนำในการปฏิบัติตัวของคนเสื้อแดง รวมทั้งการจัดตั้งสำนักงานสาขาคนเสื้อแดงในจังหวัดต่างๆ
ขณะที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงรูปแบบการโฟน อิน ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ารายการสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมดีทีวี ในวันที่ 25 มกราคม ว่าการโฟน อินของพ.ต.ท.ทักษิณ จะใช้เวลา 1 ชั่วโมงเต็ม เพื่อแสดงทัศนะเรื่องต่างๆ โดยมีแกนนำผู้จัดรายการความจริงวันนี้ร่วมพูดคุยถามสารทุกข์สุขดิบ แต่สำหรับสัปดาห์อื่นๆ จะมีผู้รู้คนอื่นๆ ผลัดเปลี่ยนเข้าร่วมพูดคุย หลังรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์"
เปิดรายการ"ขอดเกล็ดอภิสิทธิ์"
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้กำลังรวบรวมเทปบันทึกภาพการอภิปรายของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในช่วงที่เป็นผู้นำฝ่ายค้าน และได้วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี รวมไปถึงคำให้สัมภาษณ์และคำปราศรัยต่างๆ เพื่อมาเผยแพร่ทางดีทีวี ช่วงรายการ "ขอดเกร็ดอภิสิทธิ์" เพื่อกระชากเสื้อคลุมจริยธรรมของนายอภิสิทธิ์ให้หมด เนื่องจากวันนี้ ทุกอย่างที่นายอภิสิทธิ์ เคยด่านายสมัครและนายสมชาย เอาไว้ ได้ถูกรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ มาต่อยอดใช้
นางมยุรี เศวตาศัย แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง รักประชาธิปไตย ประตูน้ำพระอินทร์ จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า วันที่ 31 มกราคม กลุ่มคนเสื้อแดงอยุธยาจัดงานที่ อ.บางปะอิน และจะเคลื่อนไหวเพื่อล้มรัฐบาล และเพื่อเปิดทางให้พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางกลับประเทศและกลับเข้าสู่วงการเมืองอย่างสง่างาม
ชี้"แม้ว"โฟนอินปชช.ได้ประโยชน์
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ ว่าหากไม่มีการกระทำผิดกฎหมาย ก็จะไม่ดำเนินการใดๆ ส่วนการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มเสื้อแดง เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ หากไม่ก่อให้เกิดความรุนแรง หรือไม่กระทำผิดกฎหมาย แต่หากผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการ
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสื่อ กล่าวถึงกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ จะโฟนอินหลังรายการ"เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์" ซึ่งจะทำให้เกิดการเปรียบเทียบกัน ว่าถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะที่ผ่านมีการเปรียบเทียบว่านายกฯไปลอกนโยบายของพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งหลังจากนี้ประชาชนจะได้มีข้อมูลมากขึ้น และรัฐบาลจะได้ทำงานด้วยความระมัดระวังขึ้น อย่างไรก็ตามชื่อของพ.ต.ท.ทักษิณ ยังเป็นที่ยอมรับของคนอยู่มาก แต่ประชาชนส่วนใหญ่ที่อยากให้ประเทศสงบสุข และพร้อมให้โอกาสรัฐบาลบริหารประเทศก็มีมากเช่นกัน ดังนั้นรัฐบาลจะไม่หยิบยกประเด็นของพ.ต.ท.ทักษิณ มาสร้างความแตกแยก
มท.ตั้งศูนย์เฝ้าระวัง"ดีทีวี"
วันเดียวกัน นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงนามในคำสั่งจัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังและติดตามข้อมูลข่าวสาร กระทรวงมหาดไทย โดยให้มีหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่มีลักษณะเป็นการกระทำความผิดกฎหมาย กระทบต่อความมั่นคงภายในประเทศ และขัดต่อรัฐธรรมนูญ โดยให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ รองปลัดกระทรวงฝ่ายกิจการความมั่นคงภายใน และอธิบดีกรมการปกครอง เป็นรองผู้อำนวยการศูนย์ฯ สำหรับฝ่ายปฏิบัติการเฝ้าระวัง และติดตามข้อมูลข่าวสาร ให้อธิบดีกรมการปกครอง เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ทั้งนี้ หากติดตามพบการกระทำความผิดให้รายงานต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และให้รายการผลการปฏิบัติงานต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ภายในวันที่ 10 ของทุกเดือน แต่หากมีการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายหรือเหตุการณ์ที่กระทบกับความมั่นคง หรือขัดต่อรัฐธรรมนูญให้รายงานทันที
ข่าวแจ้งว่า การตั้งศูนย์เฝ้าระวังดังกล่าว เพื่อจับตาเอาผิดกับสถานีโทรทัศน์ดีทีวี และการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ ในวันที่ 25 มกราคม เป็นกรณีพิเศษ ตามที่นายชวรัตน์ เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้
อดีตคมช.ซัด"ทักษิณ"ไร้เครดิต
พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวว่า เรื่องที่พ.ต.ท.ทักษิณ จะโฟนอินเข้ารายการของดีทีวีนั้น ต้องมอง 2 มุม คือ มุมของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนไทยคนหนึ่งก็น่าจะทำได้ แต่อีกมุม พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ในฐานะของผู้ต้องหาหลบหนีคดี ดังนั้น การออกมาพูดอะไรความน่าเชื่อถือคงไม่มี ดังนั้นอย่าไปสนใจ ควรปล่อยให้รัฐบาลเดินหน้าแก้วิกฤตของชาติไป
ส่วนการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มเสื้อแดงในวันที่ 31 มกราคม เป็นการหยั่งกำลังเสื้อแดง หรือป็นการต่อสู้เฮือกสุดท้ายหรือไม่นั้น พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า "คงไม่ใช่เฮือกสุดท้าย เขาพยายามเคลื่อนไหวต่อเนื่อง แต่เห็นชัดว่ากลุ่มเสื้อแดงก็มีความแตกแยกกันมีการด่าทอกันพูดจาถึงขั้นมึงกูแสดงว่ามีความแตกแยก"
นายกฯหลบเสื้อแดงเข้าสภา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล เพื่อมาประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญทั่วไป ที่รัฐสภา โดยนั่งรถยนต์ตู้ของนายธนญ ตันติสุนทร อดีตส.ส.ตาก พรรคประชาธิปัตย์ ที่ไปช่วยงานที่กระทรวงการคลัง ส่วนรถยนต์ตู้ประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้ให้นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ นั่งมา ซึ่งนายศิริโชค ชี้แจงกรณีนายอภิสิทธิ์ไม่นั่งรถยนต์ตู้ประจำตำแหน่งเข้ารัฐสภาว่า เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากมีกลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุมอยู่หน้ารัฐสภา
ด้านกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 หรือกลุ่มคนเสื้อแดงเชียงใหม่ ประมาณ 30 คน ชุมนุมและเผาพริกเผาเกลือบริเวณหน้าวัดอุปคุต อ.เมืองเชียงใหม่ สาปแช่งนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ที่เดินทางทำพิธีสืบชะตาเสริมดวงเสริมบารมี ร่วมกับครอบครัว ข้าราชการสังกัดกระทรวงการคลัง เพื่อนนักธุรกิจ และคนในตระกูล ณ เชียงใหม่ รวม 50 คน ที่วัดอุปคุต ตั้งแต่เวลา 07.09 น โดยมีเกจิอาจารย์จาก 21 วัดนามมงคลใน จ.เชียงใหม่ ประกอบพิธี ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องนำนายประดิษฐ์ หลบออกจากวัดทางประตูด้านหลังวัด พร้อมเลิกภารกิจตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของข้าราชการสรรพากรภาค 8 ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงบ่าย
อัยการเลื่อนสั่งคดี 9พันธมิตร
ด้านนายจำรัส อัตถสุริยานันท์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 5 มีคำสั่งเลื่อนนัดสั่งคดีที่ 9 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกอบด้วย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง พร้อมพวกรวม 9 คน ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองโดยมีอาวุธ โดยเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการ และเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกไปแต่ไม่เลิก เป็นวันที่ 3 มีนาคมนี้ เวลา 10.00 น. โดยจำรัส กล่าวว่า คณะทำงานอัยการอยู่ระหว่างจัดเรียงหลักฐานในส่วนของแผ่นบันทึกภาพเหตุการณ์การชุมนุม และต้องรอผลการสอบสวนเพิ่มเติมจากพนักงานสอบสวนในอีกหลายประเด็น ประกอบกับผู้ต้องหาทั้ง 9 คนได้มอบอำนาจให้เสมียนทนายยื่นคำร้องขอให้สอบสวนพยานเพิ่มเติมอีก 38 ปาก และขอเลื่อนนัดออกไปเนื่องจากติดภารกิจอยู่ที่ต่างจังหวัด