ที่มา เดลินิวส์
นโยบาย เฮลิคอปเตอร์ มันนี่ หรือ การโปรยเงินตามสี่แยก อุ๊ย ไม่ใช่สิ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ของรัฐบาลมาร์ค 1 จากงบฯเพิ่มเติมกลางปี 1.167 แสนล้าน ใน 18 โครงการที่ออกมาแล้ว ถูก นักวิชาการเศรษฐศาสตร์วิพากษ์แหลกลาญว่า เป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
หม่อมอุ๋ย ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกฯขิงแก่ ยังลุกขึ้นเอาขวานจามหน้าว่า เป็นนโยบาย “บ้องตื้น” คนจบเคมบริดจ์กับ ออกซฟอร์ด คิดได้แค่นี้เองหรือ เช่น จู่ ๆ เอาเงินยัดใส่มือผู้ประกันตนที่ รายได้ต่ำกว่าเดือนละ 15,000 บาทกับข้าราชการบำนาญรวม 9 ล้านคน คนละ 2,000 บาท รวม 1.8 หมื่นล้าน เฉยเลย
คนที่ค้านเห็นว่าเมื่อคนไม่แน่ใจว่า พรุ่งนี้ยังจะมีงานทำหรือไม่ เรื่องอะไรเอาไปใช้จ่าย เก็บเงินไว้ดีกว่า เท่ากับเกาไม่ถูกที่คัน นี่ยังไม่นับที่ถูกครหาว่า เงินถึง 60% เทไปกระทรวงที่ ปชป. ดูแลเป็นหลัก
ซึ่งดูแล้ว ก็จริง เช่น งบเงินส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ รมว.ชุมพล ศิลปอาชา พรรคชาติไทยพัฒนา ดูอยู่ ได้ไปแค่ 900 ล้านเท่านั้น ทั้งที่แต่ละปี ทำเงินเข้าประเทศ 6-7 แสนล้าน กลับไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควรเลย
แต่ใครจะว่ายังไง กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ ยืนยัน เฮลิคอปเตอร์ มันนี่ เป็นแค่การเริ่มต้น เพื่อทำให้ผู้บริโภค ภาคธุรกิจ ที่ยังไม่มีความมั่นใจได้เห็นว่า เราเริ่มทำอะไรแล้ว จะได้ขยับตัวและกลับมามั่นใจในการบริโภคและลงทุนเหมือนเดิม
ได้อย่างที่ว่าก็ดีเลย แต่เกรงว่า จะไม่เป็นเช่นนั้น !!!
รายงานข่าวจาก องค์กรส่งเสริมการค้าต่างประเทศญี่ปุ่น หรือ เจโทร เปิดเผยว่า ปีนี้นักลงทุนญี่ปุ่นจะเข้ามาลงทุนในไทยลดลง 10-20% อันเนื่องจากเศรษฐกิจโลกถดถอยส่วนหนึ่ง นั่นก็ช่างเถอะ แต่สำคัญคือ เจโทรบอกว่า ปัญหาการเมืองและการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ นั้น ได้สร้างความหวาดวิตกให้นักลงทุนญี่ปุ่นมากว่า จะมีความเสี่ยงมากขึ้นกว่าเดิม จึงชะลอการลง ทุนไว้ก่อน
อ่านแล้วก็หนาว เพราะที่ผ่าน ๆ มา ไม่ว่าจะปฏิวัติกี่หน นักลงทุนชาติอื่น ๆ อาจตกใจ ถอนการลงทุนหรือ “เวทแอนด์ซี” แต่ญี่ปุ่นไม่เคยเลย ปักหลักแน่น เรียกว่า ทนยังกับแรด แต่ภาวการณ์นั้นเปลี่ยนไปแล้ว
เดิมการเมืองจะทะเลาะตบตีกันยังไง ก็อยู่แค่แวดวงการเมือง แต่นับแต่ปล่อยให้เมืองไทย กลายเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน ไร้ขื่อแป ม็อบมีเส้น อาละวาดปิดถนน ยึดทำเนียบฯ เหิมถึงขนาดยึดสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมืองอย่างง่ายดาย โดยตำรวจและทหารต่างเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ เป็นข่าวแพร่ไปทั่วโลก
เพียงเพื่อกำจัดรัฐบาลที่ไม่ได้ดั่งใจ นี่ เป็นเหตุรุนแรงมาก !!!
แต่นอกจากไม่ถูกลงโทษ รัฐบาลนี้ยังให้บำเหน็จรางวัลอีกด้วย เป็นทั้งรัฐมนตรี เป็นทั้งที่ปรึกษา ก็เพราะอย่างนี้ จึงกลายเป็นแบบอย่าง คนงานไม่ได้โบนัส ก็ยึดโรงงานบ้าง สิ ภาพออกไป แมวที่ไหนอยากมา ลงทุนในไทย ในเมื่อ มาเลเซีย เวียดนาม หรือ เขมร พร้อมเปิดรับนักลงทุนต่างชาติอยู่แล้ว
มีข่าวอีกว่า ตอนนี้ การทำสัญญาระหว่างนักลงทุนไทยและต่างชาติ ถึงขนาดมีบางแห่งขอให้ใช้กฎหมายสิงคโปร์แล้ว เพราะกลัวจะมีการใช้ “กฎหมาย 2 มาตรฐาน” อย่างที่คนไทยบางกลุ่มโดนกระทำอยู่
ก็ดูสิ พอ ดีทีวี ของ 3 เกลอความจริงวันนี้ จะออกอากาศเท่านั้น มท.1 สั่งให้ตั้ง คกก.คอยจัดการเลย ก็แปลกนะ ทีวีบางช่องล้างสมอง ยุคนไปฆ่ากันทุกวัน กลับเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ กันหมด ???
ไม่ใช่แต่ญี่ปุ่นหรอกที่จะถอยกรูด ยังจะมีชาติอื่น ๆ อีก หากบ้านเมืองมี 2 มาตรฐานอย่างนี้.
ดาวประกายพรึก