WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, January 21, 2009

'จงรัก'ออกตัว!ปัดเตะถ่วงเชือดพันธมารยึดสนามบิน

ที่มา ประชาทรรศน์

'จงรัก'ร้อนตัว!ออกโรงปัดเตะถ่วงเชือดม็อบพันธมารบุกยึดสนามบิน อ้างที่ประชุมพนักงานสอบสวนเห็นชอบรวบสำนวน 2 สนามบินเข้าด้วยกัน ชี้ทำให้เสียเวลาหากแยกสอบสวนยันหาก ผบ.ตรไม่เห็นด้วยก็พร้อมกลับดำเนินการตามแนวทางเดิม

จากกรณีที่'สำนักข่าวประชาทรรศน์'ได้นำเสนอข่าวโดยตั้งข้อสังเกตุถึงการดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.)ของพล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กรณีบุกยึดท่าอากาศยานดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิว่า อาจเป็นการถ่วงเวลาทำให้การสอบสวนล่าช้าเพื่อช่วยเหลือกลุ่มพันธมิตรฯ เนื่องจากในส่วนคดีที่เกี่ยวเนื่องกับท่าอากาศยานดอนเมือง มีความคืบหน้าไปถึง 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว ซึ่งน่าจะสรุปสำนวนส่งฟ้องได้ในเร็ววัน แต่ไม่เข้าใจว่า ทำไมคณะกรรมการสอบสวนคดีความอันเกี่ยวเนื่องกับการยึดสนามบินทั้ง 2 แห่ง ที่มี พล.ต.อ.จงรัก เป็นหัวหน้าชุด กลับสั่งให้รวมสำนวนของทั้ง 2 สนามบินเข้าด้วยกัน และส่งหลักฐานให้คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาใหม่ตรวจสอบหมด แทนที่จะส่งสำนวนของท่าอากาศยานดอนเมืองให้อัยการสั่งฟ้องก่อน

วันนี้ (21ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จงรัก ออกมาปฎิเสธ ว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ยืนยันไม่มีการถ่วงเวลา จนทำให้การสอบสวนเพื่อช่วยเหลือกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งสาเหตุที่มีการเสนอให้รวมคดีทั้ง 2 เป็นคดีเดียวกันนั้น เป็นความเห็นชอบของที่ประชุมพนักงานสอบสวนทั้งหมดรวมทั้งกองคดี ซึ่งเป็นฝ่ายกฎหมายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ทั้งนี้เนื่องจากการสอบสวนรวบพยานหลักฐานในระยะที่ผ่านมาเกิดอุปสรรคขึ้นเพราะต้องสอบสวนกันคนละ 2 ครั้ง ทำให้เสียเวลาและเป็นการไม่สะดวกแก่พยานบุคคลที่ต้องเดินทางมาให้ปากคำ ทั้งๆที่ความผิดที่เกิดขึ้นมีที่มาจากทำเนียบรัฐบาลโดยแกนนำพันธมิตรฯชุดเดียวกัน ก่อนที่จะเคลื่อนขบวนไปที่สนามบินทั้ง 2 แห่ง

"ซึ่งจุดมุ่งหมายหรือเจตนาในการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ การขับไล่รัฐบาลในขณะนั้น อีกทั้งการแยกดำเนินการเพื่อให้ผู้ต้องหาต้องถูกลงโทษถึง 2 ครั้ง เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามหลักกฎหมาย แต่ในส่วนความผิดปลีกย่อยที่อาจจะเป็นความผิดเช่นบุกรุกหรืออื่นๆ ต่างสถานที่กันระหว่างสนามบินดอนเมืองกับสนามบินสุวรรณภูมิก็ต้องดำเนินคดีไปต่างหากและอีกประการหนึ่งพนักงานสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ที่ตั้งขึ้นมาดำเนินคดีบุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิมีจำนวนน้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับพนักงานสอบสวนของบช.น.ที่รับผิดชอบคดีที่สนามบินดอนเมือง ดังนั้น การรวมคดีเป็นสำนวนเดียวกันจะทำให้พนักงานสอบสวน บช.น.สามารถเข้ามาช่วยสอบสวนพยานในคดีที่สนามบินสุวรรณภูมิให้เสร็จเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม การรวมคดีทั้ง 2 คดีดังกล่าวยังอยู่ระหว่างกองคดีประมวลเรื่องเสนอไปยัง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อพิจารณาซึ่งหาก ผบ.ตร.เห็นว่ายังไม่ควรรวมคดี พนักงานสอบสวนก็จะต้องดำเนินการไปตามแนวทางเดิม"

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.จงรัก กล่าวอีกด้วยว่า ตนขอยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการเตะถ่วงเวลาหรือหรือช่วยเหลือใครๆทั้งสิ้น ซึ่งในเรื่องนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็ได้กำชับให้ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ทั้งนี้ ยืนยันพนักงานสอบสวนจะดำเนินการไปตามหลักฐานที่ปรากฎเท่านั้น