ที่มา ไทยรัฐ
วันนี้ (อังคารที่ 20 มกราคม 2552) เป็นวันสำคัญอย่างยิ่งวันหนึ่งที่สมควรแก่การบันทึกไว้
เพราะจะเป็นวันที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นที่ประเทศใหญ่ประเทศหนึ่ง ซึ่งคาดกันว่าจะมีผลกระทบอย่างมากต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกนับจากนี้เป็นต้นไป
ใช่แล้วครับ...วันนี้เวลาประมาณเที่ยงคืนบ้านเรา จะมีพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของคุณ บารัก ฮุสเซน โอบามา ณ บริเวณปะรำพิธี หน้าตึกรัฐสภาสหรัฐอเมริกัน กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
นับเป็นคนอเมริกันผิวสีคนแรกที่จะขึ้นดำรงตำแหน่งอันยิ่งใหญ่ของประเทศมหาอำนาจสูงสุดของโลกประเทศนี้
คนผิวดำที่เคยเป็นพลเมืองอันต่ำต้อยของประเทศนี้ จะขึ้นบริหารประเทศ โดยความยินยอมพร้อมใจของประชาชน 69,456,892 คน ที่เลือกเขาขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี คนที่ 44 ของสหรัฐฯ
คาดว่าในพิธีสาบานตนที่กรุงวอชิงตัน จะมีประชาชนไปร่วมเป็นสักขีพยานไม่ต่ำกว่า 1 ล้าน 5 แสนคน และอาจจะสูงถึง 2 ล้านคน หากดินฟ้าอากาศเป็นใจ
ขณะนี้มีรายงานว่าอากาศที่วอชิงตันค่อนข้างหนาวเย็น อุณหภูมิขณะมีพิธีน่าจะอยู่ราวๆ 30-32 องศาฟาเรนไฮต์ หรือใกล้ๆ 0 องศาเซลเซียส
หากมีผู้คนมาร่วมตามจำนวนที่ประมาณการไว้ จะทำให้พิธีสาบานตนครั้งนี้เป็นพิธีสาบานตนที่มีคนอเมริกันมาร่วมเป็นสักขีพยานมากที่สุด
เพราะสถิติเก่าที่อดีตประธานาธิบดี ลินดอน จอห์นสัน ทำไว้เมื่อปี 1965 ก็คือ 1 ล้าน 2 แสนคน ซึ่งยังไม่มีใครทำลายได้มาถึงบัดนี้
เทียบกับ 2 ครั้งที่ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู. บุช เข้าสู่พิธีรับตำแหน่ง มีประชาชนมาร่วมด้วยช่วยเชียร์ประมาณครั้งละ 300,000 คน เท่านั้นเอง
ว่าไปแล้วพิธีสาบานตนของคุณบารัก โอบามา เริ่มตั้งแต่วันที่ 17 มกราคมแล้วด้วยซ้ำ เมื่อรถไฟขบวนหนึ่งออกเดินทางจากฟิลาเดลเฟียมาสู่วอชิงตัน ดี.ซี.
ว่าที่ประธานาธิบดี บารัก โอบามาและครอบครัวเป็น 1 ในผู้โดยสารของรถไฟขบวนพิเศษขบวนนี้ เจริญรอยตามประธานาธิบดีลินคอล์น ที่นั่งรถไฟเข้ารับตำแหน่งในอดีตกาล
ขบวนรถไฟหยุดพักในเมืองประวัติศาสตร์สำคัญๆ อาทิ วิลมิงตัน, เดลาแวร์, บัลติมอร์ และแมรีแลนด์ เป็นต้น
จากนั้นก็จะมีงานเฉลิมฉลองต่างๆในกรุงวอชิงตัน ตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม และจะไปสิ้นสุดในวันที่ 21 มกราคม โดยทั้ง 4 คืนที่กล่าวนี้ ทางการจะอนุญาตให้บาร์และไนต์คลับเปิดได้จนถึงตี 5 เป็นกรณีพิเศษ
ตามกำหนดการที่แจ้งไว้ พิธีสาบานตนของประธานาธิบดี จะเริ่มในเวลาเที่ยงตรงตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งก็คือเที่ยงคืน คืนนี้บ้านเรา
ก่อนหน้านั้นจะเป็นขบวนพาเหรดต่างๆซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ 10.00 น. หรือ 4 ทุ่ม
ในพิธีสาบานตน บารัก โอบามาจะใช้พระคัมภีร์ไบเบิล เล่มเดียวกับที่ประธานาธิบดี อับราฮัม ลินคอล์น เคยใช้ในพิธีเดียวกันนี้ เมื่อปี 1861
หลังจากพิธีสาบานตนแล้ว จะมีการกล่าวสุนทรพจน์ต่อประชาชนอย่างเป็นทางการ เนื่องในโอกาสที่ได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯอย่างเต็มตัว
คาดกันไว้เช่นกันว่า ในสุนทรพจน์ของท่านจะมีประโยคเด็ดๆ นโยบายเด็ดๆ หรือความคิดที่โดดเด่น ที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสหรัฐอเมริกา และโลก อีกหลายๆประโยคที่จะนำไปพาดหัวข่าวกันได้
ครับ ในฐานะมิตรที่ดีต่อกัน และประเทศเขาก็เป็นขาใหญ่หรือพี่เบิ้มของโลกจริงๆ การเคลื่อนไหวของเขาล้วนมีผลกระทบต่อโลกในทุกเรื่องไม่ว่าการเมือง เศรษฐกิจ หรือสังคม
คุณบารักเข้ามาในช่วงภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯกำลังย่ำแย่ จึงเป็นที่หวังว่า เขาจะสามารถช่วยกอบกู้เอาไว้ได้ รวมทั้งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงต่างๆทั้งในประเทศเขาเองและต่อโลกเป็นส่วนรวม
คนไทยเราก็คงต้องเอาใจช่วย เพราะถ้าเขาทำสำเร็จ ผลดีก็ย่อมจะตกแก่โลก และได้ผลานิสงส์มาถึงไทยแลนด์เรา
ขณะเดียวกันก็คงจะถือโอกาสนี้ร่ำลาอดีตประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู. บุช ด้วย ซึ่งก็คงจะกลับไปเป็นราษฎรเต็มขั้นในวันนี้
แม้ผลงานของท่านจะทำให้เศรษฐกิจทรุด ทำให้สงครามขยายตัว ซึ่งท่านก็ได้รับผลตอบแทนเป็น “รองเท้า” จากนักข่าวอิรักไปแล้ว
สำหรับเราไม่มีอะไรขุ่นข้องหมองใจกับท่าน และตลอดเวลาที่ท่านมาเยือนเมืองไทยหลายครั้ง ก็น่ารักและประทับใจ
ขอมอบดอกไม้ 1 ช่อใหญ่ มาเป็นกำลังใจในวันอำลาก็แล้วกันนะครับ...ท่านอดีตประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู. บุช และภริยา.
“ซูม”