WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, January 23, 2009

เกทับ!!!

ที่มา ประชาทรรศน์

คอลัมน์ : ละครชีวิต

โดยอสรพิษ


ภายหลังที่รัฐบาลประชาธิปัตย์ได้ประกาศนโยบาย ลด แลก แจก แถม เพื่อหวังกอบกู้ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่หลายฝ่ายต่างวิพากษ์วิจารณ์กันหนาหูว่าเป็น “วิธีแก้ผ้าเอาหน้ารอด” อยากมัดใจคนรากหญ้าให้อยู่หมัด หวังอยู่ลึกๆ เพราะผลการเลือกตั้งที่ผ่านมา อาจหลอกตัวเองให้ชื่นใจได้ว่า มนต์ขลังของคนต่างแดนเริ่มเสื่อมลง

แต่ใครจะไปคิดว่า นายกรัฐมนตรี ดีกรีนักเรียนนอก ที่พรรคภูมิใจนักหนา ต้องกลืนน้ำลายตัวเอง หันมาจับนโยบายประชานิยมคนอื่น มาปรับเปลี่ยนหน้าตา เปลี่ยนชื่อใหม่ เป็นนโยบายของตัวเอง

เห็นกันอย่างนี้แล้ว ก็ได้แต่พูดไม่ออก ทนดูพฤติกรรมรัฐบาลบริหารประเทศที่ลงเม็ดเงินจำนวนมากมายมหาศาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ แต่ลึกลงไปกลับมีนัยหวังผลกวาดคะแนน ซื้อเสียงล่วงหน้า

หากมองย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน ไม่ใช่ว่าประชาธิปัตย์จะไม่รู้จัก “นโยบายประชานิยม”ครั้งหนึ่งก็เคยคิดและลงมือทำแล้ว แต่กลับไม่ได้ผลอะไรเลย เพราะว่าเป็นการให้เงินแค่ชุมชนเดียวเท่านั้น ซึ่งไม่ได้มีการกระจายไปทั่วประเทศ

ซึ่งมันต่างกันกับรัฐบาลของบ้านเลขที่ 111 ที่มาบริหารประเทศและได้ใช้นโยบายประชานิยมเหมือนกัน ความต่างมีนิดเดียว เพราะว่าเขากระจายเม็ดเงินไปทั่วประเทศ ทุกชุมชน อย่างโครงการเงินล้านที่มีการต่อยอด และเพิ่มมูลค่าอย่างมากมาย จนเป็นที่ถูกอกถูกใจ ของคนรากหญ้า มีเท่าไรให้หมดใจ รักไม่ยอมเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้เป็นรัฐบาลสองสมัย คะแนนเสียงขาดกระจุย เป็นประวัติการณ์เลยทีเดียว

มาวันนี้ประชาธิปัตย์ได้ขึ้นเป็นรัฐบาลอีกครั้ง มีหรือจะปล่อยให้โอกาสโกยคะแนนเสียง ประชานิยมหลุดลอยไป เพราะจากการประกาศนโยบายออกมา ทุกคนถึงกับบางอ้อ ว่านโยบายที่พูดไปไม่ต่างอะไรกับรัฐบาลไทยรักไทย ที่ครั้งหนึ่งประชาธิปัตย์เองก็เคยด่าเขาไว้เหมือนกัน

อะไรที่ทำให้นักวิชาการบางท่าน หรือผู้ทรงคุณวุฒิหลายคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ว่านโยบาย ลด แลก แจก แถม ของประชาธิปัตย์เป็นเหมือน “ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ” เพราะท้ายที่สุดแล้วก็ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างที่ปากว่า แต่เป็นการหวังกวาดคะแนนประชานิยมเพื่อสร้างฐานเสียงให้กับตัวเองมากกว่า

จะเห็นได้จากเม็ดเงินก้อนแรกที่หวังโกยคะแนนคนรากหญ้าด้วยการ จัดตั้งกองทุนเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน (ศพช.) ที่ยุติกองทุนหมู่บ้าน SML ของรัฐบาลชุดเดิม โดยจะเบิลเม็ดเงินให้มากขึ้นเป็น 2 เท่า

ฟังแค่นี้อย่าเพิ่งดีใจดีใจออกนอกหน้า ตาโตเป็นไข่ห่าน เพราะหากมองให้ลึกลงไป ก็จะเห็นอะไรบางอย่างที่แอบแฝงอยู่ ก่อนหน้านี้พรรคไทยรักไทย ก็ใช้นโยบายเดียวกันแจกเงินให้หมู่บ้านละล้าน มาวันนี้ประชาธิปัตย์ใจปล้ำ อัดเงินลงไปเป็นสองเท่า เพราะคิดตื้นๆ แค่ว่าเงินซื้อทุกอย่างได้

แต่หากประชาธิปัตย์เฉลียวใจสักนิดและมองให้ลึกลงไป ว่าคนรากหญ้า ไม่ใช่คนโง่ที่จะใช้เงินฟาดหัวอย่างเดียว อย่างที่หลายคนเข้าใจแล้ว ยังเป็นการตอกย้ำลงไป ให้พวกเขาคิดได้อีกว่า เห็นไหมว่าเป็นเพราะรัฐบาลไทยรักไทย ทำหลายๆ โครงการไว้ดี เห็นผล ไม่ว่าจะเปลี่ยนอีกกี่รัฐบาล ก็เอาต้นฉบับของเขามาก๊อปปี้ทำกัน แล้วอย่างนี้คุณคิดว่าคนรากหญ้าเหล่านั้น จะชื่นชมใคร

นี่แค่ลูกไม้ตื้นๆ ที่ใครก็อ่านเกมออก ว่าประชาธิปัตย์หวังผลสิ่งใด หากแค่จะใช้เวลาไตร่ตรองและคิดให้มากกว่านี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปัญหาสำคัญในขณะนี้ ที่ใครต่อใครก็ชี้หน้าไว้ ว่าอาจจะมี IMF รอบสอง

อย่าให้ความคิดเพียงชั่ววูบเรื่องหวังโกยคะแนนประชานิยม ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป เอาแค่เม็ดเงินมาล่อเป้าให้คนตกหลุมพราง มันหมดยุคสมัยแล้ว อย่าให้รัฐบาลชุดใหม่ที่อาจจะมีขึ้นไม่ช้าก็เร็ว เขามาเกทับซ้ำเติมได้ว่า รัฐบาลที่บริหารโดยพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีอะไรดีนอกจากสร้างหนี้ให้ประเทศ ฟังแล้วอายแทน!!