ที่มา Thai E News
คำกล่าวที่ว่าความยุติธรรมที่มาถึงล่าช้า ถือเป็นความอยุติธรรมชนิดหนึ่ง กำลังเป็นบทพิสูจน์ในการดำเนินคดีต่อโจรพันธมิตร ซึ่ง1ในหลายกรณีนั้นก็คือพฤติการณ์อุกอาจยิง ปืนจี้ จุดไฟเผาบริเวณปากซอย3ถนนวิภาวดี เหตุเกิดเมื่อวันที่25พฤศจิกายน2552 หรือเมื่อ107วันที่ผ่านมา และแทบจะเงียบหายไป
คดีดังกล่าวถูกเปิดเผยขึ้นอีกครั้งในสถานการณ์ที่ตำรวจรีบออกหมายจับการ์ดคนเสื้อแดงที่เข้าจับกุมทหารที่แอบแฝงตัวเข้าไปหาข่าวและก่อกวนในการชุมนุมของเสื้อแดงที่หน้าทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่26ก.พ.2552 และตำรวจได้ออกหมายจับอย่างรวดเร็วเพียงแค่ไม่ถึง1สัปดาห์หลังเกิดเหตุ โดยที่ตำรวจไม่ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ ระบุเพียงว่ามีหลักฐานภาพถ่ายตามที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณให้นโยบายไว้ก็เพียงพอแล้วต่อการดำเนินคดี ซึ่งนายจตุพร พรมพันธุ์ แกนนำเสื้อแดงได้แสดงสปิริตรีบพาผู้ต้องหา6รายเข้ามอบตัว และประกันตัวออกมาแล้ว
นายจตุพรกล่าวเตือนตำรวจว่า หากอาศัยเพียงหลักฐานภาพถ่ายมาออกหมายจับ ก็ต้องดำเนินคดีต่อพันธมิตรด้วย โดยเฉพาะกรณีการก่อเหตุยิงประชาชนบาดเจ็บ11ราย และจี้ รวมทั้งจุดไฟเผาหน้าปากซอยวิภาวดี3เมื่อวันที่25พ.ย.2551 จึงจะถือว่าไม่เลือกปฏิบัติ เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวมีหลักฐานภาพถ่ายชัดเจน และเมื่อออกหมายจับแล้ว ก็ต้องรอดูสปิริตแกนนำเสื้อเหลืองพันธมิตรด้วยว่าจะกล้าพาผู้ต้องหาเข้ามอบตัวแบบเสื้อแดงหรือไม่ เพราะที่ผ่านมานายสุริยะใส กตศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรปัดความรับผิดชอบว่าไม่ใช่คนของพันธมิตร
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวานนี้( 11 มี.ค. )ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.2551 ที่ผ่านมา ศาลอาญา ได้อนุมัติหมายจับ เลขที่ 3476-3496/2551 ให้จับกุมชายไทยไม่ทราบชื่อจำนวน 20 คน ในข้อหา มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยผู้ร่วมกระทำผิดคนหนึ่งคนใดมีอาวุธ โดยผู้ต้องหาตามหมายจับ ที่ 3496/2551ซึ่งเป็นชายที่ใช้อาวุธปืนสั้นยิงเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงที่บริเวณปากซอยทางเข้าสถานีวิทยุชุมชนคนรักแท็กซี่ วิภาวดี ซอย 3 ศาลอาญา ได้เพิ่มข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 พ.ย.2551 กลุ่มผู้ต้องหาซึ่งเป็นผู้ชุมนุมแนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เคลื่อนขบวนจากสนามบินดอนเมืองไปสนามบินสุวรรณภูมิ ใช้เส้นทางถนนวิภาวดี เพื่อที่จะขึ้นทางด่วนไปยังจุดหมาย แต่เมื่อขบวนเคลื่อนมาถึงบริเวณหน้าปากซอยโชคชัยร่วมมิตร ได้เกิดเหตุปะทะกันกับกลุ่มแนวร่วมต่อต้านเผด็จการแห่งชาติที่ชุมนุมกันอยู่บริเวณปากซอยทางเข้าสถานีวิทยุชุมชนคนรักแท็กซื่ วิภาวดีซอย 3 โดยกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ใช้อาวุธปืน หนังสติ๊ก มีดดาบ ท่อนเหล็ก และก้อนหิน ยิงเข้าใส่และเข้าทำร้ายกลุ่มผู้ชุมนุมฝ่ายตรงข้ามจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหาย
ต่อมา พ.ต.ท.ศักดิพัฒน์ เหรียญทอง พนักงานสอบสวน (สบ.3) ส.น.บางซื่อ ได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับกุมกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ก่อเหตุทั้งหมด ก่อนที่หมายจับดังกล่าวจะถูกส่งมีที่กองทะเบียนประวัติอาชญากรรมเพื่อประกาศสืบจับต่อไป
(ชมภาพชุดพันธมิตรก่อเหตุอุกอาจยิง มีดจี้คอ และเผาหน้าปากซอยวิภาวดี 3 เมื่อ25พ.ย.2551 หน้าสำนักงานแท็กซี่เรดิโอ พร้อมคลิปข่าว)
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
ที่มา มติชนออนไลน์
12 มีนาคม 2552
เสื้อแดงย้อนศรตำรวจและโจรพันธมิตร หลังการ์ดแดงโดนหมายจับกรณีรุมทหารสืบข่าวม็อบทำเนียบเมื่อ26ก.พ. จตุพรพา6ผู้ต้องหามอบตัวพร้อมท้าหากออกหมายจับได้เพียงแค่มีหลักฐานภาพถ่ายโดยไม่ทราบชื่อ ก็ต้องออกหมายจับเสื้อเหลืองเช่นกัน โดยเฉพาะกรณีอุกอาจสาดกระสุนมีดจี้คอจุดไฟเผาหน้าแท็กซี่เรดิโอเมื่อ25พ.ย.51 พร้อมท้าให้แกนนำพันธมิตรแสดงสปิริตพาเข้ามอบตัวด้วย ล่าสุดตำรวจย่องแย่งออกหมายจับแล้วหลังผ่านไป107วัน แฉดองคดียาวทั้งที่ศาลอนุมัติจับหลังก่อเหตุ1เดือน รอดูน้ำหน้าแกนเน่าจะพาเข้ามอบตัวหรือไม่ หลังจากยะใสเคยปัดความรับผิดชอบว่าไม่ใช่คนของพธม.
คำกล่าวที่ว่าความยุติธรรมที่มาถึงล่าช้า ถือเป็นความอยุติธรรมชนิดหนึ่ง กำลังเป็นบทพิสูจน์ในการดำเนินคดีต่อโจรพันธมิตร ซึ่ง1ในหลายกรณีนั้นก็คือพฤติการณ์อุกอาจยิง ปืนจี้ จุดไฟเผาบริเวณปากซอย3ถนนวิภาวดี เหตุเกิดเมื่อวันที่25พฤศจิกายน2552 หรือเมื่อ107วันที่ผ่านมา และแทบจะเงียบหายไป
คดีดังกล่าวถูกเปิดเผยขึ้นอีกครั้งในสถานการณ์ที่ตำรวจรีบออกหมายจับการ์ดคนเสื้อแดงที่เข้าจับกุมทหารที่แอบแฝงตัวเข้าไปหาข่าวและก่อกวนในการชุมนุมของเสื้อแดงที่หน้าทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่26ก.พ.2552 และตำรวจได้ออกหมายจับอย่างรวดเร็วเพียงแค่ไม่ถึง1สัปดาห์หลังเกิดเหตุ โดยที่ตำรวจไม่ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ ระบุเพียงว่ามีหลักฐานภาพถ่ายตามที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณให้นโยบายไว้ก็เพียงพอแล้วต่อการดำเนินคดี ซึ่งนายจตุพร พรมพันธุ์ แกนนำเสื้อแดงได้แสดงสปิริตรีบพาผู้ต้องหา6รายเข้ามอบตัว และประกันตัวออกมาแล้ว
นายจตุพรกล่าวเตือนตำรวจว่า หากอาศัยเพียงหลักฐานภาพถ่ายมาออกหมายจับ ก็ต้องดำเนินคดีต่อพันธมิตรด้วย โดยเฉพาะกรณีการก่อเหตุยิงประชาชนบาดเจ็บ11ราย และจี้ รวมทั้งจุดไฟเผาหน้าปากซอยวิภาวดี3เมื่อวันที่25พ.ย.2551 จึงจะถือว่าไม่เลือกปฏิบัติ เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวมีหลักฐานภาพถ่ายชัดเจน และเมื่อออกหมายจับแล้ว ก็ต้องรอดูสปิริตแกนนำเสื้อเหลืองพันธมิตรด้วยว่าจะกล้าพาผู้ต้องหาเข้ามอบตัวแบบเสื้อแดงหรือไม่ เพราะที่ผ่านมานายสุริยะใส กตศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรปัดความรับผิดชอบว่าไม่ใช่คนของพันธมิตร
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวานนี้( 11 มี.ค. )ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.2551 ที่ผ่านมา ศาลอาญา ได้อนุมัติหมายจับ เลขที่ 3476-3496/2551 ให้จับกุมชายไทยไม่ทราบชื่อจำนวน 20 คน ในข้อหา มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยผู้ร่วมกระทำผิดคนหนึ่งคนใดมีอาวุธ โดยผู้ต้องหาตามหมายจับ ที่ 3496/2551ซึ่งเป็นชายที่ใช้อาวุธปืนสั้นยิงเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงที่บริเวณปากซอยทางเข้าสถานีวิทยุชุมชนคนรักแท็กซี่ วิภาวดี ซอย 3 ศาลอาญา ได้เพิ่มข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 พ.ย.2551 กลุ่มผู้ต้องหาซึ่งเป็นผู้ชุมนุมแนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เคลื่อนขบวนจากสนามบินดอนเมืองไปสนามบินสุวรรณภูมิ ใช้เส้นทางถนนวิภาวดี เพื่อที่จะขึ้นทางด่วนไปยังจุดหมาย แต่เมื่อขบวนเคลื่อนมาถึงบริเวณหน้าปากซอยโชคชัยร่วมมิตร ได้เกิดเหตุปะทะกันกับกลุ่มแนวร่วมต่อต้านเผด็จการแห่งชาติที่ชุมนุมกันอยู่บริเวณปากซอยทางเข้าสถานีวิทยุชุมชนคนรักแท็กซื่ วิภาวดีซอย 3 โดยกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ใช้อาวุธปืน หนังสติ๊ก มีดดาบ ท่อนเหล็ก และก้อนหิน ยิงเข้าใส่และเข้าทำร้ายกลุ่มผู้ชุมนุมฝ่ายตรงข้ามจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหาย
ต่อมา พ.ต.ท.ศักดิพัฒน์ เหรียญทอง พนักงานสอบสวน (สบ.3) ส.น.บางซื่อ ได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับกุมกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ก่อเหตุทั้งหมด ก่อนที่หมายจับดังกล่าวจะถูกส่งมีที่กองทะเบียนประวัติอาชญากรรมเพื่อประกาศสืบจับต่อไป
(ชมภาพชุดพันธมิตรก่อเหตุอุกอาจยิง มีดจี้คอ และเผาหน้าปากซอยวิภาวดี 3 เมื่อ25พ.ย.2551 หน้าสำนักงานแท็กซี่เรดิโอ พร้อมคลิปข่าว)