ที่มา thaifreenews
โดย : math
เศร้า กว่าหนังเกาหลี แค้นกว่าหนังจีนกำลังภายใน เมื่อสื่อทุกฉบับแฉ
ประเทศไทยพินาศแล้ว คนตกงานทั่ว รายได้ลด การค้าแย่ ภายใต้การนำของสองเด็กเวรที่ชาว กทม ถูกหลอกนึกว่าเก่ง แท้จริงตะติ้งโหน่ง จำชื่อสองตัวนี้ไว้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กะนายกรณ์ จาติกวณิชย์
จำให้แม่น ชื่อสองตัวทำลายชาตินำความย่อยยับอัปปางทางเศรษฐกิจมาสู่ประเทศ ขอให้อ่านข่าวข้างล่างนี้ที่มาจากมหาวิทยาลัยหอการค้า กลุ่มที่เชียร์พรรคประชาธิปัตย์มาก่อน ยอมรับเองว่า
นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.พ.52 ว่า ปรับตัวลดลงทุกรายการเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน โดยดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมลดจาก 68.3 ในเดือน ม.ค. มาอยู่ที่ 67.2, ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานลดลงจาก 67.7 เหลือ 66.5, ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้อนาคตลดจาก 89.7 เหลือ 88.5 ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.พ. ลดจาก 75.2 เหลือ 74.0 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ปัจจุบันลดจาก 65.4 เหลือ 64.2 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอนาคตจาก 77.0 เหลือ 75.8
ขณะที่ผลการสำรวจภาวะทางสังคม ดัชนีความสุขในการดำเนินชีวิตลดลงครั้งแรกในรอบ 3 เดือน
“ที่น่าห่วงคือ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือน ก.พ. ลดต่ำสุดรอบ 85 เดือน นับจากปี 45 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ปัจจุบันลดต่ำสุดรอบ 80 เดือน เพราะความกังวลต่อสถานการณ์เศรษฐกิจไทยและโลกที่แย่หนักกว่าที่คาดไว้ ทำให้การส่งออกติดลบและมีผลต่อความวิตกการเลิกจ้างงาน ประกอบกับค่าครองชีพ ราคาน้ำมัน ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคยังทรงตัวสูงต่อเนื่อง ทำให้ความเชื่อมั่นโดยรวมลดลง”
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์ เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า “ผลสำรวจเดือนนี้สะท้อนสัญญาณอันตรายต่อความเชื่อมั่นมาก เพราะความเชื่อมั่นอนาคตถดถอยมากกว่าความเชื่อมั่นปัจจุบัน ซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก และส่งผลให้แนวโน้มความเชื่อมั่นลดต่อเนื่องไปตลอดไตรมาส 2 และ 3 ส่วนการขยายตัวเศรษฐกิจ ประเมินว่าไตรมาสแรกจีดีพีจะติดลบเพิ่มจาก-5% กลายเป็น-8% และไตรมาส 2 อยู่ที่-4 ถึง-5% ทำให้เศรษฐกิจทั้งปีลบเกินคาดจาก-1 ถึง-2.8% อาจขยับเป็น-3 ถึง-4%”