ที่มา เดลินิวส์
โวหาเงินให้ปท.2.5แสนล.'อภิสิทธิ์'ไม่ท้อถูกม็อบไล่
"ทักษิณ" โฟนอินคุยคนเสื้อแดงที่ขอนแก่น โวเคยหาเงินได้ 2.5 แสนล้านไม่ต้องกู้เขา สร้างอนาคตให้ลูกหลาน แต่ถูกเขาไล่ออกโดยใช้กำลัง ทหาร พันธมิตรไปยึดสนามบิน แต่ตำรวจทำอะไรไม่ได้ จนปลดรัฐบาลให้ อภิสิทธิ์ ตั้งรัฐบาลใหม่ จะเรียกว่าประชาธิปไตยได้อย่างไร สุดท้ายเอาทหารมากดดัน เรียก “รัฐบาลปฏิวัติเงียบ” ระบุเสื้อแดงเติบโตเพราะประเทศขาดมาตรฐาน ความยุติธรรมไม่เกิด ขณะที่ “สุชาติ” ที่ถูกย้ายมานั่ง ผบช.ภ.4 นำประสบการณ์มาใช้รับมือม็อบสบาย สั่งบันทึกภาพ-เสียงไว้ทุกขั้นตอน ภายหลังหากพบความผิดในคดีหมิ่นประมาทเจอดำเนินคดีแน่นอน ด้าน “อภิสิทธิ์” ไม่ท้อเสื้อแดงขับไล่ เตรียมลงพื้นที่ต่างจังหวัดอีก หลังกลับจากประเทศอังกฤษ ระบุที่ถูกขว้างด้วยขวดน้ำ อาจเป็นความหงุดหงิด เพราะต้องตากแดดกันอยู่นาน เรียกร้อง “ทักษิณ” เห็นแก่ประโยชน์ประเทศชาติ หยุดโฟนอิน ยืนยันจะไม่ทำให้เกิดสงครามกลางเมือง ด้าน “เทพไท” ชี้เสื้อแดงป่วน ครม.ลงพื้นที่ แค่เป็นสีสันการเมือง จวก “ทักษิณ” เป็นผู้ใหญ่จรจัด หยุดพล่ามพร่ำเพรื่อเสียที
เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการลงพื้นที่พบปะประชาชนในต่างจังหวัด เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ที่ผ่านมาว่า คิดว่าเป็นไปตามเป้าหมาย ที่รัฐบาลต้องการทำ คือได้พบปะกับประชาชน ได้ไปไขข้อข้องใจและตอบข้อสงสัย รวมไปถึงรับข้อสังเกตปัญหาเสียงสะท้อนมาเพิ่มเติม อย่างที่จังหวัดลพบุรีได้มีการสรุปมาเป็นเอกสารให้ตนด้วย ผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อดูจากบรรยากาศแล้วการลงพื้นที่ในอนาคต กลัวหรือไม่ว่าจะมีความรุนแรงมากขึ้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่าคงจะไม่มี และตนคิดว่าการลงพื้นที่ของรัฐมนตรีทุกคนที่ผ่านมา น่าจะเป็นการพิสูจน์ว่าเราลงไปเพื่อประโยชน์ในการทำงานไม่ใช่เรื่องการเมือง และเชื่อว่าประชาชนมีความตั้งใจที่จะให้เรามีโอกาสใกล้ชิดและแลกเปลี่ยนปัญหากัน ส่วนที่มีการขว้างปาสิ่งของของกลุ่มเสื้อแดงนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นขวดน้ำพลาสติก อาจจะเป็นความหงุดหงิด เพราะต้องตากแดดกันอยู่นาน
เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีมีกำหนดการลงพบปะประชาชนในพื้นที่อื่น ๆ อีกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มี แต่ในวันที่ 13-14 มี.ค. ตนจะเดินทางไปร่วมประชุมจี 20 ที่ประเทศอังกฤษ แต่หลังจากนั้นก็จะลงพื้นที่ ส่วนจะเป็นพื้นที่ไหนนั้น นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้รวบรวม เพราะต้องดูจังหวัดที่ยังไม่มีรัฐมนตรีลงไป เมื่อถามว่ารู้สึกท้อแท้หรือไม่ที่ลงพื้นที่แล้วถูกกลุ่มเสื้อแดงต่อต้านขับไล่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ ตนคิดว่าทุกอย่างเป็นปกติ และในสังคมเรายังมีคนที่มีความเห็นแตกต่างกัน
เมื่อถามว่ากลัวหรือไม่ว่าอาจจะถูกมองว่าการลงพื้นที่เป็นการไปยั่วยุ เพราะรู้อยู่แล้วว่าจะต้องมีคนออกมาชุมนุมต่อต้าน นายอภิสิทธิ์ ตอบว่า ไม่มี ตนไม่ได้ไปทำให้เกิดความขัดแย้งอะไร และบอกชัดเจนว่าไปทำอะไร ซึ่งถือว่าเป็นงานในหน้าที่ ต่อข้อถามว่าคิดว่าในช่วงรัฐบาลชุดนี้ นายกฯ จะทำให้คนที่ต่อต้านกลับมาเห็นด้วยกับรัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนตั้งใจ แต่ถ้าให้เห็นด้วยทั้งหมดคงเป็นไปได้ยาก แต่ต้อง ยอมรับในการที่จะอยู่ร่วมกันในกติกาที่ไม่กระทบกระทั่งกัน เมื่อถามว่าคิดว่าบรรยากาศเช่นนี้จะอยู่อีกนานหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องถามกลุ่มผู้ชุมนุม เพราะตนพยายามอย่างเต็มที่ ที่จะไม่ให้เกิดความรู้สึกที่ขัดแย้ง ขณะเดียวกันก็มีเรื่องที่เราพยายามทำในส่วนที่เป็นข้อห่วงใยของเขาอยู่ เช่น การปฏิรูปการเมือง
เมื่อถามว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ระบุว่ามีความพยายามที่จะทำให้เกิดความขัดแย้งเพื่อต้องการให้เกิดสงครามกลางเมือง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็อาจจะมีบางส่วนที่พยายามทำอย่างนั้น แต่รัฐบาลก็จะไม่ไปเล่นด้วย ทั้งนี้เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลอยู่แล้ว ที่จะไม่ให้เกิดสงครามกลางเมืองหรือความขัดแย้งที่รุนแรง และจะเห็นได้ว่า 2 เดือนที่ผ่านมาเราหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการปะทะกัน ไม่ให้เกิดความรุนแรงมาโดยตลอด ต่อข้อถามถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่าไม่ให้ประชาชนหวังพึ่งรัฐบาลชุดนี้ ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นความเห็นของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งรัฐบาลจะเดินหน้าทำงานต่อไป และที่ทำงานทั้งหมดนี้ ก็เพื่อประชาชนทุกคน ซึ่งความจริงแล้วการที่เราจะต้องได้รับความร่วมมือก็สำคัญในความสำเร็จของงาน และเมื่องานสำเร็จก็ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของรัฐบาล แต่เพื่อประชาชน
เมื่อถามว่าการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินถึงรากหญ้าโดยตรง จะเป็นปัญหาต่อการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่เป็นปัญหา ตนเชื่อว่าประชาชนมีวิจารณญาณ พูดกันตรง ๆ ประชาชนและรัฐบาลก็อยู่ประเทศไทย เพราะฉะนั้นจะทราบข้อเท็จจริงที่กำลังเกิดขึ้นที่นี้ได้เป็นอย่างดี และความจริงตนนึกว่าคนไทยก็น่าจะช่วยกัน เพราะขณะนี้ประชาชนกำลังยากลำบากจากปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะปัญหาการว่างงาน เพราะฉะนั้นทุก คนต้องมาช่วยกันสร้างความเชื่อมั่น แต่ขณะเดียวกันต้องเรียนว่าในแง่ของการพึ่งพาตนเอง ไม่ใช่เป็นเรื่องผิด แต่คงไม่ใช่หมายความว่าเป็นการปฏิเสธไม่ร่วมมือ หรือไม่รับนโยบายการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ทุกคนต้องช่วยกัน
เมื่อถามว่าถ้าเป็นไปได้จะขอร้อง พ.ต.ท. ทักษิณให้ยุติความเคลื่อนไหวได้หรือยัง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยู่ที่ตัว พ.ต.ท.ทักษิณมากกว่า ว่าจะยึดประโยชน์ของใคร ถ้ายึดประโยชน์ประเทศชาติ ก็น่าจะรู้ว่าสภาพบ้านเมืองเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องแก้ไข เมื่อถามว่าขณะที่รัฐบาลพยายามจำกัดวงความขัดแย้งให้ลดลง แต่อีกฝ่ายพยายามเติมเชื้อความขัดแย้งมากขึ้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนย้ำตลอดและย้ำต่อไปว่า ตบมือข้างเดียวไม่ดัง และรัฐบาลจะไม่เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาความขัดแย้ง และรัฐบาลได้รับคำแนะนำจากผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองตั้งแต่แรกว่า ทำงานในสภาวะอย่างนี้ต้องอดทนอดกลั้น ตนก็จะยึดแนว ทางนี้ต่อไปกับทุกฝ่ายที่เห็นแตกต่าง แต่จะไม่ยอมรับให้ใครทำผิดกฎหมาย
ที่พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อเวลา 10.50 น. นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรค แถลงข่าวถึงการลงพื้นที่ของคณะรัฐมนตรี เพื่อรับฟังปัญหาของประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมาว่า โดยภาพรวมเป็นที่น่าพอใจ แม้ว่าจะมีกลุ่มเสื้อแดงไปขัดขวาง ก็ถือว่าเป็นสีสันทางการ เมือง เป็นการแสดงออกในระบอบประชาธิปไตย ส่วนที่มีบางพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม อาทิ ใช้รอง เท้าขว้างปา เชื่อว่าหลังจากนี้สังคมจะพิจารณาได้ อย่างไรก็ตามหลังจากนี้รัฐบาลก็จะลงพื้นที่อย่างสม่ำเสมอต่อไป เพราะทุกตารางนิ้วของประเทศไทย รัฐบาลมีสิทธิที่จะลงพื้นที่ไปรับฟังปัญหาของประชาชน โดยไม่หวั่นเกรงกระแสต่อต้านหรือ เป็นพื้นที่สีแดง สีเหลือง หากเป็นประชาชนคนไทย ก็จะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม
ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เคยสบประมาทรัฐบาลว่า เด็ก 2 คนไม่สามารถแก้ไขปัญหาประเทศชาติได้ ตนขอเรียกร้องว่าให้เด็กเร่ร่อน หรือผู้ใหญ่จรจัด ละเว้นการปลุกระดมสร้างความแตกแยก หรือความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในประเทศ หากเด็กเร่ร่อน หรือ ผู้ใหญ่จรจัดคนนั้นยุติบทบาทโดยไม่มีการโฟนอินพร่ำเพรื่อ ไปยังม็อบเสื้อแดงที่มีอยู่รายสัปดาห์ จนโฟนอินไปถึงงานวัด งานแต่ง งานบวชนาค เชื่อว่าจะทำให้สถานการณ์การเมืองดีขึ้นอย่างแน่นอน เมื่อถามถึงการปฏิบัติราชการ ของนายจารุพงศ์ พลเดช ผวจ.ลพบุรี ต่อการลงพื้นที่ของ นายอภิสิทธิ์ ที่มีกลุ่มเสื้อแดงออกมาต่อต้าน นายเทพไท กล่าวว่า ถือว่าการทำงานของ นายจารุพงศ์สอบผ่าน ส่วนการที่ปล่อยให้กลุ่มเสื้อแดงเข้าไปป่วน นายกฯ ไม่ได้ติดใจอะไร
ที่ จ.พัทลุง เมื่อเวลา 09.30 น. นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเดินทางไปตรวจราชการตามนโยบายของ นายกรัฐมนตรี โดยมี นายสุเทพ โกมลภมร ผวจ.พัทลุง และ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.พัทลุง 3 คน รวมทั้งหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้การต้อนรับ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วย อปพร. กว่า 500 นาย เฝ้ารักษาความสงบเรียบร้อยตามจุดต่าง ๆ ตลอดเส้นทางที่ นายสาทิตย์ผ่าน และบริเวณโดยรอบศาลากลางจังหวัด เพื่อป้องกันเหตุความวุ่นวายจากกลุ่มเสื้อแดง แต่ปรากฏว่าไม่มีกลุ่มคนเสื้อแดงมาปรากฏตัวแต่อย่างใด
ที่ จ.กาฬสินธุ์ เมื่อเวลา 10.00 น. นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.อุตสาหกรรม เดินทางลงพื้นที่โรงสีรุ่งชัยกิจ อ.เมืองกาฬสินธุ์ โดยมี นายเสรี ทองอยู่ อุตสาหกรรมจังหวัด พร้อมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหาร อปท.เขตเมืองให้การต้อนรับ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังอย่างแน่นหนา และมีการเปลี่ยนเส้นทางอย่างกะทันหันหลายครั้ง แต่ไม่มีกลุ่มคนเสื้อแดงเข้ามาต่อต้านแต่อย่างใด
ส่วนเวลา 13.00 น. นายไพฑูรย์ แก้วทอง รมว.แรงงาน ได้เดินทางไปที่ ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา นำโดย พล.ต.ต.คณิศร น้อยนารถ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ นำตำรวจกว่า 300 นายเข้าคุมพื้นที่ แต่ไม่มีวี่แววของกลุ่มคนเสื้อแดงแต่อย่างใด
ส่วนที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดขอน แก่นหลังเก่า ติดพระธาตุขามแก่นจำลอง ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ได้มีการเปิดเวทีความจริงวันนี้ พร้อมถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์ประชาธิปไตย หรือดีทีวีสเตชั่นของ กลุ่ม นปช. นำโดย นายวีระ มุสิกพงศ์, นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ นพ.เหวง โตจิราการ เพื่อชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงภาคอีสาน 19 จังหวัด ในการขับไล่รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี คาดว่าจะมีกลุ่มคนเสื้อแดงทยอยเดินทางมาชุมนุมกว่า 3,000 คน ท่ามกลางการรักษาความสงบเรียบร้อยของตำรวจภูธรภาค 4 และ ตชด. รวม 1,365 นาย เพื่อให้การชุมนุมเป็นไปอย่างสงบปราศจากอาวุธ และการกระทำที่ผิดกฎหมาย พร้อมหน่วยแพทย์ พยาบาล เพื่อให้การดูแลผู้ชุมนุมหากมีเหตุฉุกเฉิน หรือเป็นลมเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว
บรรยากาศในที่ชุมนุม มีการตั้งเต็นท์ จัดนิทรรศการของวิทยุเสรีชน ภาพถ่ายเหตุการณ์ 7 ตุลาคม 2551 พร้อมกับการเปิดจำหน่ายเสื้อแดง ผ้าโพกหัวแดง หมวกแดงความจริงวันนี้ ตีนตบ- หัวใจตบ แผ่นซีดีพร้อมหนังสือบ้านเลขที่ 111 หนังสือการยึดอำนาจ 19 กันยายน 2549 และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของกลุ่มเสื้อแดง รวมทั้งนาฬิกาติดรูป พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สัญลักษณ์ของกลุ่มเสื้อแดงอย่างคึกคักทั่วบริเวณที่ชุมนุม และมีกลุ่มเสื้อแดงได้นำเสื้อ และหมวกแดงมาให้ นายจตุพร แกนนำเซ็นชื่อไว้เป็นที่ระลึกด้วย
ต่อมาเวลา 13.00 น. พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.ภ.4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.พัฒนี ศิริพัฒนี ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พ.ต.อ.สุจินต์ นิจพานิชย์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ได้เรียกประชุมชี้แจงนโยบายในการปฏิบัติหน้าที่ โดย พล.ต.ท. สุชาติ กล่าวว่า ตลอดการปราศรัยบนเวทีของแกนนำ รวมถึงช่วงโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้จัดเจ้าหน้าที่บันทึกภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และบันทึกเสียงตลอดรายการ หลังการชุมนุมหากตรวจสอบข้อความและภาพ รวมทั้งเสียงว่ามีช่วงใดเข้าข่ายหมิ่นประมาทบุคคล หรือเข้าข่ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพตาม ป.อาญา 112 จะรีบแจ้งผู้บังคับบัญชาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายสถานเดียว
ต่อมาเวลา 19.50 น. ขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดงได้ขึ้นเวทีปราศรัยมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ช่วงสุดท้ายนายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำได้ขึ้นปราศรัย และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก็ได้โฟนอินเข้าโทรศัพท์มือถือสายตรงกับนายวีระ ทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงต่างปรบมือ ตีตีนตบ-หัวใจตบอย่างคึกคัก โดย นายวีระ และพ.ต.ท.ทักษิณ ได้กล่าวทักทายกัน พร้อมกับ อดีตนายกฯ ได้กล่าวสวัสดีกลุ่มเสื้อแดงว่า “สวัสดีพี่น้องชาวเสื้อแดงผู้รักประชาธิปไตย” แล้วกล่าวว่า “ผมรักคนอีสานเด้อ”
จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กล่าวว่า “ขอบคุณกลุ่มเสื้อแดงที่มารวมตัวกันมาก ผมดีใจ ทำให้คิดถึงตอนที่เป็นนายกรัฐมนตรีได้ออกมาพบพี่น้องเป็นประจำ มาพบด้วยความคิดถึง อยากโทรศัพท์มาคุยด้วยเรื่อย ๆ คิดถึงที่สุดอ้างว่าเพราะเศรษฐกิจไม่ไหว ผมเคยบอกว่าสิ้นปี 2552 ภายในเวลา 3 ปีจะทำให้เศรษฐกิจดี ความยากจนหายไปจากแผ่นดิน ผมคิดว่าผมทำได้ ผมหาได้เงิน 250,000 ล้านไม่ต้องไปกู้เขา สามารถสร้างอนาคต สร้างมูลค่าให้ลูกหลาน แต่ปรากฏว่าถูกเขาไล่ออกโดยการใช้กำลังทหารใช้รถถัง เรียกว่ารัฐบาล “โจรกบฏ” คิดว่าจะจบแต่ไม่จบ เพราะออกไปในรูปใหม่ ใช้ศาลรัฐธรรมนูญปลดผมออกสายฟ้าแลบ
พันธมิตรใช้ทหารไปยึดสนามบิน แต่ตำรวจทำอะไรไม่ได้ ในที่สุดใช้ตำรวจทำอะไรไม่ได้ จนปลดรัฐบาล ให้อภิสิทธิ์ตั้งรัฐบาลใหม่ จะเรียกว่าประชาธิปไตยได้อย่างไร เพราะเป็นรัฐบาลปฏิวัติ สุดท้ายเอาทหารมากดดันเพื่อหนุนอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ เรียกรัฐบาลปฏิวัติเงียบ”
จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ได้พูดถึงความทุกข์ยากของพี่น้องประชาชน โยงไปถึงเรื่องยาเสพติดที่แพร่ระบาดอย่างหนัก เกิดหนี้นอกระบบกลับมา รัฐบาล คือ นักการเมืองและพ่อค้าได้ผลประโยชน์ ทำให้เป็นห่วง เกิดคนตกงาน บอกให้พี่น้องประชาชนเก็บหอมรอมริบ ดูแลเรื่องการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันให้ดี ส่วนเรื่องเงินทุนหมุนเวียน รัฐบาลไม่เข้าใจในการทำมาหากิน บอกพี่น้องประชาชนให้อดทน เพื่อลูกหลานและประเทศชาติ และให้พ่อแม่พูดคุยกับลูกเพื่อสร้างความเข้าใจกันในครอบครัว ไม่ต้องมีปัญหาภายใน
อดีตนายกฯ ยังกล่าวว่า ประเทศจะอยู่ไม่ได้ เพราะขาดมาตรฐาน ความยุติธรรมไม่เกิด เสื้อแดงก็เติบโตขึ้นเพราะเหตุนี้ เมื่อรัฐบาลไม่ใช้ประชาธิปไตยเสื้อแดงก็เติบโตขึ้นอีก และโตขึ้นเรื่อย ๆ และในเรื่องอุดมการณ์ เพราะอุดมการณ์หัวใจของชาติจึงจะเกิดประชาธิปไตยขึ้น แต่เมื่อไม่มีก็ไม่เกิด การใช้ชีวิตในต่างประเทศทำให้รู้สึกเหงา บอกให้หล่อหลอมการรักประชาธิปไตย และการมีหัวใจของผู้รักความยุติธรรม นั่นคือเสื้อแดงที่มีความหมายถึงเลือดเนื้อของประชาชน พ.ต.ท. ทักษิณ ได้กล่าวปิดท้าย ถึงเรื่องการถูกใส่ร้ายว่าไม่จงรักภักดีต่อเบื้องสูง ว่าตนถูกกล่าวหา ใส่ความ เพราะเป็นคนมีความจงรักภักดีทั้งส่วนตัวและครอบครัว แต่ทำให้ตนเดือดร้อนดังกล่าว
นายวีระ ได้พูดประชดเกี่ยวกับ พ.ต.ท. ทักษิณ กินนมอูฐที่ประเทศอินเดียว่า ดีกว่ากินนมบูดของรัฐบาลฯ อภิสิทธิ์ แล้วเปรียบเปรยว่า อย่าไปเชื่ออภิสิทธิ์เพราะเป็นเด็กหนีเกณฑ์ทหาร และยังกล่าวว่า จะจัดความจริงวันนี้สัญจรที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ในเร็ว ๆ วันนี้ และต้องรบกวนให้ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินเพื่อพี่น้องประชาชนต่อไป แล้วกล่าวขอบคุณพี่น้องประชาชนที่มาร่วมชุมนุมว่า ให้ทำเพื่อประชาธิปไตย เพื่อเรียกคืนความยุติธรรมกันต่อไปจนกว่าจะถึงที่สุด และพบกันใหม่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา.