ที่มา thaifreenews
โดย : NEWS
จากประชาชนไทยถึงประชาชนอังกฤษ
เนื่องในโอกาสรัฐบาลอังกฤษ ให้การต้อนรับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะในฐานะนายกรัฐมนตรี
ประชาชนชาวอังกฤษทั้งหลาย
จดหมาย นี้เขียนขึ้นเพื่อแจ้งให้ท่านทราบว่า ประชาชนไทยส่วนใหญ่ไม่ให้การรับรองฐานะนายกรัฐมนตรี ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพราะเส้นทางเข้าสู่ความเป็นนายกรัฐมนตรีของเขา ไม่เพียงขัดกับวิถีทางประชาธิปไตยเท่านั้น
แต่เขาเป็นตัวการสำคัญที่ทำลายระบอบประชาธิปไตยไทยอย่างเด่นชัด ซึ่งสามารถระบุพฤติกรรมทางการเมืองได้ดังต่อไปนี้ :-
มีนาคม 2549..........นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน
ร่วม กับเครือข่ายทางการเมืองของพวกเขาบอยคอตการเลือกตั้ง 2 เมษายน 2549,เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงรนณรงค์ให้ประชาชน โนโหวตการเลือกตั้ง, กดดันพรรคการเมืองพรรคเล็กไม่ให้สมัครรับเลือกตั้งเพื่อหวังคว่ำบาตรการ เลือกตั้ง และเปิดทางให้กับการทำรัฐประหารโดยกองทัพ
เมษายน 2549.......... เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงขอพระราชทานนายกฯคนนอกจากกษัตริย์ เพื่อแทนที่นายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้้งของประชาชน อันเป็นล้มล้างรัฐบาลจากการเลือกตั้งโดยขัดกับรัฐธรรมนูญ ขัดกับหลักการประชาธิปไตย และขัดจารีตประเพณีทางการเมืองของไทย
กันยายน 2549......... พรรคประชาธิปัตย์และเครือข่ายทางการเมืองของเขา รู้เห็นเป็นใจให้ทหารทำการรัฐประหาร เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กล่าวต่อสื่อมวลชนว่าไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร แต่เขาไม่ประณามการรัฐประหาร กลับแก้ต่างให้กับการรัฐประหารครั้งนั้นว่า "แม้ว่ารูปแบบไม่เป็นประชาธิปไตย แต่เนื้อหาเป็นประชาธิปไตย"
พฤษภาคม 2550 ตุลาการรัฐธรรมนูญ ที่แต่งตั้งขึ้นโดยคณะรัฐประหาร ได้มีคำสั่งให้ยุบพรรคไทยรักไทยจากข้อกล่าวหาว่า กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยเพียงคนเดียว ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และยังได้เพิกถอนสิทธิทางการเมืองของกรรมการการบริหารพรรคไทยรักไทยอีก 111 คน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และพรรคประชาธิปัตย์ รู้สึกยินดีอย่างออกนอกหน้าที่ตุลาการรัฐธรรมนูญช่วยกำจัดและทำลายพรรคการ เมืองคู่แข่งของตน โดยที่ไม่มีการวิจารณ์ถึงความไม่ชอบมาพากล ของกระบวนการยุติธรรมภายใต้อำนาจของคณะรัฐประหารเลยแม้แต่น้อย
ตุลาคม 2550 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พรรคประชาธิปัตย์และเครือข่ายทางการเมืองของเขาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงรณรงค์ ให้มีการรับร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ที่ร่างตามพิมพ์เขียวของคณะรัฐประหารและผู้สมคบคิด โดยมีสาระสำคัญในการทำลายหลักการประชาธิปไตย ที่ให้อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน โดยเฉพาะการที่คณะรัฐประหารเข้ามามีอิทธิพลในการแต่งตั้งสมาชิกสภาสูง ได้มากกว่ากึ่งหนึ่ง แต่กลับมีอำนาจในการโค่นล้มทำลายล้างรัฐบาลจากการเลือกตั้งของประชาชนนอกจาก นี้รัฐธรรมนูญ ฉบับนี้ยังได้บัญัติมาตรา 309 ซึ่งเป็นมาตราท้ายสุดของรัฐธรรมฉบับนี้ให้เป็นกฎหมายที่แปลกประหลาดที่สุดใน โลก และผิดหลักการของการบัญญัติกฎหมายสากลโดยสิ้นเชิง มาตรา 309 เป็นการรับรองการกระทำต่างๆและการกระทำที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำของคณะรัฐ ประหาร ทั้งในอดีต ปัจจุบันและอนาคตให้ชอบด้วยกฎหมาย
พฤษภาคม-พฤศจิกายน 2551 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ปล่อยให้นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ สส.ของพรรค และสมาชิกพรรคอีกหลายคน เป็นแกนนำของกลุ่มกดดันทางการเมืองกึ่งติดอาวุธขวาจัด คือพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก่อความไม่สงบทางการเมืองเพื่อโค่นล้ม รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของนายสมัคร สุนทรเวชและนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ด้วยการยึดสถานีโทรทัศน์ของรัฐ,ปิดล้อมที่ทำการรัฐสภา, ยึดทำเนียบรัฐบาลยาวนานกว่า 3 เดือน, ยึดสนามบินแห่งชาติทั้งดอนเมืองและสุวรรณภูมิ นายอภิสิทธิ์ ไม่เพียงแต่ปล่อยให้นักการเมืองในสังกัดของตนเองกระทำผิดกฎหมายที่ปรากฏชัด ต่อสาธารณชนเท่านั้น เขายังนำนักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ ไปเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจผู้ก่อความไม่สงบในทำเนียบที่ถูกยึดและให้ สัมภาษณ์เรียกร้องมิให้รัฐบาลผลักดันผู้ก่อความไม่สงบออกจากทำเนียบอีกด้วย
ตุลาคม 2551.......... นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ สส.สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ทุกคนพร้อมใจกันไม่เข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อรับฟังการแถลงนโยบายของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ในฐานะนายกรัฐมนตรี ในขณะที่ปล่อยให้ สส.และนักการเมืองของพรรคบางคนเป็นแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อ ประชาธิปไตยทำการปิดล้อมและยึดสภา
เพื่อขัดขวางการแถลงนโยบายของรัฐบาล
พฤศจิกายน 2551....... นายกษิต ภิรมย์ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะรัฐมนตรีเงาของพรรคร่วมกับพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตยเข้าบุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิ โดยที่นายอภิสิทธ์ มิได้ห้ามปราม นับเป็นการส่งเสริมการกระทำที่ผิดกฎหมายและมีพฤติกรรมเยี่ยงผู้ก่อการร้าย สากลที่ใช้นักท่องเที่ยวกว่า 300,000 คนเป็นตัวประกัน
ธันวาคม 2551.............. พรรคประชาธิปัตย์ โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณได้สมคบคิดกับผู้นำทหารกดดันให้ สส.ที่สังกัดพรรคพลังประชาชนและพรรคอื่นๆ กว่า 60 คน แยกตัวออกมาจากรัฐบาลผสม แล้วหันมาสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเป็นนายกรัฐมนตรี โดยที่เขาเองไม่ได้รับเลือกตั้งจากประชาชนส่วนใหญ่ให้ขึ้นสู่อำนาจแต่อย่าง ใด นับเป็นการคอรัปชั่นอำนาจอย่างไร้ยางอาย และท่ามกลางความขมขื่นเคียดแค้นของประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่ เมื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้แต่งตั้งให้นายกษิต ภิรมย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ซึ่งแสดงถึงการยอมรับพฤติกรรมการยึดสนามบินของนายกษิตว่าเป็นการกระทำที่ยอม รับได้และไม่ผิดกฎหมายในสายตาของนายอภิสิทธิ์
ทั้งหมดนี้เป็นข้อเท็จจริงทีถูกบันทึกอยู่ในข่าวหน้าหนังสือพิมพ์ตามช่วงเวลาที่ได้ระบุมาทั้งสิ้น
ด้วย ข้อเท็จจริงดังกล่าว ประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่ไม่เพียงแต่ไม่ยอมรับให้นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะเป็นนายกรัฐมนตรีที่ชอบด้วยครรลองระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น แต่นายอภิสิทธิ์ ยังเป็นตัวการสำคัญที่ทำลายระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทยอีกด้วย
ในโอกาสนี้เราอยากตั้งคำถามต่อประชาคมศิษย์เก่าของอีตันและอ๊อกฟอร์ดว่า ท่านควรภาคภูมิใจ ไว้วางใจ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะที่เป็นสมาชิกในประชาคมของท่านหรือไม่
ประชาชนชาวอังกฤษทั้งหลาย
นาย ควินตัน เควล เอกอักราชทูตอังกฤษ ประจำประเทศไทยมีสายสัมพันธ์ทีใกล้ชิดกับ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการัฐประหารและกำกับกระบวนการยุติธรรมอย่างใกล้ชิด ประชาชนไทยไม่อาจทราบได้ว่านายควินตัน เควล กระทำการใดๆ ในนามของรัฐบาลอังกฤษหรือไม่ แต่การที่เขายกเลิกวีซ่าอดีตนายกทักษิณตามอำนาจที่เขามี และเป็นตัวกลางเจรจาให้รัฐบาลอังกฤษเชิญนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะไปเยือนอังกฤษในฐานะนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยนั้นเท่ากับเป็นการ เปิดทางให้รัฐบาลอังกฤษยอมรับและให้การรับรองบุคคลที่สมคบคิดกับทหารและ เครือข่ายลัทธิอนาธิปไตยทำลายระบอบประชาธิปไตย และปฏิเสธบุคคลที่ถูกโค่นด้วยอำนาจนี้
เราเกรงว่า นายควินตัน เควล เอกอัคราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทยจะปฏิบัติภารกิจทางการทูตที่มีวาระซ่อน เร้นหรือไม่ และไม่ทราบว่าพฤติกรรมทางการทูตของนายควินตัน เควล สะท้อนเจตนารมณ์ทางประชาธิปไตยของประชาชนอังกฤษหรือไม่
จึงต้องนำข้อเท็จจริงเหล่านี้ มาบอกกล่าวต่อท่านทั้งหลายเป็นข้อมูลขั้นต้น
ประชาชน ไทยมีความผูกพันกับประชนอังกฤษและพึ่งพาอาศัยกันมาด้วยไมตรีจิตเป็นเวลาอัน ยาวนาน แต่ถ้าประชาชนไทยส่วนใหญ่ จะมีปฏิกิริยาต่อต้านรัฐบาลอังกฤษ บอยคอตสินค้าอังกฤษในไทย และมีปฏิกิริยาทางลบต่อเครือข่ายธุรกิจอังกฤษในประเทศไทยขอให้ท่านทั้งหลาย โปรดเข้าใจว่าเรามิได้กระทำไปเพราะไม่ชอบพอประชาชนชาวอังกฤษโดยรวม แต่เป็นการแสดงความไม่พอใจต่อ ท่าทีทางการทูตและท่าทีของรัฐบาลอังกฤษ อันมีนายควินตัน เควลเป็นตัวกลาง
ด้วยไมตรีจิต
ประชาชนไทย
ที่มา http://thaienews.blogspot.com/