WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, March 12, 2009

คนไทยในอังกฤษรวมพลังลุกฮือต้าน ‘มาร์คกระสัน’ ออกจดหมายเปิดผนึกประณามการ ‘ปล้นตำแหน่งนายกฯ’ ทำลายประชาธิปไตยหลายกรรมหลายวาระ จวก! ไม่ต้องมา ‘ตอแหล’ เรื

ที่มา thaifreenews

โดย : NEWS

จดหมายเปิดผนึก(ฉบับภาษาไทย)
จากประชาชนไทยถึงประชาชนอังกฤษ
เนื่องในโอกาสรัฐบาลอังกฤษ ให้การต้อนรับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะในฐานะนายกรัฐมนตรี

ประชาชนชาวอังกฤษทั้งหลาย

จดหมาย นี้เขียนขึ้นเพื่อแจ้งให้ท่านทราบว่า ประชาชนไทยส่วนใหญ่ไม่ให้การรับรองฐานะนายกรัฐมนตรี ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพราะเส้นทางเข้าสู่ความเป็นนายกรัฐมนตรีของเขา ไม่เพียงขัดกับวิถีทางประชาธิปไตยเท่านั้น
แต่เขาเป็นตัวการสำคัญที่ทำลายระบอบประชาธิปไตยไทยอย่างเด่นชัด ซึ่งสามารถระบุพฤติกรรมทางการเมืองได้ดังต่อไปนี้ :-

มีนาคม 2549..........นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน
ร่วม กับเครือข่ายทางการเมืองของพวกเขาบอยคอตการเลือกตั้ง 2 เมษายน 2549,เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงรนณรงค์ให้ประชาชน โนโหวตการเลือกตั้ง, กดดันพรรคการเมืองพรรคเล็กไม่ให้สมัครรับเลือกตั้งเพื่อหวังคว่ำบาตรการ เลือกตั้ง และเปิดทางให้กับการทำรัฐประหารโดยกองทัพ

เมษายน 2549.......... เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงขอพระราชทานนายกฯคนนอกจากกษัตริย์ เพื่อแทนที่นายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้้งของประชาชน อันเป็นล้มล้างรัฐบาลจากการเลือกตั้งโดยขัดกับรัฐธรรมนูญ ขัดกับหลักการประชาธิปไตย และขัดจารีตประเพณีทางการเมืองของไทย


กันยายน 2549......... พรรคประชาธิปัตย์และเครือข่ายทางการเมืองของเขา รู้เห็นเป็นใจให้ทหารทำการรัฐประหาร เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กล่าวต่อสื่อมวลชนว่าไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร แต่เขาไม่ประณามการรัฐประหาร กลับแก้ต่างให้กับการรัฐประหารครั้งนั้นว่า "แม้ว่ารูปแบบไม่เป็นประชาธิปไตย แต่เนื้อหาเป็นประชาธิปไตย"


พฤษภาคม 2550 ตุลาการรัฐธรรมนูญ ที่แต่งตั้งขึ้นโดยคณะรัฐประหาร ได้มีคำสั่งให้ยุบพรรคไทยรักไทยจากข้อกล่าวหาว่า กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยเพียงคนเดียว ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และยังได้เพิกถอนสิทธิทางการเมืองของกรรมการการบริหารพรรคไทยรักไทยอีก 111 คน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และพรรคประชาธิปัตย์ รู้สึกยินดีอย่างออกนอกหน้าที่ตุลาการรัฐธรรมนูญช่วยกำจัดและทำลายพรรคการ เมืองคู่แข่งของตน โดยที่ไม่มีการวิจารณ์ถึงความไม่ชอบมาพากล ของกระบวนการยุติธรรมภายใต้อำนาจของคณะรัฐประหารเลยแม้แต่น้อย

ตุลาคม 2550 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พรรคประชาธิปัตย์และเครือข่ายทางการเมืองของเขาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงรณรงค์ ให้มีการรับร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ที่ร่างตามพิมพ์เขียวของคณะรัฐประหารและผู้สมคบคิด โดยมีสาระสำคัญในการทำลายหลักการประชาธิปไตย ที่ให้อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน โดยเฉพาะการที่คณะรัฐประหารเข้ามามีอิทธิพลในการแต่งตั้งสมาชิกสภาสูง ได้มากกว่ากึ่งหนึ่ง แต่กลับมีอำนาจในการโค่นล้มทำลายล้างรัฐบาลจากการเลือกตั้งของประชาชนนอกจาก นี้รัฐธรรมนูญ ฉบับนี้ยังได้บัญัติมาตรา 309 ซึ่งเป็นมาตราท้ายสุดของรัฐธรรมฉบับนี้ให้เป็นกฎหมายที่แปลกประหลาดที่สุดใน โลก และผิดหลักการของการบัญญัติกฎหมายสากลโดยสิ้นเชิง มาตรา 309 เป็นการรับรองการกระทำต่างๆและการกระทำที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำของคณะรัฐ ประหาร ทั้งในอดีต ปัจจุบันและอนาคตให้ชอบด้วยกฎหมาย

พฤษภาคม-พฤศจิกายน 2551 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ปล่อยให้นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ สส.ของพรรค และสมาชิกพรรคอีกหลายคน เป็นแกนนำของกลุ่มกดดันทางการเมืองกึ่งติดอาวุธขวาจัด คือพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก่อความไม่สงบทางการเมืองเพื่อโค่นล้ม รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของนายสมัคร สุนทรเวชและนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ด้วยการยึดสถานีโทรทัศน์ของรัฐ,ปิดล้อมที่ทำการรัฐสภา, ยึดทำเนียบรัฐบาลยาวนานกว่า 3 เดือน, ยึดสนามบินแห่งชาติทั้งดอนเมืองและสุวรรณภูมิ นายอภิสิทธิ์ ไม่เพียงแต่ปล่อยให้นักการเมืองในสังกัดของตนเองกระทำผิดกฎหมายที่ปรากฏชัด ต่อสาธารณชนเท่านั้น เขายังนำนักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ ไปเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจผู้ก่อความไม่สงบในทำเนียบที่ถูกยึดและให้ สัมภาษณ์เรียกร้องมิให้รัฐบาลผลักดันผู้ก่อความไม่สงบออกจากทำเนียบอีกด้วย

ตุลาคม 2551.......... นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ สส.สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ทุกคนพร้อมใจกันไม่เข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อรับฟังการแถลงนโยบายของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ในฐานะนายกรัฐมนตรี ในขณะที่ปล่อยให้ สส.และนักการเมืองของพรรคบางคนเป็นแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อ ประชาธิปไตยทำการปิดล้อมและยึดสภา
เพื่อขัดขวางการแถลงนโยบายของรัฐบาล

พฤศจิกายน 2551....... นายกษิต ภิรมย์ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะรัฐมนตรีเงาของพรรคร่วมกับพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตยเข้าบุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิ โดยที่นายอภิสิทธ์ มิได้ห้ามปราม นับเป็นการส่งเสริมการกระทำที่ผิดกฎหมายและมีพฤติกรรมเยี่ยงผู้ก่อการร้าย สากลที่ใช้นักท่องเที่ยวกว่า 300,000 คนเป็นตัวประกัน

ธันวาคม 2551.............. พรรคประชาธิปัตย์ โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณได้สมคบคิดกับผู้นำทหารกดดันให้ สส.ที่สังกัดพรรคพลังประชาชนและพรรคอื่นๆ กว่า 60 คน แยกตัวออกมาจากรัฐบาลผสม แล้วหันมาสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเป็นนายกรัฐมนตรี โดยที่เขาเองไม่ได้รับเลือกตั้งจากประชาชนส่วนใหญ่ให้ขึ้นสู่อำนาจแต่อย่าง ใด นับเป็นการคอรัปชั่นอำนาจอย่างไร้ยางอาย และท่ามกลางความขมขื่นเคียดแค้นของประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่ เมื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้แต่งตั้งให้นายกษิต ภิรมย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ซึ่งแสดงถึงการยอมรับพฤติกรรมการยึดสนามบินของนายกษิตว่าเป็นการกระทำที่ยอม รับได้และไม่ผิดกฎหมายในสายตาของนายอภิสิทธิ์

ทั้งหมดนี้เป็นข้อเท็จจริงทีถูกบันทึกอยู่ในข่าวหน้าหนังสือพิมพ์ตามช่วงเวลาที่ได้ระบุมาทั้งสิ้น

ด้วย ข้อเท็จจริงดังกล่าว ประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่ไม่เพียงแต่ไม่ยอมรับให้นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะเป็นนายกรัฐมนตรีที่ชอบด้วยครรลองระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น แต่นายอภิสิทธิ์ ยังเป็นตัวการสำคัญที่ทำลายระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทยอีกด้วย

ในโอกาสนี้เราอยากตั้งคำถามต่อประชาคมศิษย์เก่าของอีตันและอ๊อกฟอร์ดว่า ท่านควรภาคภูมิใจ ไว้วางใจ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะที่เป็นสมาชิกในประชาคมของท่านหรือไม่


ประชาชนชาวอังกฤษทั้งหลาย

นาย ควินตัน เควล เอกอักราชทูตอังกฤษ ประจำประเทศไทยมีสายสัมพันธ์ทีใกล้ชิดกับ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการัฐประหารและกำกับกระบวนการยุติธรรมอย่างใกล้ชิด ประชาชนไทยไม่อาจทราบได้ว่านายควินตัน เควล กระทำการใดๆ ในนามของรัฐบาลอังกฤษหรือไม่ แต่การที่เขายกเลิกวีซ่าอดีตนายกทักษิณตามอำนาจที่เขามี และเป็นตัวกลางเจรจาให้รัฐบาลอังกฤษเชิญนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะไปเยือนอังกฤษในฐานะนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยนั้นเท่ากับเป็นการ เปิดทางให้รัฐบาลอังกฤษยอมรับและให้การรับรองบุคคลที่สมคบคิดกับทหารและ เครือข่ายลัทธิอนาธิปไตยทำลายระบอบประชาธิปไตย และปฏิเสธบุคคลที่ถูกโค่นด้วยอำนาจนี้

เราเกรงว่า นายควินตัน เควล เอกอัคราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทยจะปฏิบัติภารกิจทางการทูตที่มีวาระซ่อน เร้นหรือไม่ และไม่ทราบว่าพฤติกรรมทางการทูตของนายควินตัน เควล สะท้อนเจตนารมณ์ทางประชาธิปไตยของประชาชนอังกฤษหรือไม่

จึงต้องนำข้อเท็จจริงเหล่านี้ มาบอกกล่าวต่อท่านทั้งหลายเป็นข้อมูลขั้นต้น


ประชาชน ไทยมีความผูกพันกับประชนอังกฤษและพึ่งพาอาศัยกันมาด้วยไมตรีจิตเป็นเวลาอัน ยาวนาน แต่ถ้าประชาชนไทยส่วนใหญ่ จะมีปฏิกิริยาต่อต้านรัฐบาลอังกฤษ บอยคอตสินค้าอังกฤษในไทย และมีปฏิกิริยาทางลบต่อเครือข่ายธุรกิจอังกฤษในประเทศไทยขอให้ท่านทั้งหลาย โปรดเข้าใจว่าเรามิได้กระทำไปเพราะไม่ชอบพอประชาชนชาวอังกฤษโดยรวม แต่เป็นการแสดงความไม่พอใจต่อ ท่าทีทางการทูตและท่าทีของรัฐบาลอังกฤษ อันมีนายควินตัน เควลเป็นตัวกลาง

ด้วยไมตรีจิต
ประชาชนไทย


ที่มา http://thaienews.blogspot.com/