ที่ จ.ขอนแก่น บริเวณริมถนนหน้าศาลากลางจังหวัดกลุ่ม นปช.จัดกิจกรรม “แดงทั่วแผ่นดินสัญจร ครั้งที่ 1” มีกลุ่มคนเสื้อแดงและสมาชิก นปช.นับพันคนทั้งในจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียงทยอยเดินทางมาจับจองพื้นที่ตั้งแต่เช้าเพื่อรอร่วมกิจกรรมในช่วงเย็น ขณะเดียวกันกลุ่มการ์ด นปช.นำแผงเหล็กเครื่องกั้นและยางรถยนต์มาวางปิดถนนบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดเป็นระยะทางกว่า 700 เมตร เพื่อตั้งเวทีปราศรัยขนาดใหญ่ ตรงข้ามสำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 4 และเพื่อป้องกันการก่อกวนของกลุ่มพันธมิตรฯและมือที่ 3 ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ขอนแก่นกว่า 1,500 นาย ต่อมาในช่วงบ่ายแกนนำนปช.ประกอบด้วยนายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท นายมานิตย์ จิตจันทร์กลับ นายชินวัฒน์ หาบุญพาด และนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ พร้อมใจกันประกอบพิธีสักการะบูชาจตุคามรามเทพ บูรพคณาจารย์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำ จ.ขอนแก่น เพื่อให้กิจกรรมแดงทั่วแผ่นดินสัญจรเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ก่อนเปิดเวทีปราศรัยอย่างเป็นทางการในเวลา 15.00 น.
นัดปิดล้อมทำเนียบฯไม่ชนะไม่เลิก
กระทั่งเวลาประมาณ 16.30 น. เกิดเหตุวุ่นวายบริเวณด้านหลังเวทีปราศรัย เมื่อมีชายฉกรรจ์คนหนึ่งทราบชื่อภายหลังว่าชื่อนายลพ พูลวิเชียร อ้างตัวว่าเป็นสมาชิกกลุ่มชมรมคนรักอุดร พกอาวุธมีดเข้ามาก่อกวนบริเวณด้านหลังเวทีปราศรัย ท่ามกลางความตกตะลึงของประชาชน และการ์ด นปช.ที่พยายามจะเข้าไปควบคุมสถานการณ์ ก่อนที่จะส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ควบคุมตัวไปดำเนินคดี
นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. กล่าวบนเวทีว่า ที่มาจัดชุมนุมที่ขอนแก่นเป็นจังหวัดแรก เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศจะมาตายที่ภาคอีสาน จากนั้นกลุ่ม นปช.จะไปเปิดเวทีที่จ.พระนครศรีอยุธยา ในวันที่ 14 มี.ค. จ.จันทบุรี วันที่ 15 มี.ค. จ.เชียงราย วันที่ 21 มี.ค. และวันที่ 22 มี.ค. จะจัดเวทีที่ จ.เชียงใหม่ ก่อนที่จะไปชุมนุมใหญ่ขับไล่รัฐบาล โดยจะนำประชาชนไปปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลให้ล้นไปถึงถนนราชดำเนิน และจะปักหลักเป็นแรมเดือน ไม่ชนะไม่เลิกรา ขึ้นอยู่กับหัวใจของคนเสื้อแดงทั่วประเทศว่าจะพร้อมขับไล่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์หรือไม่
“ทักษิณ” โฟนอินอ้อนคิดถึงเสื้อแดง
ต่อมาเวลา 20.00 น. ก็ถึงช่วงสำคัญของการจัดงาน เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินขณะอยู่บนเครื่องบินเข้ามาที่โทรศัพท์มือถือของนายวีระ มุสิกพงศ์ โดยกล่าวว่า สวัสดีครับพี่น้องชาวเสื้อแดงที่รักประชาธิปไตยทุกท่าน คิดฮอดหลายเด้อ ได้ข่าวว่าพี่น้องชาวเสื้อแดงภาคอีสานมารวมตัวกันที่นี่เป็นจำนวนมาก และนายวีระอยากให้ตนพูดกับพี่น้อง ก็ดีใจ และหลายคนบอกว่าให้โทรศัพท์มาหาพี่น้องประชาชนเรื่อยๆ ก็ขอบอกว่าคิดถึงตอนที่ทำหน้าที่นายกฯกับหน้าที่หัวหน้าพรรคได้ออกมาพบพี่น้องประชาชนเป็นประจำ แต่ตอนนี้ไม่ได้มาพบก็คิดถึงพี่น้อง อยากโทร.มาคุยเรื่อยๆ อยู่ที่ไหน กี่คน ก็โทร.คุยทั้งนั้น เพราะคิดถึงพี่น้องประชาชนของตนเหมือนกัน
โอ่ไม่ต้องกู้เงินก็แก้เศรษฐกิจได้
พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ยามนี้ที่คิดถึงที่สุดคือเศรษฐกิจไม่ไหว พี่น้องจำได้หรือไม่ที่ตนเคยบอกว่า สิ้นปี 2552 จะทำให้ความยากจนหายไปจากแผ่นดินไทย วันนั้นคิดว่าทำได้ กะใช้เงิน 2.5 แสนล้านบาท ที่ตนหาได้โดยไม่ต้องไปกู้เขาด้วย ตั้งใจว่าเงิน 2.5 แสนล้านบาทนี้สามารถสร้างงาน สร้างอนาคต สร้างโอกาสให้กับประชาชน เงินก้อนนี้จะสามารถให้ความชัดเจนไปได้ 3 ปี ที่พูดไปตอนนั้นเข้าใจว่าพูดเมื่อปี 2549 แต่ปรากฏว่าถูกไล่ออกไปโดยใช้กำลังทหาร ใช้รถถังที่เป็นเงินภาษีประชาชนมาไล่ ก็คือการปฏิวัติ เรานึกว่าจบตอนนั้น แต่ไม่จบ ออกมาในปฏิรูปแบบใหม่ ใช้ศาลรัฐธรรมนูญปฏิวัติ ปลดนายสมัคร สุนทรเวช ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยใช้พจนานุกรมแทนที่จะใช้กฎหมาย ปลดนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ออกจากนายกฯแบบสายฟ้าแลบ ใช้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคพลังประชาชน แล้วก็ใช้พันธมิตรฯโดยเอาทหารปนเข้าไปยึดสนามบิน ใช้ทหารออกไปปราบก็ไม่ยอมปราบ ผลสุดท้ายใช้ตำรวจ ก็ทำอะไรไม่ได้ และในที่สุดรีบยุบพรรคแล้วปลดรัฐบาล และดึงคนออกไป เอาทหารไปกดดันให้ไปตั้งรัฐบาลใหม่ ให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ อย่างนี้เรียกว่าประชาธิปไตยหรือเปล่า เรียกว่ารัฐบาลปฏิวัติเงียบ อันนี้ที่บอกว่ายังเป็นกบฏอยู่
ค้านแจกเงิน-แนะสร้างงาน
พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า เศรษฐกิจโลกกำลังลำบาก คนไทยกำลังจับจ่าย สินค้าเกษตรไม่ได้ราคา และที่มีปัญหาเรื่องสินค้าเกษตรครั้งแล้วครั้งเล่า พี่น้องเชื่อหรือไม่ว่าพ่อค้าใหญ่หลอกนักการเมือง นักการเมืองก็เชื่อ ไปประกันตามแนวนั้น สุดท้ายใช้เงินภาษีเยอะแยะ พ่อค้าได้ประโยชน์นักการเมืองได้ประโยชน์ แต่เกษตรกรได้ไม่มาก นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นและเกิดขึ้นทุกปี ตนเป็นห่วง อยากให้ พี่น้องเก็บหอมรอมริบ การใช้จ่ายต้องระวัง ต่อไปเงินทองจะหายากขึ้น หากตอนนี้ตนเป็นนายกฯอยู่ ไม่กู้แน่ และต้องเอาเงินลงสู่ระบบหลายแสนล้านบาทเพื่อสร้างงาน ไม่ใช่เอามาแจก เพราะเอามาแจกไม่ช่วยอะไร ใช้หมดก็หมดไป แต่การเอาโอทอปมาให้ประชาชน เอางานเอาช่องทางทำมาหากินมาให้ เอาเงินทุนหมุนเวียนมาให้ ประชาชนจะอยู่ได้ยั่งยืนกว่า การบริโภคต้องเกิดจากการทำมาหาได้ ไม่ใช่เกิดจากการไปยืมมาแล้วเอามาแจกให้ใช้ นี่คือสิ่งที่รัฐบาลยังไม่เข้าใจ คาดว่าเศรษฐกิจจะลำบากไปอีกพักใหญ่ๆ ขอให้พี่น้องอดทนและเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน ลูกหลานติดยาขึ้นมาพ่อแม่ต้องพยายามพูดคุยกับเขา หาทางแก้ไข
โวยิ่งกดดันเสื้อแดงยิ่งโต
ขณะที่นายวีระกล่าวเสริมขึ้นว่า แม้เขาจะแจกเงินชนิดที่เรียกว่า ไม่ต้องดู ไม่มีแผนการ ไม่มีโครงการอะไร แจกเช็ค 2 พันบาท ปรากฏว่ารัฐมนตรีไปไหนก็มีแต่คนไล่ เสื้อแดงไล่และขว้าง พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า ก็คงอยู่กันยาก หากวันนี้ไทยยังมี 2 มาตรฐาน ฝ่ายหนึ่งตัดสินใจก็ผิด อีกฝ่ายฆ่าคนตายก็ถูก อยู่ไม่ได้ 2 มาตรฐานความเป็นธรรมในสังคมไม่เกิด เสื้อแดงก็ต้องโตขึ้นเรื่อยๆ ประชาธิปไตยจะไม่เกิด รัฐบาลไม่ใช้ประชาชนตั้ง กลับใช้ทหารตั้ง เสื้อแดงก็โตขึ้นอีก ตั้งข้อหาผู้ที่สนับสนุนเสื้อแดงหรือเกี่ยวข้องเสื้อแดงมากเท่าไหร่ เสื้อแดงก็โตขึ้นเรื่อยๆ โตขึ้นอีก ฉะนั้นวันนี้ฝากว่าคนเสื้อแดงหลายจังหวัดมีความขัดแย้งกัน มีผู้นำหลายกลุ่มอยากบอกว่าอุดมการณ์เป็นเรื่องสำคัญ เรามารวมกันเพราะมีอุดมการณ์ หัวใจเดียวกัน คืออยากเห็นประชาธิปไตยเกิดขึ้นในไทย อยากเล่นการเมืองก็ออกมาเล่น
ปลุกกระแสสามัคคียึดอุดมการณ์
พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ตราบใดที่ความยุติธรรมไม่เกิดขึ้นในประเทศไทย พวกเราต้องรวมตัวกัน ตอนนี้จังหวัดไหนไม่ถูกกันบ้างก็ไม่เป็นไร แต่เมื่อถึงเวลาเรารวมกันด้วยอุดมการณ์ เมื่อนั้นที่เราจะปกป้องพวกเรา สีแดงหมายถึงเลือดเนื้อเชื้อไขที่หล่อหลอมกันเป็นประเทศไทย เพราะฉะนั้นเราต้องรวมพลังกันต่อสู้กับสิ่งไม่ถูกต้อง เพื่อนำมาซึ่งความสันติ ความยิ่งใหญ่ของประเทศไทย และความผาสุกของประชาชน
ย้ำถูกปรักปรำไม่จงรักภักดี
“พี่น้องครับผมถูกกล่าวหา ที่ผมถูกออกมาคำเดียวเลยว่าผมไม่จงรักภักดี คำเดียวเท่านั้น และป่วนทั้งประเทศ ทุกฝ่ายไล่ล่าผมทุกอย่าง เพราะไปเชื่อว่าผมไม่จงรักภักดี พี่น้องครับ ตลอดชีวิตมาผมทำงานเป็นตำรวจเป็นนักเรียนนายร้อย เป็นนักเรียนเตรียมทหาร ผมมีความจงรักภักดีอยู่เต็มร้อย แต่ผมเป็นคนชอบทำงานบ้างาน ใครกล่าวหาอะไรไม่มีเวลาแก้ตัว ในที่สุดมันสะสม จนกลายเป็นความโกหก ผมขอยืนยันอีกครั้งว่าผมไม่ใช่เป็นคนไม่จงรักภักดี ผมถูกกล่าวหา แต่การกล่าวหาผมนั้นไม่เป็นไรเฉพาะตัวผม แต่ตอนนี้ประชาชาติทั้งชาติล่มจม” อดีตนายกฯกล่าวและว่า ถ้าสิ่งเหล่านี้เป็นสมมติฐานที่ผิด ถ้าสมมติฐานไม่กลับมาถูกต้องเมื่อไหร่ สิ่งที่ทำมันก็ผิดต่อไป และหากพี่น้องเข้าใจ เรายึดมั่นในเรื่องของประชาธิปไตยเข้าไว้ หากระบอบประชาธิปไตยเกิดขึ้น ระบอบความเป็นธรรมอย่างแท้จริง เมื่อนั้นประเทศไม่ยุ่งแล้วครับ ทุกวันนี้พยายามใช้กระบวนยุติธรรมให้เสียหาย ให้วุ่นวายทั้งประเทศ พี่น้องอดทนอีกนิด แต่วันนี้อดทนมากเป็นพิเศษ
หวังกลับมาทำประโยชน์ให้ประเทศ
พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวด้วยว่า เดินทางรอบโลกศึกษาไปเรื่อย เห็นหมดอะไรเป็นอะไร เห็นประเทศที่สามารถทำนรกให้เป็นสวรรค์ และเห็นประเทศที่ทำสวรรค์ให้เป็นนรก ทั้งหมดอยู่ที่การเมือง เพราะเรามีเสาหลักอยู่ 3 เสาคือเสาหลักทางการเมือง เสาหลักทางเศรษฐกิจ และเสาหลักทางสังคม ถ้าการเมืองเน่า ไม่เป็นประชาธิปไตย ก็ไม่สามารถสร้างความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจได้ เมื่อเศรษฐกิจ ล้ม สังคมก็ล้มแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของครอบครัว ชุมชน การศึกษา ปัญหายาเสพติด ปัญหาโจรผู้ร้าย ล้มแน่นอน ฉะนั้นวันนี้ที่พี่น้องรวมพลังตรงนี้ เพื่อส่งสัญญาณให้รู้ว่าไปทำการเมืองให้ถูกต้อง ทำให้บ้านเมืองเกิดความยุติธรรม เอาประชาธิปไตยคืนเรา ถ้าอย่างนี้เศรษฐกิจที่ว่ายากก็จะแก้ได้ง่าย แล้วในที่สุดความมั่งคั่งกลับคืน สังคมสันติ อนาคตลูกหลานจะดี อยากฝากพี่น้องว่า ระหว่างที่ตนออกมาได้ศึกษาวิจัยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ เศรษฐกิจ สังคม การเมือง ศึกษาทั้งหมด เอาไว้เผื่อกลับไปแล้วจะได้ทำประโยชน์ให้ประเทศ ไทยอีกครั้ง หากพี่น้องต้องการ
เปรียบตัวเองเป็นหมาบ้านเชื่องๆ
เมื่อถึงตอนนี้นายวีระกล่าวขึ้นว่า มีปัญหา 2 ประการ คือได้ซึมซับความรู้สึกประชาชนทุกแห่งที่เดินทางไป ประชาชนเห็นตรงกันว่าใครที่จงรักภักดีที่แท้จริงแล้วจะไม่นำเอาสถาบันที่ผู้คนเคารพนับถือมาสาดโคลนป้ายสีและใส่ร้ายผู้อื่นเป็นอันขาด ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ตั้งแต่ปฏิวัติมานี้ดูสิว่ามีอะไรดีขึ้นบ้างในบ้านเมือง ไม่ว่าจะเรื่องความสามัคคีของคนในชาติ เรื่องเศรษฐกิจ ความเชื่อถือของต่างชาติ ที่สำคัญสถาบันพระมหากษัตริย์ เรื่องของการดูหมิ่นไม่เคยมีอะไรรุนแรงเท่านี้ เพราะทุกคนรักพระเจ้าอยู่หัว รักสถาบัน แต่การที่ปฏิวัติโดยคณะปฏิวัติที่ไร้บารมี แล้วไปแอบอ้างสถาบันตั้งแต่วันแรกที่ปฏิวัติ นี่แหละที่ทำให้สถาบันเปลี่ยนไป พี่น้องครับจะเปรียบเทียบตัวเองให้ฟังว่าตนเหมือนหมาบ้านที่เชื่องอยู่แล้ว ไล่เข้าป่า ถ้าให้กลับมาอีกมันก็เชื่องอีก เพราะเป็นหมาบ้าน แต่ถ้าเอาหมาป่ามาเลี้ยง อย่าหวังว่าจะเชื่อง เลี้ยงยังไงก็ไม่เชื่อง
เผยชีวิตพเนจรต้องกินเนื้ออูฐ
จากนั้นนายวีระได้สอบถามถึงสุขภาพ พ.ต.ท. ทักษิณกล่าวว่า โดยทั่วไปดี แต่บางทีก็เหงาบ้าง เพราะต้องร่อนเร่พเนจร เวลามีข่าวประเทศไทยก็คิดถึงบ้าน คิดถึงสิ่งที่เคยทำมา อย่างการไปอยู่กับประชาชนในต่างจังหวัดมีความสุขมาก ไปนั่งกินปั้นข้าวเหนียว มันเป็นชีวิต แต่วันนี้บางครั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมแปลกๆ ต่างกันไป บางครั้งอยู่เมืองแขกก็ต้องกินเนื้ออูฐที่ไม่เคยกิน แต่เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม เนื้ออูฐไม่มีคอเลสเทอรอล เนื้อนุ่ม แต่อยู่ที่ปรุง นมอูฐก็กิน นมม้าก็กิน เพราะเขาเอามาให้กิน แต่นมบูดไม่กิน ปลากระป๋องเน่าไม่เคยกิน ต้องถามชาวอุบลราชธานี
“บิ๊กบัง” รับดูลู่ทางเล่นการเมือง
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช. ให้สัมภาษณ์ชีวิตความเป็นอยู่ในปัจจุบันว่า ขณะนี้กำลังเรียนต่อ ว่างๆก็ออกกำลังกายเล่นกีฬา ผู้สื่อข่าวถามว่าสนใจการเมืองบ้างหรือไม่ พล.อ.สนธิตอบว่า ก็สนใจอยู่ ตอนนี้กำลังดูอยู่เหมือนกัน
สุพรรณฯคึกคักพันธมิตรฯปราศรัย
ทางด้านการชุมนุมของมวลชนกลุ่มต่างๆนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลาประชาคม 2 อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนำโดย พล.ต. จำลอง ศรีเมือง เปิดเวทีปราศรัยโดยใช้ชื่อว่า “เวทีพลเมืองเสวนาและคอนเสิร์ตเปิดเวทีประชาชนคนสุพรรณ บทกวีอาหารและการเมือง” บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 5 พันคน ในงานนอกจากจะมีการปราศรัยทางการเมืองแล้ว ยังมีการแสดงดนตรีและตั้งเต็นท์แจกอาหารอาทิ ก๋วยเตี๋ยว หอยทอด ให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมกินฟรี ส่วนการรักษาความปลอดภัย พ.ต.อ.ไชยรัตน์ ทิพยจันทร์ รอง ผบก.ภ.จ.สุพรรณบุรี กล่าวว่า ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.สามชุกจำนวน 150 นาย คอยดูแลความเรียบร้อย นอกจากนี้ได้เตรียมกำลังตำรวจจาก 10 โรงพักในจังหวัดอีก 300 นาย คอยเตรียมการไว้หาก เกิดเหตุขึ้น