ยุทธศาสตร์ดาวกระจายที่นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สั่งให้รัฐมนตรีทุกคน แยกกันลงพื้นที่พบประชาชนพร้อมกันทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย ก็ผ่านไปด้วยดี
ถึงแม้หลายพื้นที่จะมีกลุ่มเสื้อแดงไปชุมนุมขับไล่ก็ไม่ได้เกิดเหตุรุนแรง ไม่มีเลือดตกยางออก ไม่มีบาดเจ็บล้มตาย ไม่ต้องใช้กำลังสลายการชุมนุม
“แม่ลูกจันทร์” เห็นว่ารัฐบาลซึ่งมีภารกิจ แก้ปัญหาประชาชนต้องสามารถเดินทางไปได้ทุกพื้นที่ ทุกจังหวัด ทุกอำเภอทั่วประเทศไทย
ถึงแม้จะถูกม็อบต่อต้านบ้างก็ต้องอดทน ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่รัฐบาลต้องเจอ
แต่เรื่องไม่ปกติที่รัฐบาลต้องเจอเป็น ประจำก็คือโรคสภาล่มนี่แหละโยม
ความจริงรัฐบาลได้วางมาตรการป้องกันสภาล่มซํ้าซากด้วยการให้วิปรัฐบาลแบ่งกันควบคุม ส.ส.ในอัตราส่วนวิป 1 คนต่อ ส.ส. 5 คน
พร้อมกำชับรัฐมนตรีทุกคนที่เป็น ส.ส. ให้เข้าประชุมสภาฯอย่างพร้อมเพรียง
มาตรการนี้แก้ปัญหาสภาล่มได้แค่ ชั่วคราว แต่สุดท้ายก็เข้าอีหรอบเดิม
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรสัปดาห์ ก่อนก็เกิดเหตุสภาล่มซํ้าซาก เนื่องจากมี ส.ส. ในที่ประชุมไม่ครบกึ่งหนึ่งตามกติกา
นี่คือสัญญาณอันตรายที่รัฐบาลต้องแก้ไขโดยเร็ว!!
เพราะถ้าขืนปล่อยให้โรคสภาล่มซํ้าซาก ก็เท่ากับรัฐบาลเปิดช่องให้ฝ่ายค้านเจาะยาง??
ที่น่าตกใจคือ โรคสภาล่มได้ระบาดจากสภาผู้แทนฯลามไปถึงวุฒิสภา จนต้อง ปิดประชุมกลางคัน
เนื่องจากมี ส.ว.อยู่ในห้องประชุมแค่ 66 คน จากทั้งหมด 149 คน
แถมล่มในช่วงที่วุฒิสภาพิจารณาเรื่องสำคัญคือ โหวตแต่งตั้ง กทช. ซึ่งต้องใช้เสียง ส.ว. ให้ความเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่งของ ส.ว.ทั้งสภาฯ
แสดงว่า ส.ว.เลือกตั้งและ ส.ว.ลากตั้งก็โดดร่มเก่งพอกัน
“แม่ลูกจันทร์” เห็นว่าปัญหาสภาล่ม ทั้งสภาล่าง สภาบน สะท้อนให้เห็นถึงความไม่รับผิดชอบของ ส.ส. และ ส.ว.
แต่ ส.ว.ควรถูกตำหนิมากกว่า ส.ส. เพราะ ส.ส.ประชุมสัปดาห์ละ 2 วัน ส่วน ส.ว.ประชุมสัปดาห์ละวันเดียว
แค่สัปดาห์ละครั้งเดียว จะเข้าประชุม ให้พร้อมหน้าพร้อมตากันหน่อยไม่ได้ เรอะไง??
เพราะวุฒิสภาไม่ใช่มีหน้าที่กลั่นกรองร่างกฎหมายอย่างเดียว
วุฒิสภายังมีอำนาจตรวจสอบการทำงาน ของรัฐบาล ถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
และมีอำนาจพิเศษคือ แต่งตั้งองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ
อย่างกรณีที่คณะกรรมการ กกต.ต้องว่าง ไป 1 คน เนื่องจาก “สุเมธ อุปนิสากร” อายุครบ 70 ปี
การจะแต่งตั้งใครเป็น กกต.คนใหม่ ก็ เป็นอำนาจของวุฒิสภา
ล่าสุด วุฒิสภาได้เริ่มเดินหน้าสรรหา กกต.ใหม่เพิ่มอีก 1 คน เพื่อเสียบแทนตำแหน่งที่ว่างลง
โดยจะใช้วิธีตั้งคณะกรรมการสรรหา ตามมาตรา 231 ของรัฐธรรมนูญ
“แม่ลูกจันทร์” ยังไม่แน่ใจว่าการที่ วุฒิสภาจะเดินหน้าสรรหา กกต.ใหม่เพิ่มให้ ครบ 5 คน จะถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ??
เพราะ กกต.ชุดปัจจุบันไม่ได้ผ่านกระบวนการสรรหาปกติตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ
ในเมื่อยังมี กกต.อีก 4 คน ที่มาด้วยวิธี ไม่ปกติ คือมาจากการแต่งตั้งของประธาน คมช. ก็ต้องปล่อยให้ กกต.ทั้ง 4 คน ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจบครบเทอม
เมื่อ กกต.ชุดปัจจุบันพ้นไปแล้วจึงเริ่ม เข้าสู่กระบวนการสรรหาตามรัฐธรรมนูญต่อไป
สรุปว่าการให้ กกต.เก่า 4 คน ที่แต่งตั้งโดยประธาน คมช. ทำงานร่วมกับ กกต.ใหม่ 1 คน ที่ผ่านการสรรหาตามรัฐธรรมนูญไม่น่าจะถูกหลักการ
เพราะที่มาที่ไปแตกต่างกัน การเข้า การออกก็คนละประตู
ถ้าไม่แน่ใจควรให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ.
แม่ลูกจันทร์