47 ไม่ใช่เลขเด็ดของอาจารย์ดัง ไม่ได้บอกใบ้ให้แทงหวย
แต่เป็นตัวเลขสวยๆที่ล่าสุดคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ได้มอบอำนาจให้ทีมทนายความขนเอกสารกว่า 40 ลัง เดินทางเข้ายื่นสำนวนคำฟ้องพร้อมพยานหลักฐานในคดีการออกสลากพิเศษ 3 ตัวและ 2 ตัว หรือหวยบนดิน
ส่งฟ้องผู้ถูกกล่าวหาประกอบด้วย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมพวกอดีตรัฐมนตรี ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล รวม 47 คน ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ตั้งแท่นชงข้อหาหนัก ยักยอกเงินหลวงกว่า 36,000 ล้านบาท
ก่อนอื่นเลย ถือเป็นปฏิบัติการหักหน้าอัยการสูงสุดที่ตีกลับสำนวนคดีหวยบนดินให้ คตส.ไปสอบเพิ่มเติมใน 5 ประเด็นก่อนหน้านี้
งัดข้อกันอยู่พักใหญ่ ก่อนที่ คตส.จะเดินหน้าฟ้องเอง
และน่าจะเป็นอะไรที่แว่วข่าวล่วงหน้า “ลุงหมัก” พูดออกอากาศในรายการ “สนทนาประสาสมัคร” ช่วงสายวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
“ก็หวยมันอยู่ที่คนเขาเล่นกันอย่างนั้น คนแทงกันตั้งแต่เศษสตางค์กันมา เสร็จแล้วหวยก็มาพัฒนามีลอตเตอรี่ขึ้น ก็เอาเบอร์ท้ายลอตเตอรี่มาเป็นหวยใต้ดิน รัฐบาลก็คิดดีเอามาไว้บนดิน แทนที่จะให้จบเรียบร้อย เกือบจะติดตะรางกันทั้งคณะ
ไปๆมาๆออกกฎหมายมาออกได้อีกแล้ว ตกลงจะติดตะรางทั้งคณะหรือไม่ ยังไม่ ทราบได้ แต่ว่ามีกฎหมายผ่านออกมาว่าทำได้ กำลังตรวจสอบอยู่ แต่ว่าถ้าไม่ผ่านอันนี้ก็ต้องยกเลิก ลอตเตอรี่ก็ต้องเลิก เล่นไม่ได้หรอก ผิดกฎหมายกันอย่างนี้ ลอตเตอรี่ที่ออก 40 ล้านฉบับก็ต้องยกเลิก”
หวยบนดินผิดกฎหมาย ก็ต้องเลิกลอตเตอรี่
ล็อกคอเป็นตัวประกัน
โดยลีลาวัดใจคอหวยที่มีอยู่ครึ่งค่อนเมือง อ้างอิงประวัติศาสตร์ที่ “ลุงหมัก” ย้อนอดีตเล่าความหลัง “อบายมุขกับคนไทยเกิดมาผมก็เจอแล้ว ที่สามยอดแต่ก่อนมีรถราง หน้าห้างเซ่งจง ก่อนถึงประตูสามยอด เขาเรียกว่าโรงหวย รถรางถึงตรงนั้นก็บอกว่าโรงหวยๆสามยอด ออกหวยที่นั่น และคนไทยตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ก็เล่นหวยกันมา”
ถึงคราวจะต้องเลิก ถ้าบทสรุปคดีหวยบนดินผิดกฎหมาย แม้แต่ลอตเตอรี่ก็เล่นไม่ได้
คนไทยที่ชอบเสี่ยงโชคในสายเลือดมีหวังลงแดงตาย
ใครจะโดนชาวบ้านด่า ลองเดาดู
ไหนๆเขาจะล่อกันด้วยอบายมุขแล้ว จากหวยร้อนๆถึงเหล้าอุ่นๆ
มาได้เวลาพอดิบพอดี กับคิวที่นางวิมลวรรณ อุดมพร ประธานสมาพันธ์ช่วยภาครัฐลดปัญหาแอลกอฮอล์และคณะ ได้เข้าพบนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล ร้องเรียนถึงผลกระทบอันเนื่องมาจากการประกาศบังคับใช้พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกออฮอล์ พ.ศ.2551
ทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยเดือดร้อน
โดยเฉพาะผู้ผลิตไวน์ผลไม้โอทอป ที่ช่องทางการจำหน่ายหลักคือการออกงานแสดงสินค้าโอทอปที่จัดว่าเป็นการเร่ขาย และผู้บริโภคต้องได้ชิมไวน์ มิฉะนั้น ผู้บริโภคก็จะไม่ซื้อสินค้า ซึ่งเข้าข่ายการแจกแถม
ผิดกฎหมายมาตรา 30 ของ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
โดยลำดับความสำคัญของปัญหาน่าจะอยู่ลำดับท้ายๆ แต่ได้รับคิวให้เข้าพบนายกรัฐมนตรี ตรงนี้ก็น่าเอะใจแล้ว
แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่า “ลุงหมัก” ฟังแล้วพยักหน้าหงึกๆ เด้งรับลูกทันที
รับปากจะนำเข้าหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 11 มีนาคมนี้ เพราะถือเป็นปัญหาแง่กฎหมายที่มีการออกกฎหมายในสิ่งที่ปฏิบัติไม่ได้แล้วทำให้สังคมเดือดร้อน จึงต้องมีการช่วยแก้ไขให้ปฏิบัติได้
นายกฯตั้งแท่นรื้อกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
และถ้ายังจำได้ก่อนหน้านี้ ช่วงที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาผ่านกฎหมายฉบับดังกล่าว ก็มีเสียงโวยวายจากบริษัทผู้ผลิตน้ำเมาด้วยกันว่า เอื้อประโยชน์ให้เหล้าขาวในเครือข่ายเจ้าสัวใหญ่ที่เป็นสปอนเซอร์หลักฝ่ายโค่นอำนาจ “ทักษิณ”
โดยเกมก็น่าเร้าใจ ศึกอบายมุข
หวยกับเหล้า แลกกันคนละดอก.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
คอลัมน์ ข่าวการเมือง(วิเคราะห์)