ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง วันที่ 11 มี.ค.51 ว่า นายทองหล่อ โฉมงาม ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดา ฯ อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา เป็นจำเลยที่ 1-2 ได้มีคำสั่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องต่อศาลเมื่อวันที่ 10 มี.ค. เรื่องขออนุญาตเดินทางออกนอกราชอาญาจักร หลังเสร็จสิ้นการสอบคำให้การในวันที่ 12 มี.ค.นี้ โดยในคำร้อง ระบุว่า จำเลยที่ 1 มีภารกิจต้องเดินทางไปยังประเทศอังกฤษ เพื่อบริหารงานสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี้ รวมทั้งยังมีภารกิจที่ต้องเดินทางไปประเทศอื่นๆ ด้วย ซึ่งจะเริ่มเดินทางตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค. - 10 เม.ย. นี้
นายทองหล่อ โฉมงาม ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนพิจารณาแล้ว อนุญาตให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางออกนอกราชอาณาจักรได้ตามระยะเวลาที่ระบุใน คำร้อง และมีคำสั่งให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องกลับมารายงานตัวต่อศาลฎีกาฯในวันที่ 11 เม.ย.นี้
ด้าน นายพิชิฏ ชื่นบาน ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่าไม่สามารถะบุถึงรายละเอียดในคำร้องได้ เพราะคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ซึ่งมีความละเอียดอ่อน แต่ตนขอยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางไปศาลฎีกาฯเพื่อสอบคำให้การ วันที่ 12 มี.ค. เวลา 09.30 น. อย่างแน่นอน
ส่วนการยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตสืบพยานลับหลัง พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ด้วยหรือไม่นั้น ขอให้รอฟังการพิจารณา วันที่ 12 มี.ค.นี้
นายนันทศักดิ์ พูลสุข อธิบดีอัยการฝ่ายคดีศาลสูง เขต 8 หนึ่งในคณะทำงานอัยการรับผิดชอบคดีนี้ กล่าวถึงการสอบคำให้การ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ศาลจะอ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยฟัง ซึ่งความผิดที่อัยการยื่นฟ้องมี 2 ข้อหา คือเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ป.ป.ช. ให้ความยินยอมคู่สมรสทำสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐ และเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ กำกับ ดูแล กิจการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันการเงิน เข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อประโยชน์ตัวเอง หรือผู้อื่น ตามความผิด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152 และ 157 ที่มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี โดยคำฟ้องระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ในฐานะเป็นตัวการ โดยมีคุณหญิงพจมาน คู่สมรส เป็นผู้สนับสนุน ซึ่งเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คงจะให้การปฏิเสธเหมือนเช่นเดียวกับคุณหญิงพจมาน และคาดว่าศาลจะกำหนดตรวจสอบพยานหลักฐานวันที่ 29-30 เม.ย.เช่นกัน
นายนันทศักดิ์ กล่าวด้วยว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ จำเลยที่ 1 จะยื่นคำร้องขอให้ศาลอนุญาตสืบพยานลับหลังจำเลย ก็สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 172 ทวิ บัญญัติว่าภายหลังที่ศาลสอบคำให้การจำเลยแล้ว เมื่อศาลเห็นว่าเป็นการสมควรเพื่อให้การพิจารณาเป็นไปโดยรวดเร็วไม่ชักช้า ศาลมีอำนาจพิจารณาและสืบพยานลับหลังจำเลยได้ ตาม (1) ในคดีที่มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงไม่เกิน 10 ปี โดยฐานความผิดที่ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ มีอัตราโทษตั้งแต่ 1 -10 ปี ทั้งนี้หากจำเลยยื่นคำร้องที่จะสละสิทธิ์การเดินทางมาศาลเพื่อฟังการสืบพยาน ก็เป็นสิทธิของจำเลย แต่การขอสืบพยานลับหลังดังกล่าวอาจทำให้จำเลยเองที่จะเสียโอกาสในการรับฟังรายละเอียดคำเบิกความพยานโจทก์ที่จำเลยจะต้องคัดค้าน
ส่วนประเด็นที่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะขอลี้ภัยในต่างประเทศนั้น คงทำไม่ได้ เพราะผู้ที่จะขอลี้ภัยจะต้องเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเท่านั้น แต่เวลานี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ดำรงตำแหน่งใด ๆ ทางการเมืองแล้ว จึงไม่เข้าเงื่อนไขในการขอลี้ภัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 12 มี.ค. เวลา 09.30 น. ศาลฎีกา ฯ ได้นัดพิจารณาคดีครั้งแรก เพื่อสอบคำให้การ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งก่อนหน้านี้ศาลสอบคำให้การคุณหญิงพจมาน ไปแล้วเมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยคุณหญิงพจมาน ให้การปฏิเสธทั้ง 2 ข้อหา ฐานเป็นคู่สมรส หรือมีส่วนได้ส่วนเสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐ ที่เจ้าหน้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบ หรือดำเนินการ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 100 และฐานเป็นผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 152 และ157 ศาลฎีกา ฯ จึงนัดตรวจสอบพยานหลักฐานคดีวันที่ 29 -30 เม.ย. เวลา 10.00 น
เพื่อไทย
Tuesday, March 11, 2008
ศาลอนุญาต‘ทักษิณ'ไปตปท.-สั่งรายงานตัว 11 เม.ย.
จาก hi-thaksin