วันนี้ (11 มี.ค.) นายอุดม เฟื่องฟุ้ง คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัว 2 ตัว (หวยบนดิน) กล่าวถึงการยื่นเรื่องส่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่า หากศาลไม่รับ เหมือนกับการยกฟ้อง และไม่ถือว่า คตส.เสียหน้า ซึ่งต้องเข้าใจกระบวนการยุติธรรม แต่ละขั้นแต่ละตอนจะอิสระจากกัน ไม่ว่ากระบวนการยุติธรรมธรรมดา หรือกระบวนการยุติธรรมระบบไต่สวน
"คตส.มีอิสระในการทำหน้าที่ อัยการ หรือศาลก็มีอิสระในการทำหน้าที่ แต่ทุกอย่างจะไปจบที่คำพิพากษาของศาล" นายอุดม กล่าว และว่า คตส.มีอำนาจสั่งฟ้องได้ ไม่มีทางเป็นอย่างอื่น เพราะกฎหมายกำหนดมีหลักเกณฑ์แน่นอน
ด้านนายสัก กอแสงเรือง โฆษก คตส. กล่าวถึงอำนาจ คตส.ว่า คตส.ได้พิจารณาอย่างละเอียดแล้ว คดีของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นวิธีไต่สวน ไม่ใช่ระบบกล่าวหา ในกฎหมายกำหนดว่า กรณีป.ป.ช.ก็ดี หรือ คตส.ก็ดี ส่งสำนวนไปแล้ว อัยการสูงสุดต้องฟ้องภายใน 30 วัน หากเห็นว่า มีข้อไม่สมบูรณ์ก็ต้องแจ้งกลับมา ตั้งคณะทำงานร่วมกัน ฝ่ายละ 5 คน คณะทำงานต้องประชุมหาข้อยุติในข้อไม่สมบูรณ์นั้น ถ้าภายใน 14 วัน หาข้อยุติในการฟ้องคดีไม่ได้ ให้ป.ป.ช.หรือ คตส.ฟ้องดำเนินคดีเองได้ แต่งตั้งทนายความฟ้องคดีเองได้ นี่คือข้อกฎหมายในระบบไต่สวนของคดีอาญาของนักการเมือง อัยการสูงสุดไม่มีอำนาจสั่งสอบเพิ่มเติมเหมือนกับการสั่งพนักงานสอบสวน สอบพยานเพิ่มเติม อัยการสูงสุดไม่มีอำนาจสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องในคดีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ส่วนนี้เป็นความเห็นในระบบกฎหมายที่แตกต่างกัน