เมื่อวานนี้ ครม.หมัก 1 คงทำคลอดออกมาเรียบร้อยแล้ว มาตรการลดภาษีกระตุ้นเศรษฐกิจ ของ “หมอเลี้ยบ” นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯและรัฐมนตรีคลัง ที่เสนอให้ลดหย่อนภาษีมากมาย เพื่อเพิ่มรายได้ประชาชนและกระตุ้นการลงทุนในภาคเอกชน
นโยบายเพิ่มเงินในกระเป๋าของประชาชนทั้งประเทศอย่างนี้ เป็นนโยบายที่ผมเห็นด้วยและสนับสนุนมานานแล้ว ผมเขียนกระทุ้งมาทุกรัฐบาล เป็นมาตรการที่ผมเห็นว่า กระตุ้นเศรษฐกิจได้มากกว่าการลดดอกเบี้ยของแบงก์ชาติเสียอีก
เมื่อวานนี้เหมือนกัน ผู้นำโสมขาวคนใหม่ ประธานาธิบดี ลี เมียง มัค ก็ประกาศ ลดภาษีน้ำมันลงมาร้อยละ 10 เพื่อลดต้นทุนและกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศที่ตกต่ำ รวมทั้งมาตรการทางภาษีอื่นในการช่วยเหลือภาคเอกชน เช่น คงอัตราค่าไฟฟ้าและค่าสาธารณูปโภคต่างๆ ไปจนถึงการลดค่าเล่าเรียนของสถาบันการศึกษาภาคเอกชน เป็นต้น
มันเป็น “หน้าที่ของรัฐบาล” ที่จะต้อง “ขาดทุน” เพื่อทำ “กำไร” ให้กับประชาชนและภาคเอกชน เมื่อประชาชนรวย บริษัทเอกชนรวย ประเทศก็รวย เพราะเก็บภาษีได้มากขึ้นเป็นเงาตามตัว
ผมชอบใจ “นโยบาย 747” ของผู้นำโสมขาวคนใหม่ ฟังดูง่ายแต่ท้าทายดี คือ จะทำให้เศรษฐกิจเกาหลีใต้ขยายตัวร้อยละ 7 ในช่วง 5 ปีที่ดำรงตำแหน่งเพิ่มรายได้ของคนเกาหลีใต้เป็นหัวละ 40,000 ดอลลาร์ (1.3 ล้านบาท) ต่อปี ภายใน 10 ปี และผลักดันให้เศรษฐกิจเกาหลีใต้ใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลก
เขียนถึงผู้นำประเทศที่มีวิชั่นกว้างไกลแล้ว ผมก็ออกไปไกลทุกที กลับมาที่มาตรการลดภาษีกระตุ้นเศรษฐกิจของ “หมอเลี้ยบ” รัฐมนตรีคลังกันดีกว่าครับ
หมอเลี้ยบบอกว่า การเพิ่มค่าลดหย่อนทางภาษี โดยเฉพาะกับประชาชนระดับฐานราก เพื่อให้มีเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวันมากขึ้น จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในการใช้จ่ายของประชาชน และรัฐบาลก็จะได้ภาษีมูลค่าเพิ่มมาชดเชยรายได้ ที่ลดลงจากการลดภาษีให้ประชาชน
นี่คือ การคิดที่ใช้ “ประชาชนเป็นศูนย์กลาง” อย่างแท้จริง
ถ้ามาตรการลดภาษีกระตุ้นเศรษฐกิจของหมอเลี้ยบไม่ถูกใครขัดคอใน ครม.แล้ว มนุษย์เงินเดือน ทั้งหลายจะได้ลดหย่อนเพิ่มขึ้นมากมายดังนี้
หนึ่งคนมีเงินเดือน เดือนละ 12,500 บาท ไม่ต้องเสียภาษีแม้แต่ สตางค์เดียว
สองเพิ่มลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิตจาก 5 หมื่นเป็น 1 แสนบาท
สามเพิ่มลดหย่อนค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพจาก 3 แสนบาทเป็น 5 แสนบาท เป็นต้น
ในภาคธุรกิจ นอกจากลดภาษีเงินได้นิติบุคคลในตลาดหลักทรัพย์แล้ว บริษัทนอกตลาดที่ซื้อเครื่องจักรประหยัดพลังงานก่อน 31 ธันวาคม 2553 จะได้รับยกเว้นภาษีร้อยละ 25 บริษัทที่ซื้อเครื่องจักรอุปกรณ์ผลิตสินค้าโปรแกรมคอมพิวเตอร์ใหม่ จะหักค่าเสื่อมราคาได้ร้อยละ 40 ของมูลค่า ไปจนถึงการลดภาษีธุรกิจเฉพาะและลดค่าธรรมเนียมการโอนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้วย
ก็เป็นมาตรการที่ครอบคลุมหลายด้านใช้ได้เลยทีเดียว
ผมดีใจที่รัฐมนตรีคลัง นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี มองเห็นโครงสร้างเศรษฐกิจที่บิดเบี้ยวของไทย ซึ่งโตโดยพึ่งการส่งออกถึงร้อยละ 70 ถือว่าขาเป๋ไปแล้ว ทำให้เศรษฐกิจไทยขาดความสมดุล รัฐบาลที่ผ่านมาก็ดีใจกับตัวเลขการส่งออกที่เพิ่มขึ้น โดยไม่สนใจคนไทยในประเทศที่แย่กันหมด เศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นถึงได้ ถดถอยอย่างที่เห็น
วันนี้ผมว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องหันมา กระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ กันอย่างจริงจังเสียที เพิ่มจีดีพีในประเทศเพื่อสร้างสมดุลให้เกิดขึ้น ทดแทนการส่งออกที่อนาคตเริ่มไม่สดใส เพราะเศรษฐกิจสหรัฐฯส่อแววถดถอยชัดเจนแล้ว
คนไทยรวย ประเทศไทยก็รวย ดีกว่าต่างชาติรวย แล้วคนไทยจน ประเทศไทยจนแน่นอนครับ.
“ลม เปลี่ยนทิศ”
คอลัมน์ หมายเหตุประเทศไทย