WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, March 5, 2008

ลี เ ดี ย Who are you?

ศัตรูที่น่ากลัวสุด คือ คนที่อยู่ใกล้ตัวเรามากที่สุด!!! นอกจาก คุณหญิงอ้อ-พจมาน ชินวัตร แล้ว ผู้หญิงอีกคนที่พยายามบอกกับสังคมไทยว่า...เธอใกล้ชิดสุดๆ กับ อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ประหนึ่งเป็น “พ่อคนที่ 2” ก็คือ... ลีเดีย หรือ ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา มีคนส่วนน้อยในสังคมไทย ที่พอจะรู้ว่า...ครอบครัวชินวัตร สนิทมากๆ กับ ครอบครัววิสุทธิธาดา พ่อของลีเดีย...นายไชยยันต์ วิสุทธิธาดา ก็คือนักธุรกิจสนามกอล์ฟ แถมยังเป็นอุปนายกสมาคมกอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย ที่มีนายกฯ คนปัจจุบันชื่อ...

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร บางส่วนของพ็อกเก็ตบุ๊ก ชื่อ ทักษิณ : WHERE ARE YOU? ที่ “หมวดเจี๊ยบ” ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต เขียนพาดพิงถึงความสัมพันธ์ระหว่าง...ลีเดีย กับ ครอบครัวชินวัตร เมื่อกลางปี 2550โดยเฉพาะภาพประกอบเรื่อง ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยืนกอดลีเดีย สร้างความสนใจให้กับสังคมไทยเป็นอย่างมาก!!! หลายคนอดสงสัยถึงความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งระหว่าง “พ่อคนที่ 2” กับ “ลูกสาว” นอกครอบครัว คนนี้ว่า...มันพัฒนาไปอยู่ในระดับใดแล้ว???

กระทั่ง ลีเดีย ต้องออกพ็อกเกตบุ๊ก ที่ชื่อ Lydia Here I am! มาแก้ข่าวในเวลาไม่ถึง 2 เดือน...นับจากนั้นกลยุทธ์นี้...ไม่เพียงจะทำให้ Lydia Here I am! ขายดิบขายดี แต่ยังทำให้ชื่อเสียงและผลงานเพลง ในฐานะ นักร้องสาวสไตล์อาร์แอนด์บี โด่งดังพอๆ กับที่สังคมไทยได้รับรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่าง...ครอบครัวทั้งสอง

และระหว่าง...พ.ต.ท.ทักษิณ กับลีเดียยามนั้น อาจมีคนบางส่วนอดคิดไม่ได้ว่า...ลีเดีย ฉวยโอกาสทางการตลาด ด้วยการอาศัยความ “ป๊อปปูลาร์” ของ พ.ต.ท.ทักษิณ สร้างชื่อเสียงและโอกาสทางธุรกิจให้กับตัวเอง!!! แต่เพราะคนส่วนใหญ่ยังเชื่อในความเป็น “เด็กไร้เดียงสา” ของลีเดีย จึงไม่ได้มองว่า...การทำของ ลีเดีย มีวาระซ่อนเร้นอะไร...แฝงอยู่???

เรื่องความสัมพันธ์ ระหว่าง...ตัวบุคคลและครอบครัวทั้งสอง ก็น่าจะจบลงตรงนั้นถ้า...ลีเดีย ไม่ออกมาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ภายหลังลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ว. บริเวณหน่วยเลือกตั้งที่ 1 ซอยสุคนธสวัสดิ์ ย่านเกษตร-นวมินทร์ เมื่อช่วงสายของวันที่ 2 มี.ค.ว่า...เธอมีโปรแกรม “ตีกอล์ฟ” กับอดีตนายกฯ พร้อมครอบครัวไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น กลับมีคนเห็น ลีเดีย พร้อมด้วย โอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร และเพื่อนร่วมก๊วน เดินทางไปช้อปปิ้งที่ตลาดนัดสวนจตุจักร

ลีเดียไม่ได้ออกรอบ “ตีกอล์ฟ” กับ พ.ต.ท.ทักษิณแล้วเธอให้สัมภาษณ์เป็นวรรคเป็นเวรอย่างนั้นได้อย่างไร???ลีเดีย ต้องการแค่โปรโมตงานเพลงชุดใหม่ล่าสุด ที่ชื่อ Moving On หรือต้องการจะโปรโมตตัวเองหรืออยากจะสื่อให้คนในสังคมไทยได้รับรู้ว่า...เธอคนนี้...นึกจะอาศัยผู้สื่อข่าว...สร้างข่าว สร้างภาพ ถึงความสัมพันธ์กับคนระดับ “อดีตผู้นำประเทศ” ก็สามารถจะกระทำได้ง่ายๆ โดยไม่สนใจและรับรู้ว่า...ภาพลักษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเป็นอย่างไร???

คิดหรือไม่ว่า...ภาพที่คนทั่วโลกเห็น...พ.ต.ท.ทักษิณ “กราบดิน” เมื่อครั้งเหยียบเท้าลงบนผืนดินไทย เมื่อวันที่ 28 ก.พ.นั้นมันถูกลบล้าง เพราะการกระทำของ “ลูกสาว” นอกครอบครัว อย่างสิ้นเชิง!!!“บางกอกทูเดย์” ถึงได้บอกว่า...ศัตรูที่น่ากลัวสุด คือ คนที่อยู่ใกล้ตัวเรามากที่สุด และ คนใกล้ตัวที่น่ากลัวสุด ก็คือผู้หญิงที่อยู่ใกล้ตัวที่สุด นั่นเองวันนี้...นอกจาก คุณหญิงพจมาน และลูกสาวแท้ๆ “พิณทองทาและแพทองธาร” รวมถึง น้องสาวร่วมสายโลหิตแล้ว

ยังจะมี...เด็กสาว ที่ทั้งชีวิตคลุกคลีอยู่กับสังคมตะวันตก ตั้งแต่เรียนโรงเรียนนานาชาติในไทย และอาศัยในแถบเดียวกับ “ไฮโซต่างชาติ” ทั้งนักการทูต นายแบงก์ นักธุรกิจ ย่านปากเกร็ด นนทบุรี กระทั่ง เดินทางไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น สหรัฐอเมริกา ที่ชื่อ...ลีเดีย อยู่อีกคนลีเดีย ผู้หญิงที่ใกล้ตัว พ.ต.ท.ทักษิณ นอกเหนือจากครอบครัวชินวัตรถึงตรงนี้ สังคมไทยคงพอเข้าใจได้ว่า...เหตุใด “โฆษกส่วนตัว” ของ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่าง น.ส.ศันสนีย์ นาคพงษ์ จึงต้องออกมาให้สัมภาษณ์ทำนอง “ตัดไฟต้นลม” เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ว่า...

พ.ต.ท.ทักษิณ จะขอเก็บตัวเงียบ เพราะไม่ต้องการ “ตกเป็นข่าว” ใดๆ จนกว่าจะถึงวันที่ศาลอาญานัดไต่สวนคดีทุจริตที่ดินรัชดา!!!ส่วนจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ ลีเดีย พาดพิงถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่???เป็นเรื่องที่สุดจะคาดเดาได้เพราะก่อนหน้านี้ “พ.ต.ท.ทักษิณ” ก็บอกแล้วว่า...ไม่มีโปรแกรมจะออกรอบ “ตีกอล์ฟ” กับ ลีเดีย รวมถึงไม่ต้องการจะตัวให้ “โดดเด่น” ระหว่างที่อยู่ในเมืองไทย

บรรทัดนี้ “บางกอกทูเดย์” ก็ต้องบอกว่า...ถูกต้องแล้วที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะ “ยุติ” การตกเป็นข่าวตามสื่อแขนงต่างๆ เพราะไม่เช่นนั้น ชะตากรรมของ อดีตนายกฯ คนนี้ อาจเลวร้ายกว่าที่หลายคนคาดคิดเอาไว้ เพียงเพราะ “หลวมตัว” ไปคบกับ “เด็กสร้างเรื่อง” คนนั้น
ลีเดียWho are you?ก่อนจะเป็น ‘Lydia’ วันนี้

ลีเดีย (Lydia) มีชื่อจริงว่า ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา เกิดวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ.2530 เป็นนักร้องหญิงสไตล์ R & B เจ้าของเพลงฮิต “ว่างแล้วช่วยโทรกลับ”
คำว่า “Lydia” มีที่มาจากภาษาโปแลนด์ ซึ่งทั้งชื่อจริงและชื่อเล่นมีความหมายเดียวกันว่า “ความสำเร็จ”

ประวัติ

“ลีเดีย” เป็นบุตรสาวของ นายไชยยันต์ วิสุทธิธาดา นักธุรกิจสนามกอล์ฟและอุปนายกสมาคมกอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย กับ นางศันสนีย์ วนะไชยเกียรติ มีน้องสาวชื่อ ศรัณย์พร วิสุทธิธาดา (ดั๊กกี้)

เริ่มเรียนร้องเพลงแนว R & B ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ กับ ครูวสันต์ เกษแก้ว (ซึ่งเคยเป็นครูสอนร้องเพลงให้กับ ปาน ธนพร) โดยมีศิลปินที่เป็นแรงบันดาลใจในการเรียนแนว R & B คือ บียอนเซ่, เจนนิเฟอร์ โลเปซ, คริสติน่า อากีเลร่า, มารายห์ แครีย์ และ บริทนีย์ สเปียร์ส นอกจากรักการร้องเพลงแล้ว ลีเดียยังสามารถเล่นเครื่องดนตรีได้หลายชิ้น อาทิ เปียโน, ฟลุต และ แซกโซโฟน นอกจากนี้ ยังสามารถพูดได้ถึง 3 ภาษา คือ ไทย, English และ Spanish

ในเรื่องการเรียน ลีเดียก็ทำได้ดี โดยได้เกรดเฉลี่ยตลอดช่วงการเรียนของไฮสคูล 3.9 (Honor Roll Student : 3.9 GPA and above) และสามารถสอบเข้าเรียนต่อได้ที่ “มหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น” ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 11 ในสหรัฐอเมริกา โดยเลือกเรียนใน สาขา Biological Sciences และ Business Institutions และยังชอบทำกิจกรรมของโรงเรียน มีเครดิตเป็น Vice President (Student Government) และ National Honor society of Secondary Schools

ส่วนกีฬา ลีเดียก็มีความสามารถทางด้านกอล์ฟ โดยเริ่มเล่นตั้งแต่อายุ 14 ปี และได้เป็นตัวแทนเยาวชนหญิงเข้าแข่งขันกอล์ฟรายการต่างๆ อาทิ
Asia Pacific Junior Golf Tournament Championship (อันดับที่ 11)
Thailand International Junior Golf Championships (รองแชมป์)
Nike (Thailand) Junior Golf Tournaments (แชมป์และรองแชมป์)
Nivea Invitation (รองแชมป์)

นอกจากนี้ ลีเดียยังมีพรสวรรค์ทางด้าน “ศิลปะ” โดยเฉพาะการวาดภาพแรเงาและการใช้เทคนิคแบบ “Stippling” (การวาดภาพโดยใช้หมึกจุดแทนเส้น) อีกด้วย
ปี 2549 “ลีเดีย” ถูกเสนอเข้าชิงรางวัล “เอ็มทีวี เอเชีย อวอร์ดส สาขาศิลปินยอดนิยมประเทศไทย” แต่พ่ายให้กับ “ทาทา ยัง” ซึ่งกำลังแรงมากๆ ในขณะนั้น
จากนั้น ชื่อเสียงของ “ลีเดีย” ก็ไม่เคยจางหายไปจากแวดวงบันเทิง กระทั่ง เกิดประเด็นที่ว่า “ลีเดีย” ไปสนิทสนมกับครอบครัว ชินวัตร โดยช่วงแรกเธอตกเป็นข่าวกับ โอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร ก่อน ซึ่งหลายคนก็วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา จนมีบางคนแอบวิพากษ์วิจารณ์ว่า สัมพันธ์ที่เธอสนิทสนมกับอดีตนายกฯ อย่างลึกซึ้ง มากเกินกว่าคำว่า “พ่อ-ลูก” บ้างบางกระแสก็ลือว่า บ้านลีเดียมีปัญหาทางการเงิน เลยจำเป็นต้องให้ลูกสาวมา “ขัดดอก” ทว่า “ลีเดีย” ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

ด้าน “แมทธิว ดีน” แฟนหนุ่ม ก็ออกมายืนยันหนักแน่นเช่นกันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างอดีตนายกฯ กับลีเดีย เป็นสัมพันธ์ที่บริสุทธิ์ อีกทั้ง ตนเองก็เชื่อใจลีเดียเกินร้อยแม้เรื่องราวความกดดัน ความสัมพันธ์ระหว่างอดีตนายกฯ ทักษิณกับลีเดียจะ “เคลียร์” ไปในระดับหนึ่ง แต่ก็มีบางคนที่ยัง “คาใจ”จนวันที่ 6 กันยายน พ.ศ.2550 เวลา 14.00 น. ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ “ลีเดีย” ได้เปิดตัวพ็อกเกตบุ๊กระบายความอัดอั้นตันใจในกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ โดยมีชื่อเก๋ว่า “Lydia Here I am!”

นักร้องสาวยอมรับว่า ชื่อหนังสือฟังแล้วอาจจะคล้ายกับพ็อกเกตบุ๊กของ “หมวดเจี๊ยบ” ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภัควัต “ทักษิณ : WHERE ARE YOU?” แต่เนื้อหานั้นรับรองว่าแตกต่างกัน ใช้ระยะเวลาในการถ่ายทอด รวบรวม ตีพิมพ์ เพียงแค่ 1 เดือนเท่านั้น

“การที่เดียไม่ออกมาเปิดปากให้สัมภาษณ์ในช่วงที่เกิดข่าว เพราะว่าตกใจและคิดว่าตอนนั้นหากพูดอะไรไปก็คงไม่มีใครเชื่อหรอก แต่เรื่องจริงแล้วเดียอยากบอกว่า มันไม่ได้เป็นอย่างที่ใครคิด ใครเข้าใจ เดียรักท่านเหมือนกับเป็นพ่อคนที่ 2 ของเดียค่ะ

วัตถุประสงค์ที่ออกมาเขียนพ็อกเกตบุ๊กเล่มดังกล่าวนี้ เพื่อระบายความอัดอั้นตันใจ เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เดียตลอดจนครอบครัวถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์โจมตีอย่างที่ไม่สามารถตอบโต้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของซี้ต่างวัยที่ใครๆ มองว่าไม่ใช่ซี้แบบญาติ หากแต่ซี้แบบเป็นกิ๊ก ตลอดจนถึงกระแสที่ครอบครัวของเดียมีหนี้สินจนต้องเอาเดียไปขัดดอก” ลีเดีย ยืนยันอย่างเจ็บใจ

“ที่บ้านทำธุรกิจแต่ไม่ได้เป็นหนี้เป็นสินจนถึงขั้นต้องเอาเดียไปขัดดอกกับใครหรอก ฟังกระแสข่าวทำนองนี้เดียยอมรับว่าเสียใจนะคะ ทำไมเหรอ การที่เราจะคบกับใครสักคนในฐานะเพื่อนสนิท มันเป็นสิทธิส่วนบุคคล มันเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับการเมือง เดียไม่เคยไปรับรู้เรื่องการเมืองของท่าน แค่เราทั้ง 2 ครอบครัวเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเท่านั้น”

จากนั้น นักร้องสาวยังบรรยายความรู้สึกในเหตุการณ์ต่างๆ อย่างอัดอั้น ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่เกิดวิกฤติ ที่เธอบอกว่าครอบครัวกำลังนั่งทานข้าวกับอดีตนายกฯ ตลอดจนความลับที่ว่าอดีตนายกฯ เคยให้สัมภาษณ์กับหนังสือของหมวดเจี๊ยบว่าเป็นสะใภ้ในฝัน ถ้าไม่ได้เป็นลูกสะใภ้ก็ขอให้เป็นลูกบุญธรรม ซึ่งตรงนี้ลีเดียประทับใจมากๆ ตลอดจนที่มาที่ไป ความรู้สึกที่ได้เดินทางไปร้องเพลงเปิดตัวที่สโมสรฟุตบอล ซึ่งตรงนั้นส่งผลให้ชื่อเสียงของเธอเป็นที่รู้จักในสื่อเทศมากขึ้น จนถึงเรื่องของการที่อดีตนายกฯ โทรมาแซวเรื่องพ่อแม่ใส่เสื้อทีมฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้

“เดียสงสารและเห็นใจท่าน เพราะเป็นคนดีและให้เกียรติครอบครัวของเดีย กับเรื่องที่เกิดขึ้นรู้สึกสงสารท่าน ส่วนภาพถ่ายและเนื้อหาในหนังสือ “ทักษิณ : WHERE ARE YOU?” นั้นได้อ่านแล้วค่ะ เดียและครอบครัวเป็นคนส่งภาพนั้นไปให้หมวดเจี๊ยบเอง หมวดเจี๊ยบเขาเขียนหนังสือได้ดีมาก ซึ่งเนื้อหาในหนังสือเล่มนั้นท่านบอกว่า เดียเป็นสะใภ้ในฝัน เป็นซี้ต่างวัยของท่าน ยังบอกอีกว่าท่านรักลีเดียเหมือนกับเป็นลูกสาวคนหนึ่ง อยากได้เป็นลูกสะใภ้ แต่ถ้าไม่ได้ก็ขอเป็นลูกบุญธรรม ตรงนี้เดียปลื้มและขอบคุณในความเมตตาของท่าน”นักร้องสาวอาร์แอนด์บี ยืนยันสัมพันธภาพระหว่างเธอและอดีตนายกฯ ว่า เขาเปรียบเสมือนเป็นพ่อคนที่ 2

“พ็อกเกตบุ๊กเล่มนี้จะมีเรื่องราวที่ทุกคนอยากรู้และสงสัยกันมานาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวที่มาที่ไปที่ทำให้ครอบครัวเดียและครอบครัว “ชินวัตร” รู้จักกัน ความรู้สึกต่างๆ เรื่องราวเบื้องลึก รูปภาพที่ใครๆ ไม่เคยรู้และไม่เคยเห็นมาก่อน จะเล่าทุกอย่าง ประวัติ การทำงาน ธุรกิจของพ่อแม่ ซึ่งทางคุณทักษิณไม่ได้แนะนำอะไรหรอกค่ะ มีแต่โทรมาให้กำลังใจว่า ถ้าไม่ติดภารกิจ ในวันเปิดหนังสือจะเดินทางมาให้กำลังใจเดียค่ะ” ลีเดีย ทิ้งท้าย สุดท้าย เรื่องราวก็มาจบลงตรงครอบครัวของลีเดียและครอบครัวของอดีตนายกฯ ทักษิณ นั้น มีความสนิทสนมแนบแน่นกันมานานแล้ว