WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, September 4, 2008

มือปืนพันธมิตรกระหึ่มเว็บ


* BBC ประจานคลิปโหด-โพสต์ทั่วเว็บไซต์
คลิปวิดีโอและภาพนิ่งความป่าเถื่อนโหดร้ายของม็อบพันธมิตรฯ ที่ถ่ายไว้ได้โดยสำนักข่าว BBC ถูกเผยแพร่ออกไปทั่วโลก และขึ้นประจานไว้ตามเว็บไซต์ต่างๆ ให้เห็นภาพจะจะนาทีชีวิตที่ม็อบโหด กำลังชักปืนยิงใส่ฝ่ายต่อต้านฯ จนเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บอีกหลายคน ขณะที่นักเลงพันธมิตรฯ กลับไม่มีใครโดนลูกปืน เผยวางยุทธการแบบทหาร ส่อจงใจเอาชีวิต ชาวเว็บไซต์รุมสาปแช่ง จี้ตำรวจเอาคนผิดมาลงโทษ บช.น. สั่งเร่งรวบรวมหลักฐานสาวให้ถึงตัวคนร้ายเร็วที่สุด ส.ส.พลังประชาชน ออกแถลงการณ์ประณาม จี้บังคับใช้กฎหมายเคร่งครัด

+ ส.ส.พปช.ประณามพันธมิตรฆ่าคนไทย
จากเหตุการณ์เมื่อเวลาประมาณ 00.30 น. วันที่ 2 กันยายน 2551 ที่กลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯ ปกป้องรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ปะทะม็อบพันธมิตรทำลายประชาธิปไตยที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ได้มีภาพถ่ายและคลิปเผยแพร่ไปอย่างกว้างขวาง แสดงให้เห็นชัดเจนว่าแก๊งพันธมิตรฯ ติดอาวุธครบมือ และกระทำการอย่างโหดร้ายป่าเถื่อน

นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นว่ากลุ่มการ์ดพันธมิตรฯ ถูกฝึกมาอย่างดี ซึ่งพบว่าจากชั้นเชิงการเคลื่อนไหวเข้าบุกยั่วยุล่อให้กลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯ เข้าตอบโต้ จากนั้นจึงให้คนที่ซุ่มอยู่ตามซอยยิงปืนขึ้นมาจำนวนหลายนัด เป็นยุทธวิธีแบบเดียวกับทหาร

มีการระดมยิงด้วยกระสุนลูกแก้วและนอตควงหรือแม้กระทั่งยิงกระสุนปืนจริง ใส่กลุ่มต่าน และกลุ่มพันธมิตรฯ ที่อยู่แนวหน้าก็กรูเข้ารุมทำร้ายอย่างป่าเถื่อน

เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้หลายฝ่ายออกมาประณามการกระทำครั้งนี้เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุและเกินขอบเขตของกฎหมาย และทำให้สังคมเห็นธาตุแท้ของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่าที่แท้คือ “ฆาตกร”

ในเว็บไซต์พันทิปได้มีผู้แสดงความคิดเห็นมากมายตลอดทั้งวัน โดย คุณ saipin แสดงความเห็นว่า

“เห็นภาพแบบนี้แล้ว...น้ำตามันจะไหล ไม่อยากเห็น ไม่อยากรับรู้ ไม่อยากดูเลย สงสาร สงสารจัง ผู้ชายเลือดอาบใส่เสื้อสีแดงคนนั้น เขาไม่ใช่ผู้ร้าย เขาไม่ใช่คนชั่วสักหน่อย แต่เขากลับโดนทำร้ายร่างกายแบบนั้น อุดมการณ์ ความมุ่งมั่น และใจที่คิดว่าประชาชนคนหนึ่ง ควรทำอะไรให้รู้บ้างว่า ประชาชนหรือพลังเงียบเขาคิดอย่างไร ไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาทำไป การที่เขาเดินหน้าออกมาปกป้อง ความชอบธรรม ออกมาปกป้องรัฐบาลและนายกฯ ด้วยมือเปล่า จนเขาเจ็บตัว เลือดชะโลมกายซะขนาดนั้น มีใคร เห็นคุณค่า เห็นความหมายของสิ่งที่เขากระทำลงไปบ้างไหม อย่างน้อย ก็ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่บ้านเมือง จับตัวฆาตกรใจโหด มาลงโทษให้ได้

โดย คุณ BenzThunder แสดงความคิดเห็นว่า “หลักฐานมีแล้ว ตำรวจจับเข้าคุก พวก พธม. พวกคุณทำกันเกินไปหรือเปล่า อย่าลืมสิ พวกคนที่คุณฆ่าเขา ทำร้ายเขา เขาเป็นคนไทยที่รักชาติเหมือนคุณ ลืมตาให้กว้างๆ สิ อย่าให้ใครเขามาใช้พวกคุณเป็นเครื่องมือ”

คุณตริวิกรมเสน แสดงความคิดเห็นว่า “ชายไทย สูง 170-175 หนัก 70-75 อายุ 40-45 ใส่เสื้อ XL ปล่อยชาย กระเป๋าสะพายพกซ่อน มีอาวุธ 9 มม.ในครอบครอง การยิงค่อนข้างแม่นยำ พฤติกรรมน่าจะยังคงวนเวียนแถวเวทีมัฆวานอีก น่าจะมีคนรู้จักหรือจำได้ เพราะคงเคยมาแล้วหลายครั้ง มีการคิดและตระเตรียมเหตุการณ์ล่วงหน้า”

คุณ BenzThunder แสดงความคิดเห็นว่า “มีหมวกกันน็อก และยิงเข้าใส่พวก นปก. ก็แน่ชัดอยู่แล้วว่าต้องเป็นฝ่ายพันธมิตร เพราะฝ่ายพันธมิตรจะมีหมวกกันน็อกที่ตำรวจแจกให้ไปและบุคคลผู้นี้เล็งปืนเข้าใส่ผู้ร่วมชุมนุมที่มามือเปล่าจากฝ่าย นปก.ด้วย อยากให้ตำรวจสอบสวนด้วยว่าลูกกระสุนปืนที่หายไป ตรงกับลูกกระสุนปืนและปืนของตำรวจที่หายไปหรือไม่ และตรงกับอาวุธบางส่วนที่ยึดได้จาก กบฏพันธมิตรหรือไม่ นอกจากดูภาพข่าวจากทีวี ดูพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ แล้วควรสอบสวนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และร่วมอยู่ในเหตุการณ์ด้วย

ด้าน พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 กล่าวว่า ได้สั่งการไปยังพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ให้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานในวันเกิดเหตุให้ได้มากที่สุดพร้อมสอบปากคำผู้บาดเจ็บและผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทุกรายให้ได้ข้อเท็จจริงพร้อมให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีให้ได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการประสานสื่อมวลชนนำหลักฐานภาพที่บันทึกได้ชัดเจนถึงการกระทำผิดกฎหมายที่เกิดขึ้นมาตรวจสอบ

พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า ตนฝากประชาสัมพันธ์ไปยังแกนนำผู้ชุมนุมทั้ง 2 ฝ่าย ผู้ชุมนุมและประชาชนที่เห็นเหตุการณ์ให้เข้าให้ข้อมูลเบาะแสกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเร่งด่วนเพื่อให้การสืบสวนสอบสวนเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ทั้งนี้คาดว่าคงต้องอาศัยเวลาอีกระยะหนึ่งเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเนื่องจากจุดเกิดเหตุเป็นที่มืดและแสงสว่างมีน้อย

โรงพยาบาลวชิรพยาบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่จำนวน 5 ราย มีอาการดีขึ้นมาก แพทย์ได้ติดตามอาการใกล้ชิด และมีญาติติดต่อเข้ามาขอเยี่ยมและดูอาการ ทำให้กำลังใจผู้ป่วยดีขึ้น

ส่วนอาการของ นายเอกชัย อาจสาคร ที่ถูกยิงบริเวณทรวงอก หลังผ่าตัดอาการดีขึ้นแล้ว ขณะนี้เตรียมถอดท่อระบายเลือดออก ส่วน นายณรงค์ศักดิ์ กอบไธสง ผู้เสียชีวิตจากเหตุปะทะกัน ทราบว่าขณะนี้มีญาติติดต่อขอรับศพแล้ว

ด้าน น.ส.อนัญญา พลเยี่ยม อายุ 40 ปี อาชีพแม่ค้า ตัวแทนกลุ่มสตรีเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งเป็นเพื่อนของนายณรงค์ศักดิ์ กอบไธสง ผู้ตายเดินทางมาเพื่อมอบเงินบริจาคจำนวนหนึ่งให้กับญาติของนายณรงค์ศักดิ์

น.ส.อนัญญา กล่าวว่า กลุ่มของตนดูอาจจะไม่มากนักแต่ได้ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อต้องการให้ประชาธิปไตยเต็มใบ ทางกลุ่มจึงไปร่วมกับ กลุ่ม นปช.โดยมีจุดยืนเพื่อต้องการให้กลุ่มพันธมิตรฯออกจากทำเนียบรัฐบาล เพราะเท่าที่ผ่านมากลุ่มพันธมิตรฯทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย

สำหรับคนตายก็รู้จักกันมานานโดยเป็นเพื่อนที่ร่วมอุดมการณ์เดียวกัน ซึ่งเห็นผู้ตายประมาณปี 2549ในช่วงที่ นปช.ตั้งเวทีเพื่อที่จะขับไล่พันธมิตร ณ ท้องสนามหลวง ตนก็ได้เจอกับผู้ตายทุกเย็นมีการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการเมือง ส่วนตอนเช้าผู้ตายจะไปทำงาน ซึ่งการเข้ามาในกลุ่ม นปช.ตนยืนยันได้ว่าไม่มีการรับเงินแม้แต่บาทเดียว

น.ส.อนัญญา ยังกล่าวต่อว่า สำหรับเหตุการณ์วันเกิดเหตุ ตนยืนยันได้ว่ากลุ่ม นปช.ไม่ได้มีเจตนาไปหาเรื่องพันธมิตรฯ แต่ที่ไปนั้นแค่ต้องการไปแสดงจุดยืนว่า ที่กลุ่มพันธมิตรฯไปอยู่ที่ทำเนียบนั้นไม่ถูกต้อง โดยวันนั้นผู้ตายได้เดินนำอยู่ด้านหน้า ตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามด้านหลัง ในคืนนั้นกลุ่มพันธมิตรวิ่งเข้ามาทำร้ายร่างกายผู้ตายโดยมีชายฉกรรจ์วิ่งเข้ามาตีด้วยไม้ตอกตะปูจนไม้หัก

หลังจากเห็นเช่นนั้นก็เกรงจะได้รับอันตรายจึงขี่รถจักรยานยนต์เพื่อจะหนี จึงทำให้รถตนเองเสียหลักชนกับรถเพื่อนที่มาด้วยกัน และได้หันหลังไปมองผู้ตายเห็นกลุ่มพันธมิตรฯกำลังรุมทำร้ายซึ่งตอนนั้นไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยต่างคนต่างหนีเพื่อเอาตัวรอด ตอนนั้นรู้สึกตกใจมาก ทุกวันนี้เวลานอนยังเห็นภาพที่นายณรงค์นอนเสียชีวิตยังคาตาอยู่ตลอดเวลา มันเป็นภาพที่โหดร้ายมาก

ด้าน นายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล ประธานที่ปรึกษากลุ่มคนรักทักษิณ ปราศรัยโจมตีการชุมนุมประท้วงของกลุ่มพันธมิตรฯ ภายในทำเนียบรัฐบาล บนเวทีหน้าโรงแรมแกรนด์วโรรส ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ว่าเป็นต้นเหตุสร้างความวุ่นวายให้กับประเทศชาติ พร้อมกับเรียกร้องให้กลุ่มพันธมิตรฯ ยุติการชุมนุม

ทั้งนี้ กลุ่มคนรักทักษิณได้ตั้งโต๊ะรับเงินบริจาค เพื่อนำไปช่วย นายณรงค์ศักดิ์ กอบไธสง ที่เสียชีวิต พร้อมแจกผ้าสีแดงให้กับผู้ที่ขับรถไปมา เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า ต่อต้านกลุ่มพันธมิตรฯ ส่วนสมาชิกกลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯ จ.เชียงราย มีความเห็นร่วมกันว่า ไม่ไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯ ที่กรุงเทพมหานคร แต่จะคงกำลังอยู่ในพื้นที่ เพื่อป้องกันที่กลุ่มพันธมิตรฯ อาจจะปิดสถานที่ราชการและสนามบิน

อนึ่ง คลิปโหดนาทีชีวิตที่กลุ่มต่อต้าน ถูกกลุ่มพันธมิตรฯ โหดยิงปืนเข้าใส่ได้ถูกถ่ายไว้ได้โดยสำนักข่าว BBC และมีการนำเสนอบนเว็บไซต์ให้เข้าไปชมความโหดร้ายป่าเถื่อนได้ และยังมีการนำรูปภาพดังกล่าวเผยแพร่ไปในหลายเว็บไซต์ พร้อมกับการแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง

ซึ่งภาพที่ปรากฏดังกล่าวได้ขัดแย้งอย่างสิ้นเชิงกับข้ออ้างของแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ระบุว่าชุมนุมอย่างสงบ โดยปราศจากอาวุธ รวมไปถึงคำให้ต่างข้างๆ คูๆ ของ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานกลุ่มพันธมิตรฯ ที่อ้างว่า ผู้ต้อต้านอาจจะยิงกันเอง

โดยพบว่าในจำนวนผู้บาดเจ็บมีกลุ่มผู้ต่อต้านถูกยิงหลายราย ในขณะที่กลุ่มพันธมิตรฯ กลับไม่มีใครถูกยิง

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา ส.ส. พรรคพลังประชาชน กว่า 20 คน นำโดยนายอำนวย คลังผา ส.ส. ลพบุรี ระบุว่าได้หารือ กับส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล

และร่วมกันออกแถลงการณ์เปิดผนึกในนามของผู้แทนปวงชนชาวไทย ฉบับที่ 1 โดยระบุว่า การที่บ้านเมืองเกิดความวุ่นวายอยู่ในขณะนี้จนกระทั่งไปสู่การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เมื่อวันที่ 2 กันยายน ที่ผ่านมา จากการหารือแล้วมีมติขอเสนอและข้อร้องเรียน 4 ข้อคือ

1.ขอประณามการกระทำของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ฆ่าคนไทยด้วยกัน

2.ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายโดยด่วน

3.เรียกร้องให้แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ปฏิบัติตามกฎหมายบ้านเมืองโดยการยอมรับคำสั่งศาลในข้อหากบฏ และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

4. ขอเรียกร้องให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ปฏิบัติตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการห้ามชุมนุมเกิน 5 คนในทางการเมือง และการนำเสนอข่าวที่ก่อให้เกิดการบิดเบือนจนอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด เพื่อให้เกิดความสงบสุข

ทั้งนี้นายอำนวยยืนยันว่า การออกแถลงการณ์ฉบับดังกล่าวไม่ได้เป็นการกดดันการทำงานของ พล.อ.อนุพงษ์ แต่อย่างใด โดยทางกลุ่มยังคงเห็นด้วยกับแนวทางการเจรจาของหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่จะปฏิบัติต่อผู้ชุมนุม แต่อยากจะให้มีการเร่งรัดระยะเวลาเพื่อให้สถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว เพราะขณะนี้กลุ่มพันธมิตรฯ ไม่ฟังและไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล