WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, September 1, 2008

“เอาพันธมิตรออกไป เอาประชาธิปไตยคืนมา” (คอลัมน์: สะกิดกระบวนการยุติธรรม)

คอลัมน์: สะกิดกระบวนการยุติธรรม

ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อครับ กับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน กรณีเหตุการณ์กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ใช้แผนยุทธการดาวกระจาย บุกเข้าไปยึดสถานที่ราชการสำคัญหลายแห่ง หนึ่งในนั้นคือ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT รวมถึงทำเนียบรัฐบาล

ที่สำคัญ ภาพเหตุการณ์กลุ่มชายฉกรรจ์ที่บุกเข้าไปทำลายทรัพย์สินภายในสถานีวิทยุโทรทัศน์ NBT ตามที่ปรากฏออกมา บ่งบอกถึงความถ่อย และความอัปยศที่ไม่เชื่อว่า จะเป็นคนของกลุ่มพันธมิตรฯที่อ้างตัวมาโดยตลอดว่า ยึดถือวิถีทางประชาธิปไตย แต่พฤติกรรมที่ปรากฏไปทั่วโลกกลับกลายเป็น กลุ่มโจรมากกว่า เพราะการบุกรุกเข้าไปในสถานที่ราชการ ยามวิกาล พร้อมอาวุธครบมือไม่ว่าจะเป็นมีดดาบ ปืน และอุปกรณ์ที่ใช้เป็นอาวุธสาระพัด คงยากจะบรรยายว่า นี่หรือ คือกลุ่มคนที่ อ้างตัวว่า ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาโดยตลอด

ผมคนหนึ่งล่ะครับที่หมดศรัทธา ทั้งต่อตัวคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ที่ถือว่าเป็นคนมีวิสัยทัศน์คนหนึ่งทางสังคม หรือแม้แต่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ที่เป็นถึงประธานโรงเรียนผู้นำ ที่แม้แต่คนใหญ่คนโตในสังคม เคยให้การยอมรับนับถือ และเข้าไปฝึกอบรมผู้นำ ที่จังหวัดกาญจนบุรี จนเป็นที่รู้จัก แต่ขณะนี้ไม่หลงเหลือความน่าเชื่อถือ และความเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ของบ้านเมืองอีกต่อไปแล้ว

สิ่งที่กลุ่มพันธมิตรใช้แผนยุทธการดาวกระจายขั้นแตกหัก ครั้งนี้ เป้าหมายคงไม่ต้องตีความอย่างอื่น นอกเสียจาก เพื่อต้องการให้เกิดการนองเลือด และให้ทหารเข้าไปทำการปฏิวัติรัฐประหาร นี่หรือ คนที่อ้างตัวมาตลอดว่า เป็นผู้ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย นี่หรือ อุดมการณ์ของผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคยเป็นที่นับถือ เสียดายตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ต้องมาทิ้งอุดมการณ์ที่ท่านเหล่านี้สั่งสมมา และเคยพร่ำสอนเด็ก ๆ และผู้นำหลายคนให้ยึดถือปฏิบัติ แต่วันนี้ท่านกลับทำลายความน่าเชื่อถือของตัวท่านเองจนหมดสิ้น

ผมดีใจกับคำพูดของ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะเบอร์หนึ่งของ 3 เหล่าทัพ ที่ออกมาพูดชัด ฟังชัด ไม่ต้องตีความว่า

“เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลอยู่แล้ เวลานี้ทหารยังไม่ต้องเตรียมอะไร รอดูสถานการณ์เท่านั้น ส่วนการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินนั้น ถ้านายกรัฐมนตรีถามคงต้องช่วยกันคิด ส่วนตัวแล้วคิดว่า ยังไม่จำเป็นต้องประกาศใช้ ถ้าประกาศแล้วจะยุ่ง”

ขณะเดียวกัน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ท่านได้ออกมายืนยันนอนยังอีกครั้งว่า จะไม่มีการทำปฏิวัติอย่างแน่นอน ทำให้หลายฝ่ายสบายใจ

พล.อ.อนุพงษ์ ท่านบอกว่า “กองทัพจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการดูแลสถานการณ์กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง ตอนนี้ยังไม่มีการประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอให้ประชาชนใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ อย่าตื่นตระหนกกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น”

สำทับด้วยเสียงดังฟังชัดจากนายทหารที่คุมกำลังหลักในพื้นที่กรุงเทพมหานคน พล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1 ที่คุมกำลังรบหลักในเมืองหลวงยืนยัน จะไม่มีการปฏิวัติรัฐประหารเกิดขึ้น โดยเชื่อมั่นว่า ยังไม่ถึงจุดที่จะประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรและทหารจะต้องออกมาในขณะนี้ เนื่องจากเชื่อมั่นว่า ตำรวจสามารถควบคุมสถานการณ์ได้

สถานการณ์ที่เกิดขึ้น กลับมีแนวโน้มที่รุนแรง โดยกลุ่มแกนนำพันธมิตร ใช้ยุทธวิธีจู่โจมพร้อมกันทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยไม่ให้ฝ่ายรัฐตั้งตัวเริ่มตั้งแต่บุกยึด สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เอฟ.เอ็ม.97 พร้อมกับปิดล้อมกระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงศึกษาธิการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล หน่วยงานราชการสำคัญ ๆ โดยขยายวงเชื่อมกับแนวร่วมพันธมิตรในต่างจังหวัด

มีการปิดถนนมิตรภาพที่จังหวัดนครราชสีมา ขวางถนนเพชรเกษมช่วงจังหวัดชุมพร กั้นเส้นทางสายเหนือที่จังหวัดพิจิตร

สถานการณ์ที่กลุ่มพันธมิตรกระทำการอุกอาจท้าทายอำนาจกฎหมายบ้านเมือง โดยไม่แยแสเสมือนเป็นผู้อยู่เหนือกฎหมาย ถือเป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐ หรือกบถอย่างชัดเจน ดังนั้นรัฐบาลต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด อย่าปล่อยให้คนนอกรีด นอกกฎหมายมากระทำการเย้ยฟ้าท้าดิน โดยไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะหากเป็นเช่นนั้น ต่อไปประเทศชาติจะอยู่กันอย่างไร เพราะเวลานี้ภาพข่าวที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา ถูกตีแผ่ผ่านทางสำนักข่าวยักษ์ใหญ่ต่างประเทศ ทั้งเอพี รอยเตอร์ เอเอฟพี อัลจาซีร่า รายงานไปทั่วโลก เห็นกันจะจะปรากฎการณ์ม็อบเถื่อน ๆ ตามระบอบประชาธิปไตยแบบฉบับไทย ๆ แต่รัฐบาลยังไม่สามารถทำอะไรได้ หรือใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด ออกมาสยบกลุ่มม็อบนอกรีดเหล่านี้ได้เลย

หากยังเป็นเช่นนี้ ต่อไปเรื่อย ๆ ผมเชื่อว่า อันตรายครับ เพราะภาพที่เกิดขึ้น จะส่งผลกระทบต่อการลงทุนในประเทศในด้านภาพลักษณ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ตราบใดที่รัฐบาลยังปล่อยโอกาสให้ฝ่ายกลุ่มพันธมิตรรุกไล่ฝ่ายเดียว โดยใช้เกมปิดถนนเดินขบวน จนจราจรอัมพาตไปทั่วบ้านทั่วเมือง แถมยังบุกเข้าไปตามสถานที่ราชการต่าง ๆ ทุบทำลายทรัพย์สินเสียหายมหาศาล ลักทรัพย์ และข่มขู่กรรโชกเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ เหมือนโจรไม่ผิดเพี้ยน แต่กลับหนีจ้อยลอยนวลไปได้ เมื่อนั้นผมว่า รัฐบาลคงตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก และจะขาดความเชื่อมั่นจากประชาชนครับ ฉะนั้นอย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวลเลยครับ เร่งรีบเบ็ดเสร็จตีเหล็กแต่ยังร้อน ถอนรากถอนโคน กลุ่มกบถให้สิ้นเสียแต่วันนี้ ผมว่า ประชาชนเสียงข้างมากที่เลือกท่านเข้ามาบริหารประเทศตามระบอบประชาธิปไตย ยังรอปรบมือให้กำลังใจครั้งใหญ่อยู่นะครับ

โดย พ.วิพากษ์