พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงมีพระราชดำรัสว่า "ความสามัคคีปรองดองเป็นกำลังอย่างสูงสุดของชนชาวไทยทุก หมู่เหล่า ความรู้รักสามัคคีของคนในชาติจะทำให้ชาติบ้านเมืองผ่านพ้นอุปสรรค และทำให้สังคมไทยร่มเย็นเป็นสุข"
น่าเศร้าใจที่คนไทยไม่น้อมนำพระราช ดำรัสของพระองค์ท่านมาปฏิบัติ
บ้านเมืองของเราจึงเกิดวิปริต คนไทยเห็นคนไทยกันเองเป็นศัตรูต้องฆ่ากันให้ตายไปข้างหนึ่ง
ล่าสุดก็ตายจริงไปแล้ว 1 ศพ
ถ้ายังดุเดือดเลือดพล่านกันอย่างนี้ก็อาจจะตายอีกหลายศพ??
“แม่ลูกจันทร์” เห็นสภาวะบ้านเมืองแล้วสลดหดหู่
โฆษกรัฐบาลจีนและโฆษกรัฐบางสิงคโปร์ ออกมาแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ในประเทศไทย และเรียกร้องให้คนไทยยุติความขัดแย้งเพื่อให้การเมืองไทยเกิดเสถียรภาพโดยเร็วที่สุด
ต่างชาติเรียกร้องให้คนไทยหยุดทะเลาะกัน อายเค้าบ้างมั้ยถามหน่อย??
ต้องยอมรับว่าประเทศชาติของเรากำลังป่วยหนัก ถึงจะใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นยารักษาโรค ก็ยังไม่ค่อยแน่ใจว่ายาขนานนี้ถูกโรคหรือเปล่า??
คือเชื้อโรคมันดื้อยาซะแล้วว่างั้นเถอะ
ข้อสำคัญ...ตัวยาบางตัวที่ผสมอยู่ใน พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินอาจจะเกิดโรคแทรก ซ้อนอีกตะหาก
ตรงนี้แหละที่หลายฝ่ายยังเป็นห่วง
แต่ “แม่ลูกจันทร์” ยังมั่นใจว่า “พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา” ผบ.ทบ. ในฐานะผู้ใช้ อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะใช้ความพยายามสุดฝีมือเพื่อให้สถานการณ์วุ่นวายคลี่คลายไปได้ระดับหนึ่ง
ระดับหนึ่ง...คือไม่เลวร้ายยิ่งกว่าที่เป็นอยู่
เพราะ “พล.อ.อนุพงษ์” เปิดอกยอมรับเองว่า สถานการณ์เผชิญหน้าระหว่างคนไทย 2 กลุ่ม เป็นปัญหาที่ละเอียดอ่อน
ขนาดรัฐบาลเอาไม่อยู่ ศาลก็เอาไม่อยู่ สภาฯก็เอาไม่อยู่ ถ้าจะหวังให้ ผบ.ทบ. ต้องเอาให้อยู่ก็คงลำบาก!!
ฉะนั้น สิ่งที่น่าจะทำได้คือการป้องกันไม่ให้คนไทย 2 กลุ่มใช้กำลังปะทะกันอีก
ส่วนการที่จะทำให้ปัญหาขัดแย้งยุติ เพื่อให้บ้านเมืองกลับคืนสู่ความสงบ ถ้าหากใช้มาตรการรุนแรงเกินไปก็อาจบานปลายมากกว่าเก่า
ในฐานะผู้ได้รับมอบหมายใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็จะเลือกวิธีเจรจาขอร้องในฐานะคนไทยด้วยกันก่อน
รวมทั้งการใช้กลไกทางกฎหมายตามกรอบกติกาที่มีอยู่
โดยกองทัพจะอยู่ตรงกลางไม่เอียงข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ขอให้ทุกฝ่ายมั่นใจได้ว่าทหารจะไม่ใช้ ความรุนแรงสลายการชุมนุมอย่างเด็ดขาด!!
สรุปว่า...การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่ใช่ยาวิเศษ
ทำท่าจะเป็นยาหมดอายุไปซะฉิบ
มาตรการ 5 ข้อที่ประกาศใช้ตาม พ.ร.ก. ฉบับนี้ ก็ใช้บังคับไม่ได้ซักอย่าง
เอวังก็มีประการฉะนี้แหละ
ป.ล. หลังจากลุ้นเสียวมา 2 เดือนกว่า ในที่สุดที่ประชุมใหญ่ กกต.ก็ลงมติเป็น “เอกฉันท์” ให้ส่งคดียุบพรรคพลังประชาชนให้อัยการสูงสุดยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาตามระเบียบ
พรรคพลังประชาชนของนายกฯ “สมัคร สุนทรเวช” จึงเป็นพรรคการเมืองที่ 3 ต่อจากพรรคมัชฌิมาฯ และพรรคชาติไทยที่โดนจองกฐินไปก่อน
โดยมีพรรคเพื่อแผ่นดินที่ติดกับดักรัฐธรรมนูญรอคิวโดนยุบพรรคเป็นพรรคที่ 4 ??
กัมมุนา วัตตะตีโลโก...สัตว์โลกทั้งหลายจงปลงซะเถิด.
แม่ลูกจันทร์