WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, September 5, 2008

“ผู้นำ” ที่ประชาชนโหยหา!


คอลัมน์ : ละครชีวิต

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า สื่อมวลชนไทยในวันนี้ทำให้ประเทศถอยหลัง และนำความเสื่อมเสียมาสู่ประเทศชาติมากที่สุด

เพราะไม่เคยมียุคไหนที่สื่อหันไปเข้าข้าง “เผด็จการ” ได้มากมายขนาดนี้!

ทำให้ประชาชนที่รักประชาธิปไตยเกิดความท้อแท้ และเบื่อหน่ายต่อการเมืองที่ไร้กฎระเบียบ และเล่นนอกกติกาด้วยความ “หดหู่”

ประเทศไทยค่อนข้าง “โชคร้าย” ที่มี “สื่อมวลชน” และ “นักประท้วง” ที่ขยันเกินไป

เพราะเวลามีการนำเสนอโครงการดีๆ เป็นประโยชน์ต่อประเทศมหาศาล พวกนักประท้วง สื่อมวลชน จะร่วมกันคัดค้าน เขียนข่าวด่าสาดเสียเทเสีย เสี้ยมให้ทะเลาะเบาะแว้งกัน ไม่มีใครยอมใคร เก่งหมดทุกคน

เมื่อสื่อมวลชนเป็นแบบนี้ ไม่สนประชาธิปไตย ก็ไม่รู้ว่าบ้านนี้เมืองนี้จะไปได้ไกลแค่นี้

เอาเป็นว่าใครที่อึดอัด ผมอยากให้หูตากว้างไกลกันหน่อย เพราะโลกเราวันนี้ไม่ใช่ยุคโบราณที่จะมาปิดหูปิดตาเหมือน “กบอยู่ในกะลา”

โลกอินเตอร์เน็ตมีข่าวคราวความเคลื่อนไหวให้ได้เรียนรู้กันมากมายว่า “การเมือง” หรือ “ผู้นำ” แบบนี้ ที่จะนำพาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้า

ช่วงนี้ใครมีลูกมีหลาน เพื่อนฝูงก็แนะนำให้เลือกเสพสื่อกันหน่อย โดยเฉพาะสื่อต่างประเทศ ที่เวลานี้ดูเหมือนจะเป็นกลางมากที่สุด

อย่างเช่น นิวส์วีค นิตยสารชื่อดังของสหรัฐ ที่วางจำหน่ายทั่วโลก ฉบับล่าสุดขึ้นปก 4 ผู้นำในเอเชีย

หนึ่งในนั้นคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ที่ให้ประชาชนทั้งชนชั้นรากหญ้าและชนชั้นกลาง คนทำงานทั่วไป ได้ลืมตาอ้าปาก และตาสว่างกับอะไรหลายๆ อย่าง และหวงแหนสิทธิของตัวเองมากขึ้น

นอกจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมี นายหม่า อิง จิ่ว ผู้นำของประเทศไต้หวัน นายลี เมียง บัก ประธานาธิบดีของประเทศเกาหลีใต้ และ นายอันวาร์ อิบราฮิม อดีตรองนายกรัฐมนตรีของประเทศมาเลเซีย ซึ่งนำพรรคฝ่ายค้านผงาดขึ้นท้าทายพรรคอัมโนเป็นครั้งแรก

ประเด็นที่นิวส์วีคนำเสนอก็คือ The Politics of Practical Nostalgia หรือ “การเมืองแห่งการโหยหาอดีตที่ทำได้จริง”

การเลือกตั้งที่ผ่านมาของทั้ง 4 ประเทศ สะท้อนให้เห็นว่า ในยามที่ปัญหาเศรษฐกิจกำลังบีบรัดทั้งในบ้านและนอกบ้าน

สิ่งที่ชาวเอเชียกำลังโหยหาก็คือ วันคืนเก่าๆ ที่เศรษฐกิจของประเทศขยายตัวอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านชาวเมืองมีการงานมั่นคง มีการเลื่อนชั้นทางสังคม และผู้นำที่สัญญาว่าจะนำ Good Old Days เหล่านั้นกลับมาก็คือ คนที่ประชาชนจะเทคะแนนให้

ในเอเชียเวลานี้ ดูเหมือนว่าการกำหนดนโยบายที่มองโลกในแง่ความเป็นจริง และมีการเปลี่ยนแปลงได้ เพื่อผลลัพธ์ที่สร้างความพึงพอใจให้แก่ประชาชน กำลังอยู่เหนืออุดมการณ์และนโยบายที่ไม่ยืดหยุ่นของอำนาจเก่าในอดีต

ในช่วงทศวรรษ 1980 เศรษฐกิจของเกาหลีใต้ และไต้หวัน เคยขยายตัวถึง 8-9% แต่ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เศรษฐกิจของสองดินแดนนี้เติบโตเฉลี่ยแค่ 5% ล้าหลังอัตราเฉลี่ยของตลาดเกิดใหม่ซึ่งอยู่ที่ 6.5%

นายลี เมียง บัก ให้คำมั่นสัญญาแบบเห็นภาพเป็นตัวเลขด้วยแผน 747 ว่า เขาจะผลักดันให้เศรษฐกิจเกาหลีใต้ขยายตัว 7% ประชาชนมีรายได้ต่อหัว 40,000 ดอลลาร์ ภายในหนึ่งทศวรรษ และเศรษฐกิจเกาหลีจะมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลก

กล่าวกันถึงปฏิกิริยาในมาเลเซียและไทย ผู้เขียนบทความชิ้นนี้ของนิวส์วีค บอกว่า "ดราม่า" และเห็นได้ชัดกว่ากรณีของไต้หวันและเกาหลีใต้เสียอีก

ในมาเลเซีย พรรคฝ่ายค้าน 3 พรรคเล็กๆ เกือบจะโค่นพรรคพันธมิตรรัฐบาลที่ครองอำนาจมาตั้งแต่ครั้งประกาศเอกราชเมื่อเกือบ 40 ปีก่อน ได้อย่างหวุดหวิด

ขณะที่ นายอันวาร์ อิบราฮิม ซึ่งเคยงัดข้อกับอดีตนายกรัฐมนตรี มหาเธร์ โมฮัมหมัด ในหลายประเด็น รวมทั้งเรื่องการเปิดเสรีทางเศรษฐกิจ ก็ผงาดขึ้นมาท้าทายรัฐบาลอีกครั้ง และนโยบายต่างๆ ที่เคยถูกมองว่าเป็นประเด็นอ่อนไหวทางการเมือง อาทิ นโยบาย "ภูมิบุตร" ที่เอื้อประโยชน์ให้แก่ประชาชนเชื้อสายมาเลย์ ก็กำลังถูกหยิบยกขึ้นมาพิจารณาใหม่

ในประเทศไทย นิวส์วีค บอกว่า ประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียงได้ทำลายวงจรของการปฏิวัติที่ล้าหลัง

โดยในอดีตนั้น ผู้นำทหารจะอยู่ในอำนาจให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วค่อยตั้งรัฐบาลพลเรือนที่เป็นพรรคพวกกันขึ้นมาสืบทอดอำนาจ

แต่ในปัจจุบัน เพียงแค่ 14 เดือนหลังจากทำรัฐประหาร อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ฝ่ายผู้นำทหารก็ถูกกดดันโดยกระแสสังคมให้จัดการเลือกตั้งในวันที่ 23 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งผลปรากฏว่า ชัยชนะเป็นของฝ่ายที่สนับสนุนอดีตนายกฯ ทักษิณ

บทความของนิวส์วีคอ้างคำกล่าวของ ธิตินันท์ พงศ์สุทธิรักษ์ จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เปลี่ยนแปลงวิถีที่เคยเป็นในประเทศไทย ตอนนี้กระแสทั้งในประเทศและนอกประเทศ อยู่ข้างทักษิณ

บทความของนิวส์วีคยังบรรยายต่อว่า ความสำเร็จในการใช้นโยบายเศรษฐกิจเพื่อตอบรับกระแสโลกาภิวัตน์คือ ปัจจัยหลักที่ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ขึ้นสู่อำนาจ และเป็นเครื่องอธิบายการกลับมาของเขา

ในช่วง 5 ปีภายใต้การบริหารของ พ.ต.ท.ทักษิณ เศรษฐกิจไทยมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว!

ชนบทเติบโตขึ้น และไทยเป็นเพียงประเทศเดียวในเอเชีย ที่สามารถลดช่องว่างระหว่าง “คนจน” กับ “คนรวย” พรรคไทยรักไทยได้รับความนิยมจากการทุ่มงบประมาณด้านสาธารณูปโภคและการช่วยเหลือคนจน

เช่น การจัดตั้งกองทุนหมู่บ้าน และการประกันสุขภาพ แต่ขณะเดียวกันก็ยังเปิดให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุน และส่งเสริมการค้าอย่างแข็งขัน

บทความของนิวส์วีคชิ้นนี้ ทำให้คนไทยเริ่มมีความหวังขึ้นมาบ้างแล้วใช่ไหมครับ!

ลวดหนาม