สนามหลวง 5 ก.ย.- “สมัคร สุนทรเวช” ย้ำการประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นไปตามขั้นตอน มอบอำนาจ ผบ.ทบ.จัดการ ยืนยันไม่ได้ยึดอำนาจคืนอย่างที่สื่อฯ เสนอข่าว เผยอาจจะทบทวนประกาศภาวะฉุกเฉินใน 1-2 วันนี้ ระบุเมื่อคนไม่เคารพ ก็ไม่จำเป็นต้องมี นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า การประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เป็นไปตามขั้นตอน และได้มอบอำนาจให้กับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ดูแลสถานการณ์ในช่วงที่มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ดังกล่าว แต่พอมีมติคณะรัฐมนตรี เรื่องกำหนดอำนาจหน้าที่รัฐมนตรีเป็นอำนาจนายกรัฐมนตรี ก็ไปลงข่าวว่าตนยึดอำนาจจากผู้บัญชาการทหารบก “ผมและ ผบ.ทบ.คุยกันเมื่อวานนี้ (4 ก.ย.) ว่า ที่สื่อฯ ลงข่าวไม่เป็นความจริง สื่อฯ ไปลงข่าวให้มีความเสียหาย ทำไมไม่ดูช่วงท้ายประกาศว่า อำนาจทั้งหมดให้กับ ผบ.ทบ.เป็นคนใช้ ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ผมก็เห็นใจฝ่ายทหาร ที่อาจจะทำงานลำบาก สังคมไทยทุกวันนี้ไม่ยอมรับอะไรที่ถูกต้อง” นายสมัคร กล่าว ส่วนการยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในพื้นที่กรุงเทพฯ นั้น นายสมัคร กล่าวว่า ก่อนประกาศใช้ ได้ดูเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างรอบคอบแล้ว จึงประกาศออกมา เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ ตามกฎหมายการประกาศใช้ พ.ร.ก.ดังกล่าว จะอยู่ได้ 3 เดือน แต่คงจะไม่ลากให้ถึงขนาดนั้น “ผมคิดมานานแล้ว หากทำอะไรแล้วคนขัดขืน แล้วเสียหาย ก็จะหารือภายใน 1-2 วันนี้ เพราะเมื่อคนไม่เคารพ ก็ไม่ต้องออกก็ได้ แต่ถ้าจะยกเลิกต้องปรึกษาก่อน เพราะก่อนที่จะประกาศก็มีการหารือ ผมยืนยันว่า แนวทางที่ทำมาทุกอย่างเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ผมไม่ได้เป็นคนสร้างความแตกแยกให้บ้านเมือง ต้องย้อนถามพันธมิตรฯ ด้วย ทำไมไม่มีคนเอ่ยถึงต้นเหตุของปัญหา” นายสมัคร กล่าว เมื่อถามว่า หากทิ้งปัญหาให้ค้างคาอย่างนี้จะทำให้เกิดสงครามกลางเมืองหรือไม่ นายสมัคร ย้อนถามว่า จะเกิดได้อย่างไร ในเมื่อต่างฝ่ายต่างไม่มีอาวุธ ตำรวจและทหารไม่ใช้อาวุธ บ้านเมืองสงบเรียบร้อย และหากทุกคนเป็นคนไทยจะต้องไม่เอ่ยถึงคำคำนี้ ส่วนความเป็นไปได้ที่จะเจรจากับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายสมัคร ยืนยันว่า ไม่เจรจา และว่า “ พันธมิตรฯ บอกว่า จะไม่เจรจากับรัฐบาล ไม่เจรจากับผม ผมก็ไม่เจรจาด้วย ถ้าประธานวุฒิสภาจะเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย ก็เป็นเรื่องของท่าน วันนี้ไม่ใช่เรื่องของผม” นายสมัคร ยังกล่าวด้วยว่า รู้สึกประหลาดใจที่คนในบ้านเมืองนี้ไม่ยอมยึดถืออะไรที่เป็นหลักการ รวมถึงนักวิชาการที่มีความรู้ ก็ยังเข้าข้างกลุ่มคนที่ทำผิดกฎหมายมายึดทำเนียบรัฐบาล พร้อมย้ำว่า สิ่งที่ได้พยายามทำอยู่ทุกวันนี้ คือ สร้างกฎเกณฑ์ให้ดี ทำเพื่อสถานการณ์บ้านเมือง ไม่ให้ถูกชาวโลกดูแคลน ว่าเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน และว่า “ผมประกาศจะไม่มีวันยอมแพ้ และไม่ยอมให้สถานการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น คนทั่วประเทศเฝ้ารอดู ถึงได้อยากให้ประชาชนวินิจฉัยด้วยการลงประชามติ”.-สำนักข่าวไทย
อัพเดตเมื่อ 2008-09-05 17:34:09