คอลัมน์ : โต๊ะข่าวประชาทรรศน์
การปะทะกันระหว่างกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ(นปก.) จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย
กระทั่งเป็นเหตุให้รัฐบาลประกาศใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) สถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และทำให้สถานการณ์ดีขึ้น
ช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่รัฐบาลต้องทำงานหนัก เพราะภาพลักษณ์ประเทศชาติเสียหายย่อยยับ
ซึ่งหากปล่อยให้ยึดเยื้อ แกนนำพันธมารไม่ยอมมอบตัวกับตำรวจ และม็อบไม่ถอยออกมาจากทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญ ถือเป็นหน้าตาของประเทศ
ก็จะทำให้เมืองไทยดูแย่ลงไปอีก และถ้าทหารออกมาวุ่นวายก็จะทำให้เมืองไทยกลายเป็นประเทศด้อยพัฒนา
การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินครั้งนี้มีนักวิชาการออกมาเห็นด้วยมากมายว่าเป็นเรื่องที่สมควรทำ
นายอุดม งามเมืองสกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยพายัพ ระบุว่า เนื่องจากสถานการณ์ค่อนข้าง “ตรึงเครียด” จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น
แม้ว่าการออกพระราชกำหนดจะกระทบกับ “ภาพลักษณ์” ของประเทศ ซึ่งหากมีทหารเข้ามาเกี่ยวข้องซึ่งต่างประเทศถือเป็นเรื่องใหญ่
อย่างไรก็ตามไม่อยากให้ประชาชนเกิดความตระหนก เพราะแม้รัฐบาลจะให้อำนาจผู้บัญชาการทหารบก
แต่ไม่ได้หมายถึงการใช้ความรุนแรงควบคุมสถานการณ์ เพียงแต่จะเป็นการใช้กฎหมาย ซึ่งชัดเจนมากขึ้น เช่น การห้ามชุมนุมตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป
ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าประชาชนจะอยู่กันเกิน 5 คนไม่ได้
และสื่อมวลชนก็ไม่ต้องกังวล เพียงแค่ต้องระมัดระวังในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารมากขึ้น
แต่ไม่ได้ห้ามเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร
อย่างไรก็ตาม แม้การออกประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงและจะไม่ส่งผลดีต่อระบอบประชาธิปไตย
แต่เราต้องยอมรับว่า ในขณะนี้พันธมารกำลังก่อความวุ่นวายอย่างไม่เกรงกลัวกฏหมาย
พันธมารไม่ยอมเจรจา และ ปฏิบัติตามกฏหมาย ทำให้สถานการณ์เมืองไทยยิ่งตรึงเครียด
เท่านั้นยังไม่พอ พันธมารยังบีบบังคับให้รัฐบาลต้องลาออก
การชูประเด็นให้รัฐบาลลาออก ทำให้ประชาชนผู้ฝักใฝ่ประชาธิปไตยรับไม่ได้
จึงทำให้เห็นแนวร่วมประชาธิปไตยออกมาร่วมตัวกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะยิ่งทำให้สถานการณ์กำลังจะบานปลายไปใหญ่
อีกทั้งกลุ่มพันธมารกำลังเหิมเกริม ขู่ปิดสนามบิน รถไฟ หยุดเดินรถ และการประกาศว่าจะมีการตัดน้ำตัดไฟ
การกระทำที่ไม่เกรงกลัวกฏหมายครั้งนี้จะทำให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวได้รับความเดือนร้อน
ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และทำให้เศรษฐกิจทรุดไปด้วย !
ดังนั้นหลายฝ่ายจึงเชื่อว่าการที่รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินจะทำให้สถานการณ์โดยรวมดีขึ้น และจะทำให้เหตุการณ์ความวุ่นวายยุติลงโดยเร็ว
ทั้งหมดเป็นไปตามแนวทางความสมานฉันท์ ซึ่งรัฐบาลได้ปรารถนามาโดยตลอด เพราะไม่อยากให้คนไทยทะเลาะกัน
เพราะถ้าทุกฝ่ายมีความรักและความสมานฉันท์กัน
ปัญหาต่างๆ ที่จะนำไปสู่ “ความสูญเสีย”
อย่างเช่น การปะทะกัน การทำสงครามกันก็คงไม่เกิดขึ้น !
บิ๊กโบ๊ต