WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, September 1, 2008

อนาถธิปไตย


คอลัมน์ : บทบรรณาธิการ

หลายคนบอกว่า บ้านเมืองทุกวันนี้กำลังจะกลายเป็นระบอบอนาธิปไตย อันหมายถึงการที่คนจำนวนหนึ่งที่ต้องการให้เกิดสภาวะที่ไร้อำนาจรัฐ ยกเลิก ปฏิเสธอำนาจรัฐ ไม่ยอมรับกฎเกณฑ์ กติกาของประเทศ โดยไม่ฟังเหตุฟังผลอันใด...

ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่เป็นปัญหาให้กับคนไทยทั้งชาติในขณะนี้

ปัญหาของวิกฤตการณ์ “พันธมารธิปไตย” ใช้มาตรการ “ป่วนเมือง” ได้มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาจากรัฐบาลในแนวทางละมุนละม่อมมาโดยลำดับ ผ่อนหนักผ่อนเบา เพราะฝ่ายหนึ่งต้องการสร้างปัญหาให้มีการปะทะสูญเสียเลือดเนื้อ จากคนไทยด้วยกันเอง

เจตนาของเขาระบุชัดแจ้งในการดำเนินการแนวทางอันไร้อารยะในการแก้ไขปัญหา เช่น การปีนรั้วทำเนียบรัฐบาล และส่วนราชการอื่นๆ เช่น กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม และที่สำคัญคือการคุกคามสื่อสารมวลชน คือสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที นอกจากนี้สื่อสารมวลชนหลายสำนักได้ถูกดำเนินการคุกคามสื่ออย่างหนักหน่วง ไม่ว่าจะเป็น อสมท. ไทยพีบีเอส ไทยรัฐ มติชน ข่าวสด เรียกได้ว่า โดนกันทั่วหน้า

อาจารย์มหาวิทยาลัยคนหนึ่ง ใช้การปลุกระดมประชาชนด้วยถ้อยคำสำราก ความถ่อย ความสถุล ไร้สกุลรุนชาติ ต่ำช้าสามานย์ บนเวทีพันธมารมาหลายครั้งหลายหน ยังหันมา พูดจาในลักษณะสำรากถ้อยคำถ่อย สถุล กับสื่อสารมวลชนทำเนียบรัฐบาล

นักวิชาการหลายคนอาจจะพยายามหาความชอบธรรมให้กับกลุ่มคนเหล่านี้ โดยมักจะออกมาการันตีให้กับอาชญากรสำคัญของชาติบ้านเมืองที่โดนข้อหา “กบฏ” และมีการกระทำการขัดคำสั่งศาลหลายครั้งหลายหน โดยไม่คำนึงถึงหลักวิชาการในการยึดความถูกต้องตามหลักการบังคับใช้กฎหมาย

ประเทศชาติ ในขณะนี้อยู่ในสภาพ “ไร้ขื่อแป” หากเป็นสมัยโบราณย่อมใช้คำว่า “แผ่นดิน” เป็น “ทุรยศ” จากน้ำมือของพันธมารธิปไตยเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

ขณะที่อำนาจรัฐบาลในฐานะฝ่ายบริหารไม่สามารถแก้ปัญหาใดๆ ได้

ขณะที่อำนาจฝ่ายตุลาการได้ถูกท้าทายครั้งใหญ่ ตัดสินคดีความภายใต้พระปรมาภิไธย แต่กลับมีคนในสังคมไม่เชื่อถือเชื่อฟัง

เท่านั้นยังไม่พอ ยังก่อหวอดให้รัฐวิสาหกิจนัดหยุดงาน เพียงเพื่อจะเอาความเดือดร้อนของประชาชน ผู้คนในประเทศไทย เป็นตัวประกันเท่านั้นเอง

จากจะใช้ถ้อยคำว่า “อนาธิปไตย” ภายใต้คำแก้ตัวว่า เป็นการชุมนุมแบบ สงบ สันติ อหิงสา คงจะสวยหรูเกินไปสำหรับกลุ่มคนพวกนี้เสียแล้ว

วันนี้ประเทศไทยจะต้องเดินหน้า ทั้งด้าน เศรษฐกิจ สังคม การเมือง ไม่ใช่จะให้การเมืองถอยหลัง ไปสู่ยุคป่าเถื่อน ไปสู่ยุคไร้เหตุผล ไปสู่ยุคที่มนุษย์จะเป็นคนไร้ความคิด ใช้แต่พละกำลังห้ำหั่นกันเอง แตกต่างอะไรกับสัตว์เดรัจฉาน

กลุ่มพันธมารธิปไตยสำคัญตัวผิดว่าเป็นตัวแปรทางการเมือง เพียงเพราะใช้ปฏิบัติการทางการเมืองที่รุนแรง ไม่ต่างอะไรกับสถานะของโจรกบฏปล้นชาติปล้นแผ่นดิน

ทั้งที่ยังบัญญัติและดำรงความคิดเรื่อง การเมืองใหม่ ที่จะให้ ส.ส. มาจากการลากตั้ง 70% และมาจากการเลือกตั้งเพียง 30% ซึ่งถือเป็นการท้าทายอำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทยอย่างมาก

เป็นการเมืองที่สมควรจะเรียกชื่อเสียงเรียงนามเสียใหม่ว่า “อนาถธิปไตย” เพราะการกระทำที่คิดในลักษณะสำคัญตนผิดว่าเป็นตัวแปรทางการเมือง เป็นความคิดที่น่าอเนจอนาถของคนสิ้นคิดเสียจริงๆ